ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net "หมอบุ๋ม" พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงให้คนไทยได้ชื่นใจอีกครั้ง กับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,125 ราย ติดเชื้อในประเทศสะสม 2,444 ราย ผู้ป่วยยืนยันอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้สะสม 188 ราย ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 6 ราย ยอดผู้ป่วยรักษาหายแล้วสะสม 2,987 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 80 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย นับเป็นข่าวดีอีกครั้งที่ตัวเลขอย่างเป็นทางการของการติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศไทยเป็นศูนย์ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 5 ไล่เรียงจากครั้งแรก 13 พ.ค. ครั้งที่สอง 16 พ.ค. ครั้งที่สาม 22 พ.ค. ครั้งที่สี่ 24 พ.ค. และหากคิดแยกเป็นการติดเชื้อในประเทศ กับต่างประเทศซึ่งหมายถึงคนไทยที่กลับมาแล้วอยู่ในสถานกักกันของรัฐ ก็เท่ากับว่าไม่พบการติดเชื้อในประเทศติดต่อกัน 17 วันแล้ว ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.เป็นต้นมา ถึงแม้วันถัดไปจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น เพราะยังมีคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศทุกวันก็ตาม ก็ไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่ตัวเลขการติดเชื้อของคนไทยในประเทศเป็นศูนย์แบบนี้ได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน
๐ "ขณะนี้ที่ประชุม ศบค.ได้ข้อสรุปแล้วว่าจะมีการผ่อนปรนมาตรการกิจกรรมและกิจการในระยะที่ 4 ให้เกือบหมดประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เน้นย้ำว่า ที่ผ่านมาประชาชนได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงให้มีการผ่อนคลายให้ได้มากที่สุดด้วยความระมัดระวัง ซึ่งครั้งนี้จะผ่อนคลายเกือบทั้งหมด" เรียกว่าเฮกันได้เกือบทั้งประเทศแล้ว เหลืออีก 5% ที่เสี่ยงสูงมากจริงๆ อย่างผับ บาร์ อาบอบนวด ยังต้องรอไปก่อน และที่สำคัญ เลขาธิการ สมช. "พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา" ยังแย้มข่าวดีเรื่องยกเลิกเคอร์ฟิวด้วยว่าให้รอฟังวันศุกร์นี้ เพราะต้องรอให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีบิ๊กตู่นั่งหัวโต๊ะไฟเขียวซะก่อน และถ้าฟังจากที่ "เนติบริกร" บอก ประกาศต่างๆ ที่มีศักดิ์เป็นลูก กับเคอร์ฟิวที่เป็นหลานน่าจะสลายไปหมด เหลือไว้ตัวแม่ก็คือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในแง่นี้ก็พอเข้าใจได้ เพราะถ้าเกิดกรณีโควิดระบาดระลอก 2 ขึ้นมาอีก ในเมื่อกฎหมายแม่ยังอยู่ การประกาศใช้ กม.ลูกหรือหลานเพื่อควบคุมสถานการณ์ก็สามารถทำได้ทันที เท่ากับว่า 15 มิ.ย.นี้ ดีเดย์คลายล็อกเฟส 4 รอบนี้ ทำให้คนไทยกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้ง เพราะเกือบ 3 เดือนแล้ว หลังจาก กทม.และหลายจังหวัดล็อกดาวน์ตั้งแต่ 22 มี.ค. ก่อนที่นายกฯ จะประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 26 มี.ค.
๐ ในขณะที่ประชาชนปรับตัวเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่เป็น New Normal กันทั้งประเทศแล้ว กลับกลายเป็นว่าส่วนหัวของประเทศอย่างภาคการเมืองยังย่ำอยู่ที่เดิม อนุรักษ์วิถีน้ำเน่าแบบเดิมๆ อย่างคงเส้นคงวา เริ่มจากพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพลังประชารัฐ เปิดศึกเขี่ย 4 กุมาร ไม่ได้มุ่งแค่แย่งเก้าอี้ในพรรค แต่มองไกลไปถึงชามข้าวใน ครม.ด้วย ช่วงนี้ก็ซาๆ ไปบ้างหลัง "ลุงตู่" ออกมาปรามกลายๆ และรักษาการหัวหน้าอุตตม สาวนายน ย่อมเรียกประชุมชุดรักษาการ 19 มิ.ย.นี้ เตรียมเคาะจัดประชุมสามัญประจำปีในวันที่ 3 ก.ค. เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ไทม์ไลน์ชัดแบบนี้ก็สมใจบรรดาก๊วนก๊กทั้งหลาย พอกลุ่มสมคิดไปแล้ว เก้าอี้ก็ว่าง คราวนี้แหละค่อยมาขย้ำกันเองฝุ่นตลบอีกรอบ
๐ โมเดลนี้ก็เลยลามมาถึงประชาธิปัตย์ ทั้งที่พรรคแตกเป็นเสี่ยงๆ เลือดไหลเป็นลิ่มๆ คะแนนเสียงเรตติ้งหดหายไปเยอะ กลุ่มอกหักไม่สนน่าจะเห็นว่าเข้าที อยากเลียนแบบ พปชร. จุดไฟเผาพรรคตัวเองบ้างเผื่อฟลุก แต่ลืมไปว่าระบบพรรคของ ปชป.กับ พปชร.ต่างกัน กรณี 4 กุมารอยู่แบบขาลอย ไม่แปลกที่จะโดนบีบให้ตกเก้าอี้ ขณะที่ ปชป.เสียงใน กก.บห.ชุดปัจจุบัน ส่วนใหญ่ก็เป็นฝั่งสนับสนุนจุรินทร์ทั้งนั้น ถ้าวัดขุมกำลังกันแล้ว ความหวังที่จะเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่ในเวลานี้ไม่ง่าย รังแต่หาเรื่องให้ชาวบ้านเอือมเปล่าๆ ร้อนถึงอาจารย์ใหญ่ "ชวน หลีกภัย" ต้องออกโรงอบรมลูกพรรคอีกหน “พรรคประชาธิปัตย์มีเรื่องแบบนี้มาเยอะ เช่น เหตุการณ์ 10 มกรา. บทเรียนเหล่านั้นทำให้พรรคกระทบและก็ทำให้ผลในการเลือกตั้งต่อมาเสียหาย ดังนั้น บทเรียนในอดีตควรเป็นข้อคิดเตือนใจของคนที่อยู่ในพรรค ส่วนคนที่ต้องพึ่งพาอาศัยพรรคอย่างเช่นพวกผมก็เป็นหนี้บุญคุณพรรค ฉะนั้นอะไรที่ทำให้พรรคเสียหายก็ต้องระวัง สมาชิกทุกคนต้องคำนึงถึงชาวบ้านที่เลือกเรามา อย่าให้เขารู้สึกว่าเลือกเรามาเพื่อขัดแย้งกันเอง" กรีดนิ่มๆ แบบนี้ไม่รู้ว่าสมาชิกพรรคพระแม่ธรณีฯ จะฉุกคิดอะไรได้บ้างหรือเปล่า.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |