นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติส่งเสริมการใช้และสวมใส่ผ้าไทย โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) เป็นหน่วยงานหลักดำเนินการ และให้ วธ. ร่วมจัดทำแผนงานบูรณาการขับเคลื่อน ในส่วนของ วธ. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วธ. ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ วธ. เร่งยกร่างแผนการส่งเสริมการใช้ผ้าไทย และการเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานภาพรวมของประเทศ อาทิ กรมหม่อนไหม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม แบ่งเป็นการส่งเสริมการใช้ผ้าไทยในประเทศ และการส่งเสริมผ้าไทยสู่ระดับสากลผ่านแผนงาน 3 ด้านหลัก ได้แก่ การจัดทำฐานข้อมูลแหล่งผลิตผ้าไทย ร้านตัดเย็บ และนักออกแบบทั้งระดับท้องถิ่น และผู้มีชื่อเสียง การวิจัยเกี่ยวกับผ้าไทย รวมถึงสถาบันการศึกษาที่มีการอนุรักษ์และสอนการออกแบบผ้าไทยไว้ที่เดียวกัน เป็นแหล่งสำหรับการสืบค้นข้อมูลที่ตอบโจทย์ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับผ้าไทย
นายกฤษศญพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ให้มีการวิเคราะห์ถึงแหล่งผลิตการได้มาของผ้าท้องถิ่นประเภทต่างๆ ต้นทุนการผลิต และการต่อยอดการใช้วัตถุดิบที่เกี่ยวกับผ้าไทยจัดทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นช่องทางการเพิ่มรายได้ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพให้มีมาตรฐาน,การส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาและประชาชนได้สวมใส่ผ้าไทยในชีวิตประจำวัน โดยกำหนดให้การยกร่างแผนดังกล่าวแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.นี้ สำหรับการดำเนินงานรวมรวมองค์ความรู้ผ้าไทย การพัฒนาผ้าไทย การเติมเต็มการออกแบบนั้น มอบหมายให้สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) ร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ส่งเสริมและพัฒนานักออกแบบทุกระดับ ทั้งศิลปิน แห่งชาติ ศิลปินศิลปาธร ดีไซน์เนอร์ นักศึกษาให้มีการ พัฒนาผ้าไทย ต่อยอดสู่การจัดทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำจากผ้าไทยด้วย และการหาแนวทางเปิดช่องทางการจัดจำหน่ายและการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ ผ้าไทยออกสู่ต่างประเทศด้วย
" ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงาน ซึ่งมีแผนงานโครงการทั้งที่มีอยู่แล้ว และจะจัดทำขึ้นใหม่ ต้องแจกแจงให้รู้ว่ามีโครงการผ้าไทยกี่รูปแบบ เพื่อนำจิ๊กซอว์มาต่อกัน แล้วขมวดเป็นโครงการใหญ่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผ้าไทย นอกจากนี้ จะต้องมีการพยากรณ์เทรนด์ผ้าไทยในอนาคต โดยวางแนวทางการส่งเสริมในกลุ่มเป้าหมายหลักทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งให้มีการทำแผนบูรณาการจับมือกรมหม่อนไหมในการพัฒนาผ้าไหม ตลอดจนมูลนิส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ ส่งเสริมผู้ประกอบการผลิตผ้าที่มาตรฐานสากลไปขายในต่างประเทศ สร้างช่องทาง การประชาสัมพันธ์ และการขายให้รอบด้าน" นายกฤษศญพงษ์ กล่าว