10 เม.ย.61- ห้องประชุม ชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ป.ป.ท.) อาคารซอร์ฟแวร์ ปาร์ค ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต พร้อมด้วยนิติกร กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) นำพยานบุคคล และหลักฐานต่าง พร้อมคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องที่อายัดมาจากห้องทำงานของนางรจนา สินที อดีตข้าราชการซี 8 กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อรับโอนเงินจากกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต มามอบให้ ป.ป.ท. โดยมี พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการฯ ป.ป.ท.และพ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา. ผอ.กองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 ป.ป.ท. มาต้อนรับ

นายอรรถพล กล่าวว่า นำพยานที่เปิดบัญชีให้กับนางรจนา พร้อมพยานหลักฐานเอกสาร และเครื่องคอมพิวเตอร์ของนางรจนา 2 เครื่อง มามอบให้กับ คณะกรรมการ ป.ป.ท. ให้ตรวจสอบเพิ่มเติมเนื่องจากมีหลักฐานและร่องรอยที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีการทุจริตเงินกองทุนเสมา ทั้งนี้พยานทั้ง 2 คน ซึ่งเคยเปิดบัญชีให้กับนางรจนา จากการสอบปากคำเบื้องต้น ทั้งคู่ยอมรับว่าเป็นอดีตนักเรียนกองทุนเสมาฯเมื่อปี 2536 ต่อมาได้เข้ามาทำงานเป็นลูกจ้างที่สำนักงานปลัด ศธ. ทำงานใกล้ชิดกับนางรจนา และเคารพนางรจนาเสมือนแม่ ก่อนหน้านี้ปี 2550 นางรจนาขอเลขบัญชี รวมถึงขอให้เปิดบัญชีให้ เพื่อที่จะโอนเงินเข้า

"พยานทั้งคู่คิดว่าเป็นเงินทำธุรกิจของนางรจนา จึงยอมช่วยเหลือ ทราบว่ามีเงินโอนเข้าเพียง 2-3 รายการ ยอดเงินหลักหมื่นบาทเท่านั่น หลังจากนั้นนางรจนาก็นำสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มไป จากนั้นพยานไม่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวทางบัญชีอีกเลย จนกระทั่งมีข่าวนางรจนา จึงไปติดต่อธนาคารตรวจสอบบัญชี จึงพบว่าถูกนำไปใช้ในการทำธุรกรรมทุจริตเงินกองทุนเสมาฯ ก่อนมาพบเจ้าหน้าที่ ศธ.เพื่อให้ข้อมูล นอกจากนี้ยังจากการสืบสวน ยังพบว่ามีอดีตนักเรียนทุนอีกจำนวนหนึ่ง นางรจนาเคยขอให้เปิดบัญชี เพื่อรับโอนเงินทั้งหมด 7 ครั้ง เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท" 

นายอรรถพล เผยต่อว่า จากเดิมพบข้อมูลมีผู้เกี่ยวข้อง 22 คน ล่าสุดเพิ่มเป็น 44 คน จากการตรวจสอบบัญชี 52 บัญชี ความเสียหายขณะนี้ประมาณ 96 ล้านบาท ยังต้องรอการตรวจสิบเพิ่มอีก จึงจะได้สรุปตัวเลขชัดเจนมากกว่านี้ โดยผู้เกี่ยวข้องที่ตรวจพบ 44 คน แยกเป็น 4 กลุ่มได้แก่ กลุ่มนางรจนาและเครือญาติ กลุ่มเพื่อนที่เรียนปริญญาโทด้วยกัน กลุ่มอดีตนักเรียนทุนเสมาฯ และกลุ่มมูลนิธิแห่งหนึ่ง ที่เข้ามาร่วมงานกับ ศธ.เมื่อประมาณปี 2558 ทราบชื่อเจ้าของบัญชีแล้ว 34 คน  โดยมี 7 บัญชี ที่พบเป็น ข้าราชการระดับซี 8 สังกัด ศธ. 2 คน ทหารชั้นประทวน 1 นาย ตำรวจตระเวนชายแดน 1 นาย  เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน 1 คน เจ้าหน้าที่สังกัดกรุงเทพมหานคร 1 คน และครูเทศบาล ที่จังหวัดตากอีก 1 คน

พ.ท.กรทิพย์ เผยว่า รับมอบเอกสาร พยานหลักฐานทุกอย่างที่ ศธ.นำมามอบให้ ก่อนคณะอนุกรรมการจะนพไปตรวจสอบทุกอย่าง ส่วนกรณีบุคคลที่เปิดบัญชีให้นางรจนา อ้างว่าไม่ทราบว่าถูกนำไปใช้ในการทุจริตกองทุนเสมาฯ และจะถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่นั้น เรื่องดังกล่าว คณะอนุกรรมการไต่สวนจะทำการพิจารณาตามพยานหลักฐานทั้งหมด พร้อมหาความเชื่อมโยงทุกมิติก่อนจะสรุป ส่วนข้อมูลพยานทั้ง 2 คนที่ ศธ.นำมามอบให้ ป.ป.ท.จถทำการสอบปากคำ และไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ส่วนกรอบระยะเวลาการดำเนินการหาพยานหลักฐานมี 6 เดือน นับจากวันที่บอร์ด ป.ป.ท. อนุมัติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ก่อนส่ง ป.ป.ช.ตามขั้นตอนกฏหมายต่อไป.