10 มิ.ย.2563 นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวว่า กระทรวงการคลังหนุนการงดจ่ายโบนัสพนักงานรัฐวิสาหกิจทุกแห่งในปี 2563 และให้นำส่งคลังเป็นรายได้รัฐบาล รวมทั้งให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมให้กระทรวงการคลัง เพื่อนำไปฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 คลี่คลาย และจะมีการหารือเรื่องในการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) นั้น ขอชี้แจงว่า กระทรวงการคลังไม่มีนโยบายในเรื่องดังกล่าวและจะไม่มีการนำเสนอให้ คนร. พิจารณาแต่อย่างใด

สำหรับการจ่ายโบนัสพนักงานรัฐวิสาหกิจเป็นเรื่องภายในองค์กรที่คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจจะพิจารณาตามผลประกอบการและเชื่อมโยงกับคะแนนประเมินผลการดำเนินงานประจำปีของรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งจะต้องเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ทั้งนี้การจัดเก็บรายได้แผ่นดินจากรัฐวิสาหกิจในปี 2563 จะยังคงยึดเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ในเอกสารงบประมาณรายรับ ประจำปีงบประมาณ 2563 เช่นเดิม

นายประภาศ ยังกล่าวถึงภาพรวมการนำส่งรายได้แผ่นดินจากรัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่า 50% ในเดือน พ.ค. 2563 อยู่ที่ 4,361 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ส่งผลให้มีเงินนำส่งรายได้แผ่นดินสะสมจากรัฐวิสาหกิจและกิจการฯ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา(1 ต.ค.62 – 31 พ.ค.63) จำนวน 149,283 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายสะสมจำนวน 4,748 ล้านบาท หรือคิดเป็น 79% ของเป้าหมายทั้งปีงบประมาณ 2563 จำนวน 188,800 ล้านบาท

ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้แผ่นดินสะสมสูงสุด 10 อันดับแรก ณ สิ้นเดือน พ.ค. 2563 ได้แก่ 1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) อยู่ที่ 29,198 ล้านบาท, 2. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อยู่ที่ 28,619 ล้านบาท, 3. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล อยู่ที่ 27,674 ล้านบาท, 4. ธนาคารออมสิน อยู่ที่ 18,000 ล้านบาท, 5 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) อยู่ที่ 10,500 ล้านบาท 6. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ อยู่ที่ 5,922 ล้านบาท, 7. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 5,733 ล้านบาท, 8. การท่าเรือแห่งประเทศไทย อยู่ที่ 4,020 ล้านบาท, 9. บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) อยู่ที่ 3,891 ล้านบาท,10. การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) อยู่ที่ 3,839 ล้านบาท และ11. อื่นๆ อยู่ที่ 11,887 ล้านบาท