"พี่สาววันเฉลิม" ร้อง กมธ.กฎหมายเร่งติดตามน้องชายโดนอุ้มหายที่เขมร "ก้าวไกล-เพื่อไทย" จ่อตั้งกระทู้ถามนายกฯ พร้อมเดินหน้าผลักดันร่าง กม.ป้องกันทรมาน "สนท.-เพนกวิน" รณรงค์ผูกโบสีขาวโดนหิ้วขึ้น สน.สำราญราษฎร์ ขณะที่ตำรวจกัมพูชาแจงยังไม่มีความชัดเจนเรื่องหายตัว แต่พร้อมเปิดการสอบสวน "ประยุทธ์" ไม่ขอก้าวล่วงประเทศอื่นแต่พร้อมร่วมมือ
ที่รัฐสภา วันที่ 9 มิถุนายน น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ" ผู้ต้องหาคดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่ถูกอุ้มหายตัวไปจากหน้าคอนโดฯ ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เข้ามายื่นหนังสือต่อนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เพื่อให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
น.ส.สิตานันกล่าวว่า หวังว่าจะสามารถนำตัวนายวันเฉลิมกลับมาได้โดยเร็ว เพราะเรายังมีความหวังอยู่ ขอขอบคุณเด็กๆ ที่ตื่นตัวกับการหายตัวไปของนายวันเฉลิม จนกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้น เรามีความรู้สึกว่าเด็กสมัยใหม่มีความสนใจกับการอุ้มหาย มาวันนี้ขอให้ทางการนำตัวน้องชายกลับมาอย่างปลอดภัย อยากให้ กมธ.เร่งตามหาและติดตามน้องชายกลับมาเร็วๆ ขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยกันแชร์จนทำให้เกิดการติดตามว่านายวันเฉลิมอยู่ที่ไหน ขอบคุณหลายๆ องค์กรที่เข้ามาช่วยเรา โดยขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานรัฐหน่วยงานไหนติดต่อมายังครอบครัวแต่อย่างใด และพร้อมยินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐเพื่อร่วมกันตรวจสอบการหายตัวไปของนายวันเฉลิม
ด้านนายรังสิมันต์กล่าวว่า เรื่องนี้เกี่ยวกับคณะกรรมาธิการโดยตรง และที่สำคัญเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้น รัฐบาลไม่ได้สร้างความกระจ่างและไม่สร้างความเชื่อมั่นว่าจะนำความยุติธรรมคืนมาอย่างไร ดังนั้นอยากเรียกร้องให้รัฐบาลทำงานอย่างใกล้ชิด รัฐบาลมีหน้าที่ประกันความปลอดภัยไม่ว่าคนไทยคนนั้นจะอยู่ในสถานะอะไร หากรัฐบาลล้มเหลวในเรื่องนี้แล้ว เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า จะเสนอเรื่องให้คณะกรรมาธิการพิจารณาในสัปดาห์นี้เพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง เช่น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับในวันที่ 10 มิ.ย.จะมีการยื่นกระทู้ถามสดต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมชี้แจงและสร้างความกระจ่างให้สังคม หวังว่านายกฯ จะมาตอบคำถามที่สังคมสงสัยด้วยตัวเอง อีกทั้งพรรคจะสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย ที่ภาคประชาชนร่วมกันยกร่างขึ้นมาด้วย
จี้รัฐบาลไทยติดตามตัววันเฉลิม
"แม้เหตุจะเกิดในต่างประเทศ แต่รัฐบาลไทยต้องทำหน้าที่ติดตามแสวงหาผ่านกระบวนการทางกฎหมายของประเทศ สิ่งที่เรากังวลที่สุดคือเรื่องจะค่อยๆ เงียบลงไป ความเกี่ยวพันเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่หมายถึงความมั่นคงของคนไทยด้วย ไม่อยากให้รัฐบาลนิ่งเฉยจนเรื่องเงียบหายไป จึงต้องการเห็นความเป็นรูปธรรมของรัฐบาล" นายรังสิมันต์กล่าว
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 10 มิ.ย. ฝ่ายค้านจะตั้งกระทู้สดสอบถามรัฐบาลกรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ต้องหาคดี ม.112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ที่ถูกอุ้มหายไปที่ประเทศกัมพูชา โดยพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะแยกกันถามคนละประเด็นในหัวข้อเดียวกัน เช่น พรรคหนึ่งอาจถามเรื่องสิทธิมนุษยชน ส่วนอีกพรรคถามเรื่องมิติการบริหารจัดการของรัฐ และการประสานงานของกระทรวงการต่างประเทศ เชื่อว่า ประธานสภาจะอนุญาตให้อภิปรายร่วมกันได้เพราะเป็นคนละประเด็น
วันเดียวกัน นายสิรวิทย์ ช่วงเสน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ขอให้เร่งประสานงานทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาเพื่อติดตามตัวนายวันเฉลิม โดยนายสิรวิทย์กล่าวว่า กรณีดังกล่าวมีภาพวิดีโอและมีพยานบุคคลเห็นชัดเจนว่านายวันเฉลิมถูกอุ้ม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญของคนไทยและประชาคมโลก ถือเป็นเรื่องของการละเมิดสิทธิอย่างร้ายแรง แต่กลับพบว่า 4-5 วันหลังเกิดเหตุ รัฐบาลไทยและกัมพูชาเพิกเฉยเหมือนเรื่องนี้ไม่สำคัญ ซึ่งตนในฐานะที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนจึงยอมไม่ได้
"เมื่อวานทางรัฐบาลกัมพูชาบอกว่ายังทำอะไรไม่ได้เพราะยังไม่มีข้อมูล ขณะที่ตำรวจไทยก็ระบุในทำนองเดียวกัน จะเป็นไปได้อย่างไรคนหายไป 4-5 วัน เป็นข่าวโด่งดังขนาดที่ยูเอ็นยังให้ความสำคัญ แต่หน่วยงานของราชการของเรากลับบอกว่ายังไม่มีข้อมูล ขนาดหมาหายตัวเดียวยังตามหากันทั้งประเทศ แต่นี่คนหายทั้งคนถือเป็นเรื่องใหญ่ ไม่เข้าใจว่ารัฐบาลทำไมถึงเพิกเฉย ไม่เร่งประสานไปทางกัมพูชาเพื่อหาตัวนายวันเฉลิม รัฐบาลควรเร่งดำเนินการให้ได้ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ไม่อยากให้ประชาคมโลกมองว่าเราด้อยพัฒนา" นายสิรวิทย์ระบุ
นายชนินทร์ เกตุปราชญ์ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานและติดตามการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นผู้รับเรื่อง ชี้แจงว่าประธาน กสม.ได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศแล้วเมื่อวาน ก็รอว่ากระทรวงการต่างประเทศจะประสานสถานทูตไทยและทางการกัมพูชาเพื่อมาประมวลว่าความจริงเกิดขึ้นอย่างไร หากญาติมีข้อมูลพยานหลักฐานอะไรก็ส่งไปได้ที่กระทรวงการต่างประเทศ จะได้นำไปประมวลและก็จะนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณา
ด้านสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ได้ออกไปผูกโบสีขาวตามสถานที่ต่างๆ อาทิ กระทรวงกลาโหม, พระลานพระบรมรูปทรงม้า, อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำ สนท.เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กพร้อมภาพถ่ายภายใน สน.สำราญราษฎร์ว่า "เมื่อสักครู่นี้ไปผูกโบขาวที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็เลยโดนตำรวจมาห้ามไม่ให้ผูก เรามา 4 คน แต่ตำรวจมากัน 30 กว่าคน ตอนแรกตกลงว่าจะให้เราถ่ายรูปได้ แต่สุดท้ายโดนจับมาที่ สน.สำราญราษฎร์ ล่าสุดทนายเพิ่งมากำลังจะเริ่มการสอบสวน ผลเป็นยังไงจะอัพเดตให้ทราบกันอีกที ระหว่างนี้ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนผูกโบขาวที่รถ ที่รั้วบ้าน ที่ไหนก็ได้ ผูกกันให้เต็มเมือง เพื่อแสดงจุดยืนทวงความยุติธรรมโดยวิธีสันติ"
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจกัมพูชาเผยว่าจะสอบสวนเรื่องนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวไทยซึ่งลี้ภัยอยู่ในกัมพูชาที่มีข่าวว่าหายไป พร้อมปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กลุ่มสิทธิฯ อ้างว่าเป็นการลักพาตัว
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชาแถลงยืนยันว่า ตำรวจและทางการกัมพูชาไม่ได้จับกุมนายวันเฉลิม และกำลังเปิดการสอบสวนอยู่ ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าข่าวเรื่องการหายตัวไปมีความถูกต้องมากน้อยเพียงใด
ส่วนโฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชาแถลงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า รายงานข่าวของกลุ่มฮิวแมนไรต์วอตช์เป็นข่าวเท็จ คือเรื่องที่อ้างว่ามีผู้เห็นเหตุการณ์และภาพจากกล้องวงจรปิด ว่านายวันเฉลิมถูกลากขึ้นรถกลางวันแสกๆ หน้าที่พักในกรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน
นายกฯ โยน กต.ทำหน้าที่
ขณะที่เอเอฟพีรายงานว่า ครอบครัวร้องขอต่อสาธารณะให้ปล่อยตัวเขา ขณะที่กลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยในไทยจัดการชุมนุมกลุ่มย่อยๆ เรียกร้องให้มีการสอบสวน อนึ่ง นายวันเฉลิม วัย 37 ปี ลี้ภัยไปอยู่ในกัมพูชาหลังการรัฐประหารปี 2557 เป็นที่ต้องการตัวของทางการไทย เนื่องจากกระทำการในข้อหาฝ่าฝืนพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 และมาตรา 116 ในประมวลกฎหมายอาญา จากการเขียนยุยงให้เกิดความไม่สงบ โดยเขาเปิดเพจต่อต้านรัฐบาล และลงโพสต์ล่าสุดไม่กี่ชั่วโมงก่อนหายไป กลุ่มฮิวแมนไรต์วอตช์อ้างว่ามีนักเคลื่อนไหวไทยอย่างน้อย 8 คนที่หนีออกนอกประเทศหลังการรัฐประหารปี 2557 หายตัวไปขณะลี้ภัยอยู่ในกัมพูชา, สปป.ลาว และเวียดนาม
น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า 6 ปีหลังรัฐประหารโดยคณะรักษาสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้เผยแพร่รายงานระบุว่า มีผู้ถูกผลักดันให้ลี้ภัยจากสถานการณ์ทางการเมืองและการไล่ล่ากวาดล้างที่เกิดขึ้นอย่างน้อย 104 ราย ภายใต้ประกาศและคำสั่ง คสช. ในจำนวนผู้ลี้ภัยเหล่านี้บีบีซีไทยได้รวบรวมว่ามีผู้ลี้ภัยอย่างน้อย 9 คนกลายเป็นผู้สูญหายจนถึงปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์คงไม่ลืมคำพูดตนเองที่ต้องการเข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้งเมื่อปี 2557 แต่การที่ประชาชนฝ่ายที่คิดต่างจาก คสช.สูญหายไปแล้ว 9 ราย แต่รัฐบาลเพิกเฉย เป็นการเพิ่มความขัดแย้งให้มากขึ้น ด้วยความรู้สึกถูกกดขี่รังแกจากอำนาจรัฐ
"ถ้าต้องการเป็นรัฐบาลที่แก้ปัญหาความขัดแย้งของประชาชนทั้งชาติจริง ต้องตามหาความยุติธรรมให้ทุกกรณีของประชาชนที่สูญหาย แต่ทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจตนเองเช่น 6 ปีที่ผ่านมา รวมถึงกรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.63 รัฐบาลประสานไปยังประเทศกัมพูชา อาจจะได้ทราบเบาะแสที่หายตัวไป ไม่ใช่รัฐบาลมีท่าทีเมินเฉยต่อการถูกบังคับให้ชีวิตประชาชนคิดต่างสูญหาย รอจนเกิดเป็นกระแสสังคม 4 วันถึงเริ่มมาติดต่อประสานงาน ท่าทีแบบนี้เป็นการตอกลิ่มความขัดแย้งให้เพิ่มมากขึ้น รัฐบาลที่ดีที่อ้างว่าจะสร้างประชาธิปไตยให้ประเทศ คือต้องยอมรับสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกที่ต่างจากชุดความคิดของรัฐบาล" น.ส.เกศปรียากล่าว
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุม ครม.กรณีครอบครัวขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการติดตามตัวนายวันเฉลิมว่า "ผมไม่รู้จักเขาเลย แต่สิ่งที่ร่วมมือได้ก็ร่วมมือไป ซึ่งผมได้สอบถามจากฝ่ายความมั่นคงแล้ว ว่าคนคนนี้อยู่ที่ไหน เป็นอย่างไร ผมไม่เคยรู้จักชื่อเขามาก่อนด้วยซ้ำไป ทราบแต่ว่าเขาหนีไปอยู่ต่างประเทศ ก็ให้ไปติดตามว่าเขาหนีไปด้วยเรื่องอะไร หนีไปอยู่ที่ไหน ถามมาก็เขาหนี ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน เขาไปทำอะไรเราก็ไม่รู้ เราก็คงไม่ไปก้าวล่วงอำนาจประเทศอื่นเขา ซึ่งเขาก็มีกลไกในการตรวจสอบของเขา เพียงแต่เขาสอบถามความร่วมมือ ก็ได้ให้ความร่วมมือเขาไป ผมก็ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ขอให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่เขาด้วยแล้วกัน"
เมื่อถามว่ากรอบของรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าก็จะดำเนินการให้ เพียงแต่ครอบครัวเขาต้องบอกว่าที่ผ่านมาเขาไปอยู่ที่ไหนก่อน ทำไมถึงไปมีข่าวอยู่ที่โน่น ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวให้เขาสอบสวน เขากำลังติดตามอยู่ ก็ยินดีร่วมมือกับทุกอัน ก็เป็นคนไทยที่ไปอยู่ต่างประเทศ
ถามว่าในฐานะ รมว.กลาโหมได้พูดคุยกับนายเตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหมกัมพูชาแล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่ายังไม่มีการพูดคุยกัน แต่กระทรวงการต่างประเทศโดยสถานทูตได้มีการพูดคุยกันแล้ว อะไรที่เป็นหน้าที่ของใครก็ทำไป ยกเว้นนายกฯ ที่ทำในระดับนโยบายก็ยินดีให้ความร่วมมือทุกประการ
ต่อข้อถามว่าจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่ นายกฯ กล่าวย้อนว่า "ที่ถามแบบนี้แหละจะเป็น" ส่วน พล.อ.ประวิตรกล่าวสั้นๆ ว่าเรื่องนี้ให้กระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |