"ประยุทธ์" ลั่นอำนาจปรับ ครม.อยู่ในมือตนคนเดียว ตอนนี้ยังไม่พิจารณา ขอให้รัฐมนตรีทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โวยเล่นข่าวกันจนดรามาเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ไปแล้ว "สมคิด" ทำมึนเรื่องการเมืองเก่าๆ ทำลายคนดี "ชัยวุฒิ" ดีดปากถ้าดีนักก็กลับไปเลี้ยงหลานเป็นนักวิชาการ "พปชร." ยังระอุ สิระโวยต้องประกาศหาคนหาย "ไพบูลย์" บี้เปิดประชุมช่วง 19-21 มิ.ย.
เมื่อวันอังคารที่ 9 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า สถานการณ์ทางการเมืองในหลายวันนี้ได้ติดตามดู ซึ่งก็มีข่าวกันทุกวัน ขอยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น เป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมืองดำเนินการไป ในส่วนของการปรับเปลี่ยน ครม.ก็เป็นเรื่องของตนเอง จะรู้เองว่าควรพิจารณาเมื่อไหร่อย่างไร แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ เพราะฉะนั้นคงไม่ต้องเสนอตัวกันมาเยอะแยะในขณะนี้ พรรคร่วมก็เป็นเรื่องของพรรคร่วม ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลก็มีหลายพรรค เพราะฉะนั้นใครจะเป็นหรือไม่เป็นยังไม่ได้คิดซักอย่าง วันนี้ขอทำงานไปก่อน เพราะฉะนั้นกรุณาเลิกและงดเสนอข่าวพวกนี้ได้แล้ว
"มันเหมือนดรามา มันเหมือนละครสักเรื่องหนึ่ง ก็เหมือนดูละคร ก็ต้องย้อนกลับมาดูตัวเหมือนกัน ดังนั้นอย่าเพิ่งไปถึงตรงโน้นเลย อย่าเพิ่งมาถามว่าผมจะปรับ ครม.หรือยัง ถ้าปรับเมื่อไหร่ผมจะบอกเอง บางทีไม่ต้องบอกผมก็ปรับเอง มันเป็นการตัดสินใจของนายกฯ แต่เพียงผู้เดียวในการที่จะปรับ ครม. ซึ่งก็มีสัดส่วนของแต่ละพรรคอยู่แล้ว ก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรคจะว่ากันมา" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงผลงานในรอบ 1 ปีพอใจมากน้อยเพียงใด นายกฯ กล่าวว่าอยู่ในเกณฑ์ที่พอใจ เพราะหลายอย่างที่ขับเคลื่อนมาก่อนหน้าได้รับการขับเคลื่อนต่อ อะไรที่มีปัญหาก็แก้ไข เช่น เรื่องรัฐวิสาหกิจต่างๆ ก็ต้องใช้เวลาในการแก้ไข และบางกรณีก็ต้องรอเวลาให้สุกงอมถึงจะทำได้ เนื่องจากติดขัดในข้อกฎหมาย
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จะไปรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะกระทบกับการทำงานในส่วนของรองนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า "ทำไมล่ะ ถ้าท่านรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็เป็นเรื่องของท่าน ท่านก็ต้องบริหารของท่านให้ได้ ผมมีหน้าที่ทำงานร่วมกับรองนายกฯ ท่านก็ต้องทำงานทั้งสองด้านให้ได้ ถ้าท่านจะรับงานตรงโน้นก่อน ท่านก็ต้องทำงานตรงนี้ให้ได้เหมือนเดิม"
ถามต่อว่าจะทำให้งานของนายกฯ หนักมากขึ้นหรือเปล่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าไม่หนัก ทุกคนทำงานได้หลายอย่าง เรื่องของพรรคการเมืองก็เป็นเรื่องของพรรค ไม่เกี่ยวกับการปรับ ครม.จะมาโยงกันได้อย่างไร การปรับ ครม.ก็เป็นเรื่องของ ครม. ก็มีสัดส่วนของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าการที่นายกฯ ขอร้องสื่อไม่ให้ถามเรื่องการปรับ ครม. แล้วได้สะท้อนไปยังผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหว รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาลต่างๆ แล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ผมพูดไปหมดแล้ว เมื่อสักครู่ผมก็พูดไปแล้ว ที่สำคัญสื่อก็อย่าไปถามเขาก็แล้วกัน"
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่กระแสข่าวการปรับ ครม.โดยเฉพาะ 3 รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในช่วงการฟื้นฟูหลังโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า "ยังไม่เห็นจะมีใครหลุดหรือไม่หลุดเลย ใครจะหลุดใครจะเข้ายังไม่ได้ดูเลยทั้งสิ้น เอางานวันนี้ให้ได้ก่อน ก็ทำงานไป คนที่อยู่ในตำแหน่งวันนี้ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน"
เมื่อถามว่าถ้ามติที่ประชุมของพรรค พปชร.เลือก พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรค ก็ไม่ขัดข้องใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าให้เป็นเรื่องของพรรค พปชร.เขา ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรค
เซ็งทอล์กออฟเดอะทาวน์
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงสุขภาพของ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ เพราะมีอายุมากแล้วหากรับ 2 ตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าไปถามท่านดู สื่อเองก็รู้ว่าพรรคการเมืองเป็นแบบยิบย่อย ซึ่งทุกพรรคก็เป็นแบบนี้ เพียงแต่จะออกสื่อหรือไม่เท่านั้นเอง วันนี้ก็เป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์กันอยู่ เป็นเรื่องสำคัญที่สื่อคุ้ยกันทุกวันอยู่แล้ว
เมื่อถามว่านายกฯ จะเข้าไปสยบปัญหาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าจะไปสยบอะไรเล่า ก็เพียงแต่ขอร้องว่าอย่าพูดกัน ให้ข่าวกันแล้วคนตัดสินใจเรื่องปรับ ครม.คือตนเอง เข้าใจหรือไม่ ไม่ใช่หัวหน้าพรรค ในส่วนพรรคของท่านก็ไปเตรียมการคนของท่านไว้ เมื่อไหร่ที่ปรับก็นำมาพิจารณา และเมื่อพิจารณาแล้วหากเห็นว่าไม่เหมาะสมก็เปลี่ยนคนเท่านั้นเอง อำนาจมีอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ 3 รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ทั้งนายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษาฯ จะพูดคุยกันถึงจุดยืนและท่าทีต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าเขาก็คุยกันไป ก็คุยกันทั้งนั้น แต่ตนเองไม่ได้คุยด้วย รวมทั้งก็ไม่ได้คุยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ประชุม ครม.ว่าช่วงท้ายการประชุม นายกฯ ได้พูดขึ้นมาถึงการปรับ ครม.ว่า "ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การเมืองก็เป็นเรื่องการเมืองไป ตอนนี้ยังไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ให้ทุกคนทำงานตามหน้าที่กันไปให้เรียบร้อย เรื่องอื่นตัดสินใจเอง ใครมีอะไรไหม สวัสดี"
ขณะที่ พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงประเด็น 3 กุมารหารือท่าทีสั้นๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า "ไม่มีอะไร" และเมื่อพยายามสอบถามว่าแล้วจะจบอย่างไร พล.อ.ประวิตรขึ้นรถประจำตำแหน่งออกไปทันที
ด้านนายสมคิดกล่าวเช่นกันว่ายังไม่ได้มีการหารือกับ 3 รัฐมนตรีดังกล่าว และไม่ได้มีคำแนะนำใดๆ ในเรื่องการลาออกด้วย ซึ่งเรื่องการลาออกคงต้องไปถามเจ้าตัวเอง จะไปรู้ได้อย่างไร ส่วนความขัดแย้งภายในนั้นไม่มีอะไร ส่วนกรณีที่พูดถึงว่าคนดีอยู่ไม่ได้ ก็ไม่ได้ต้องการสื่ออะไร
นายสุวิทย์กล่าวถึงกระแสข่าวยื่นใบลาออก โดยย้อนถามว่าใครปล่อยข่าว คลิปเก่าหรือไม่ ยืนยันยังไม่ลาออก และส่วนใหญ่ที่พูดกับนายกฯ ก็เป็นเรื่องเนื้องานกันมากกว่า ไม่ได้คุยถึงเรื่องตำแหน่งว่าจะอยู่หรือไม่อยู่แต่อย่างใด
เมื่อถามว่านายสมคิดให้คำปรึกษาหรือไม่ นายสุวิทย์กล่าวว่าต้องพูดคุยกัน 3 คนก่อน และอย่างที่เคยบอกว่านายกฯ และนายสมคิดเป็นคนดึงให้ตนเข้ามาร่วม ครม. ดังนั้นถึงอย่างไรก็ต้องปรึกษาทั้ง 2 ท่านก่อน ส่วนจะมีทางออกในเร็วๆ นี้หรือไม่ ขอให้แยกเรื่องการเมืองออกจากเรื่องการปรับ ครม. มันคนละเรื่องกัน
ขณะที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิเสธตอบคำถามใดๆ
สวนหมัด 'สมคิด'
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรักษาการ กก.บห.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีนายสมคิดระบุว่าเพราะการเมืองเก่าๆ ทำให้คนดีๆ อยู่ไม่ได้ว่า นักการเมืองที่ดีมีอีกมากมาย ถ้าไม่ทำความดีไว้คงไม่ผ่านการเลือกตั้งมา วันนี้พวกเรากำลังหาคนที่ดีที่สุดมาทำงานเพื่อประชาชน คนที่ยังดีไม่พอก็ควรถอยออกไป ไปอยู่ในที่ที่เหมาะกับความดีของท่าน กลับบ้านไปเลี้ยงหลานหรือกลับไปเป็นนักวิชาการ คงเหมาะกับความดีของท่านมากกว่า วันนี้พรรค พปชร.มีคนที่ดีกว่าพวกท่านอีกมากมายที่พร้อมมาทำงาน เราต้องการคนดีที่มาช่วยทำให้พรรคสามัคคี เข้มแข็ง และเดินหน้าทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน
"ที่ออกมาพูดเช่นนี้เพราะรู้ตัวว่าอำนาจต่อรองในพรรคจะลดลง หัวหน้าและเลขาธิการพรรคที่ทุกคนต่างรู้ว่าเป็นสายนายสมคิดไม่ได้รับการยอมรับหรือไม่ ท่านอาจไม่พอใจ อีกทั้งที่การพูดแบบนี้ทำให้คนในพรรคไม่พอใจ เพราะพูดให้ตัวเองดี แต่คนที่อยู่ต่อไม่ดี สิ่งที่ท่านทำมาตลอดก็สร้างปัญหาภายในพรรคจนต้องแก้อยู่ทุกวันนี้ การโจมตีคนอื่นที่เหมาะสมกว่าเป็นเพราะต้องการรักษาตำแหน่ง ไม่ยอมไปหรือไม่" นายชัยวุฒิกล่าว
สำหรับความคืบหน้าในการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค พปชร.นั้น นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และรักษาการกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค พปชร.กล่าวว่า นายทะเบียนสมาชิกพรรคได้แจ้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับทราบถึงการลาออกของ กก.บห.ทั้ง 18 คนแล้ว และตามข้อบังคับพรรคต้องจัดประชุมภายใน 45 วัน ขณะนี้รอรักษาการหัวหน้าพรรคเรียกประชุม เพื่อกำหนดวันและเวลาการประชุมว่าจะเป็นเมื่อใด โดยจะมีผู้เข้าประชุมเป็นรักษาการ กก.บห.ทั้งคณะเข้าร่วม
เมื่อถามถึงสัดส่วนของผู้ที่จะเข้าไปเป็น กก.บห.ชุดใหม่ นายอิทธิพลกล่าวว่ายังไม่ได้กำหนด ต้องรอหารือในที่ประชุมรักษาการ กก.บห.ก่อน เพราะเดิมตั้งแต่ตั้งพรรคไม่ได้มีการกำหนดสัดส่วน โดยองค์ประกอบจะต้องเป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง ในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารพรรคขึ้นอยู่กับสมาชิกจะคัดเลือก คาดว่าคงเป็นผู้บริหารของพรรคและรัฐบาลในปัจจุบัน
เมื่อถามว่าหาก พล.อ.ประวิตร ประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร.มาเป็นหัวหน้าพรรค ผู้ที่เหมาะสมจะเป็นเลขาธิการพรรคควรมีคุณสมบัติอย่างไร และใครที่เหมาะสม นายอิทธิพลกล่าวว่าจะเน้นเรื่องการบริหารองค์กร บริหารบุคคล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนพรรคที่จะต้องมีกลไกในการบริหารงานและคน เพื่อนำไปสู่การเป็นสถาบันพรรคการเมือง
บี้เปิดประชุม
วันเดียวกัน ที่ทำการพรรค พปชร.มีการประชุม ส.ส.พรรค ซึ่งมีผู้เข้าร่วมอย่างคึกคัก โดยก่อนเข้าสู่วาระ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.ได้ขอหารือถึงกรณีนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ไม่เข้าร่วมประชุม ส.ส.ถึง 3-4 ครั้ง ว่าเป็นการไม่ให้เกียรติพรรค สมควรดำรงตำแหน่งนี้หรือไม่ และอยากถามว่าท่านจะลาออกเองหรือให้ขับไล่หรือไม่ เพราะไม่สามารถนำปัญหาของประชาชนมาหารือต่อหัวหน้าและเลขาธิการพรรคได้ จึงอยากฝากเรียนถึงท่านประธานในที่ประชุม หากเจอกับนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ ให้ตามมาประชุมพรรคและสอบถามว่าทำไมถึงไม่ให้ความสำคัญกับการประชุมพรรค หรือจะให้ประกาศตามหาคนหาย และหากท่านไม่ให้ความร่วมมือก็ควรออกไปเลยดีกว่า
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รักษาการรองหัวหน้าพรรค พปชร.ชี้แจงว่า นายอุตตมและนายสนธิรัตน์พ้นตำแหน่งไปแล้ว โดยทำหน้าที่รักษาการเท่านั้น ซึ่งเห็นใจ ส.ส.ที่ไม่สามารถได้เจอกับทั้ง 2 ท่านได้ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้เรียกประชุม กก.บห.จึงไม่สามารถนำเรื่องไปแจ้งกับทั้ง 2 ท่านได้ ซึ่งถือเป็นปัญหาของพรรคและเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยน กก.บห.และคืนอำนาจให้สมาชิกพรรคเลือก กก.บห.ชุดใหม่
นายไพบูลย์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมพรรคอีกว่า มั่นใจและเชื่อว่านายอุตตมจะเรียกประชุมในเร็วๆ นี้ โดยไม่ควรเกินวันที่ 19-21 มิ.ย.นี้ เนื่องจากเป็นวันเสาร์-วันอาทิตย์ ไม่มีภารกิจของรัฐมนตรี แต่ถ้ายังไม่ชัดเจนก็คงต้องใช้ พ.ร.ป.พรรคการเมืองไปยื่นต่อ กกต.เพื่อให้เปิดประชุมใหญ่สามัญต่อไป
"ถ้านายอุตตมไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจน คงไม่สามารถตอบคำถามสังคมได้ เพราะปัญหาของพรรคที่ผ่านมาเนื่องจากไม่มีการเรียกประชุม กก.บห.มานาน โดยครั้งสุดท้ายคือวันที่ 26 ม.ค.63" นายไพบูลย์กล่าว
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการจัดการประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองว่าทำได้ทันที แต่ต้องจัดมาตรการตามระบบของสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งในส่วนของพรรค พปชร.หากจะจัดก็ทำได้ แต่เบื้องต้นพรรคยังไม่ได้แจ้งเรื่องการจัดประชุมใหญ่ของพรรคมาที่ กกต. และยังไม่ได้รับการประสานจากนายไพบูลย์ ที่ระบุว่าจะมายื่นหนังสือเพื่อขอให้ดำเนินการและกำหนดวันประชุม.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |