"บิ๊กป้อม” เผยอยู่ระหว่างประสาน “กัมพูชา” ปม “ต้าร์ วันเฉลิม” หายตัว แต่ยังไม่ยกหูคุย “เตีย บันห์” เพื่อไทยออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาลดำเนินการทางการทูต เพื่อปกป้องสิทธิ เสรีภาพ และชีวิตของ "วันเฉลิม" โดยทันที การเพิกเฉยอาจทำให้ประชาชนเชื่อว่ารัฐบาลรู้เห็นหรือมีส่วนร่วมกับการกระทำที่ผิดกฎหมายดังกล่าวเสียเอง ขณะที่นักเคลื่อนไหวบุกสถานทูตเขมร วอนถ้าตายแล้วให้ส่งศพกลับไทย
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยที่ประเทศกัมพูชาว่า ส่วนตัวยังไม่ได้หารือกับพลเอกเตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา
รองนายกฯ เผยว่า ยังไม่ทราบความคืบหน้า เพราะอยู่ระหว่างการประสานพูดคุยกับทางการกัมพูชา ซึ่งเรื่องคดีเป็นเรื่องของกัมพูชาเขา
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานกรมพระธรรมนูญทหารบก และอดีตนายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีการพุ่งเป้าโจมตีกองทัพอยู่เบื้องหลังการหายตัวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ว่ายืนยันว่าทาง คสช.ไม่ได้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดนายวันเฉลิมในฐานความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่ คสช.ได้แจ้งความคือฐานขัดคำสั่ง คสช. เนื่องจากไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 เท่านั้น โดยคดีความต่างๆ ใกล้สิ้นสุดแล้ว ยกเว้นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขั้นตอนกระบวนการพิจารณาคดีที่เป็นไปตามขั้นตอนปกติของศาลยุติธรรม โดยนายวันเฉลิมไม่ต้องขึ้นศาลทหาร ทั้งนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลหลักฐาน
วันเดียวกัน คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่านายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ต้องหากรณีไม่มารายงานตัวตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ได้ถูกกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งใช้กำลังบังคับควบคุมตัวขึ้นรถยนต์ ณ บริเวณหน้าที่พักในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จนบัดนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมนั้น นายวันเฉลิมเป็นบุคคลสัญชาติไทย ย่อมต้องได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญที่จะมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย การจับกุม การคุมขัง การทรมาน ทารุณกรรม หรือการลงโทษด้วยวิธีการโหดร้ายหรือไร้มนุษยธรรมจะกระทำมิได้
เมื่อปรากฏว่านายวันเฉลิมถูกกระทำด้วยพฤติกรรมที่ละเมิดต่อรัฐธรรมนูญและผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศสมควรจะต้องรีบดำเนินมาตรการทางการทูตต่อประเทศกัมพูชาเพื่อปกป้องสิทธิ เสรีภาพ และชีวิตของนายวันเฉลิมที่เป็นคนไทย อันถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมที่เกิดขึ้นกับคนไทยในต่างประเทศในลักษณะเดียวกันกับที่เกิดกับนายวันเฉลิมหลังการยึดอำนาจของ คสช. มิได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก หากแต่เกิดขึ้นมาก่อนแล้วรวม 8 ครั้ง ทำให้คนไทยเสียชีวิต 2 ราย สูญหายโดยไม่ทราบชะตากรรมรวมนายวันเฉลิมอีก 7 ราย
พรรคเพื่อไทยจึงเรียกร้องให้รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการทางการทูตต่อประเทศกัมพูชา เพื่อปกป้องสิทธิ เสรีภาพ และชีวิตของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ โดยทันที การเพิกเฉยของรัฐบาลอาจทำให้ ประชาชนเชื่อว่ารัฐบาลรู้เห็นหรือมีส่วนร่วมกับการกระทำที่ผิดกฎหมายดังกล่าวเสียเอง
ที่สถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข พร้อมนักเคลื่อนไหวกว่า 10 คน รวมตัวเรียกร้องให้ทางการไทยและกัมพูชาชี้แจงการหายตัวไปของนายวันเฉลิม โดยยื่นหนังสือผ่านนายเสาะ พีรี เลขานุการสถานทูต โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ชูป้ายระบุข้อความภาษาอังกฤษแปลไทยว่า “ผมหายใจไม่ออก" อีกด้วย
นายสมยศเรียกร้องให้ทางการไทยและกัมพูชาตามจับคนร้ายที่ก่อเหตุและคนบงการทั้งคนไทยและชาวกัมพูชา หากนายวันเฉลิม เสียชีวิต ก็ขอให้ส่งศพกลับประเทศไทย เพื่อให้ครอบครัวได้จัดพิธีตามศาสนา และจะถือว่าเขาเป็นวีรชนประชาธิปไตย จะไม่ยินยอมให้การตายของนายวันเฉลิมต้องสูญเปล่า
เขายังขอให้ประชาคมอาเซียนที่มีกฎบัตรสิทธิมนุษยชนช่วยกันตรวจสอบรัฐบาลไทยและกัมพูชาที่เพิกเฉย ละเลยกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะหากไม่มีการยึดอำนาจ คนกลุ่มนี้ก็ไม่ต้องลี้ภัยไปต่างแดน และยังทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศได้อีกมาก ทั้งนี้ ขอให้รัฐบาลกัมพูชาคุ้มครองและปกป้องผู้ลี้ภัยการเมืองทั้งหมดทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ขณะนี้ต่อไป
ที่รัฐสภา กลุ่มภาคประชาชนผู้ไม่ยอมนิ่งเฉย ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ผ่าน น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการถูกอุ้มหายของนายวันเฉลิม
นายกันต์ วัฒนสุภางค์ ตัวแทนกลุ่มภาคประชาชนฯ กล่าวว่า เราไม่อาจทนเห็นการกระทำต่อผู้เห็นต่างทางการเมืองได้ ไม่ว่าจะกรณีของนายทนง โพธิ์อ่าน หรือกรณีผู้ลี้ภัยทางการเมืองในประเทศลาว เช่น นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ, นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์, นายชูชีพ ชีวะสุทธิ์ และคนอื่นๆ ที่ถูกอุ้มหาย หรือถูกข่มขู่ว่าจะฆ่า เพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง และถูกยัดเยียดด้วยความไม่ชอบธรรมต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เหตุการณ์ดังกล่าว รัฐบาลไทยกลับนิ่งดูดาย ไม่สนใจ หรือประสานงานกับประเทศที่เกิดเหตุการณ์ ปล่อยคดีเงียบ อย่างกับว่าพึงพอใจที่ได้เห็นการกระทำดังกล่าว เหมือนนายวันเฉลิมไม่ใช่พลเมืองของไทย เป็นการตอกย้ำว่าไทยยังไม่ใช่พื้นที่เสรีแท้จริง จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยติดตามหาผู้ร้ายอย่างจริงใจและจริงจัง
นายกันต์กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องให้สภา ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านดำเนินการ ดังนี้ 1.ประสานงานกับรัฐบาลต่างประเทศ สถานทูตไทย กัมพูชา และลาว ในการหาผู้กระทำความผิดดังกล่าว เหมือนกรณีคดีแหม่มเกาะเต่า ที่ไทยมีการประสานกับกงสุลอังกฤษอย่างใกล้ชิดจนหาผู้ร้ายได้สำเร็จ และ 2.ขอสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย ฉบับประชาชน ฉบับที่ ... พ.ศ. ... เพื่อประกันว่าการอุ้มหาย และการซ้อมทรมานจะไม่เกิดขึ้นอีก
ด้าน น.ส.เบญจากล่าวว่า ตลอดยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ผ่านมา มีผู้เห็นต่างถูกอุ้มหายจำนวนมาก กรณีของนายวันเฉลิมก็ไม่ต่างกับยุค คสช. เป็นความโหดเหี้ยมมากที่สุด เพราะปกปิดต่อสังคมไม่ให้รับรู้ จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล ปกป้องคนไทยทุกคน เพราะถือเป็นหน้าที่ ถ้ารัฐบาลบริสุทธิ์ใจ จะต้องแสดงออกถึงความจริงใจในการช่วยเหลือ แต่หากรัฐบาลนิ่งเฉย อาจเป็นที่กังขาของสังคม ว่าอาจสนับสนุนให้มีการกระทำลักษณะนี้ ต่อจากนี้จะได้ยื่นเรื่องไปยังกรรมาธิการการกฎหมายฯ ได้เข้ามาติดตาม ช่วยเหลือ และพิจารณาในเรื่องนี้ต่อไป
ที่สำนักงานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคอีสาน หรือ กป.อพช.อีสาน ซ.วุฒาราม เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายคุ้มพงศ์ ภูมิภูเขียว ผู้ประสานงานเครือข่ายทนายความเพื่อปฏิรูปความยุติธรรม พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ กรมภักดี ผู้ประสานงานกลุ่มเพื่อนคนไร้บ้าน จ.ขอนแก่น, นายถนัด แสงทอง เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกภาคอีสาน และนายปฏิวัติ เฉลิมชาติ เลขาธิการ กป.อพช.ภาคอีสาน ได้ร่วมกันแถลงการณ์เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์และเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยนั้นได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จากกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม
นายปฏิวัติ เฉลิมชาติ เลขาธิการ กป.อพช.ภาคอีสาน กล่าวว่า การกระทำที่เกิดขึ้นกับผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่เป็นคนไทย แต่กลับถูกบังคับให้สูญหาย เป็นอาชญากรรมร้ายแรงทางกฎหมายระหว่างประเทศ กป.อพช.อีสาน จึงขอเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาเร่งสืบสวนสอบสวนติดตามการหายตัวไปของนายวันเฉลิมอย่างเร่งด่วนและจริงจัง ขณะเดียวกันในฐานะที่นายวันเฉลิมเป็นพลเมืองไทย แม้ว่านายวันเฉลิมจะเป็นผู้ต้องหาตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ของทางการไทย ก็ตาม รัฐบาลไทยจะต้องประสานงานและดำเนินการติดตามหาพลเมืองไทยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ด้วย ดังนั้นหลังจากนี้ไป กป.อพช. มีมติร่วมกันว่าจะนำคณะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือต่อสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย และนายกรัฐมนตรีของไทย เพื่อให้เร่งดำเนินการเอาผิดคนร้ายโดยเร็ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |