ข่าวดี!
    วานนี้ (๘ มิถุนายน) ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ภายในประเทศครบ ๑๔ วัน
    และจะเป็นข่าวดีมากยิ่งกว่า หากประชาชนไม่ประมาท การ์ดไม่ตก!
    อีก ๑๔ วัน หากยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม เราก็จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตเกือบปกติแน่นอน ข่าวไม่ดีก็มีมาก ต่อให้ไม่พบผู้ติดเชื้อในไทย ๑ เดือนติดต่อกัน แต่ "ข้างนอก" ตัวเลขยังพุ่งไม่หยุด  เราทำได้แค่ประคองสถานการณ์
    อย่างน้อยไม่ย่ำแย่กว่าที่เป็นอยู่ในวันนี้ 
    นอกจากโควิด-๑๙ เรายังต้องเผชิญกับปัญหาทางการเมือง 
    ทั้งการเมืองในรัฐบาลเอง 
    และการเมืองฝ่ายต่อต้านรัฐบาล 
    "คนดีๆ มาได้ทั้งนั้น เวลคัม".... สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พูดถึงทีมเศรษฐกิจ หากจะต้องมีการปรับเปลี่ยน 
    "คนดีๆ เราต้องการให้เข้ามาอยู่ในเมืองไทย เข้ามาให้ช่วยทำงานการเมืองใช่หรือไม่ เราเห็นตั้งแต่วันแรกแล้วรัฐมนตรีอย่างเช่น กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนดี คนเก่ง  ซื่อสัตย์สุจริต เขาก็อยู่การเมืองไม่ได้ 
    แล้วถ้าทยอยไปทีละคนใครจะทำงานใช่ไหม พวกเขาไม่ได้เดือดร้อน คนอื่นต่างหากที่จะเดือดร้อน  ช่วยกันนะครับ 
    ผมมองว่าทุกฝ่ายก็รู้จักกันทั้งนั้น ข่าวอะไรก็อย่าไปพูดอย่าไปถาม หยุดได้แล้ว"
    คำพูดของ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐว่า อยู่ในขั้นรุนแรงจริงๆ 
    ถ้าคนดีอยู่ในการเมืองไม่ได้ แล้วปล่อยให้นักการเมืองโสโครก เข้ามามีอำนาจ มันคือการนับถอยหลังรัฐบาลลุงตู่เช่นกัน 
    ขณะที่นักการเมืองในพรรคพลังประชารัฐไล่ฟัดกัน นอกพรรคมีเงื่อนไขใหม่ และสามารถปลุกระดมให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ 
    จบโควิด-๑๙ เปิดฉากไล่รัฐบาลกันทันที 
    เงื่อนไขใหม่ตอนนี้พร้อมแล้ว การหายตัวไปของ "วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์" ปลุกได้ทั้งในและต่างประเทศ
    ใครจะอุ้ม "วันเฉลิม" ไปไม่สำคัญเท่า การนำเงื่อนไขนี้ไปใช้ทำอะไร 
    เรื่องมันเลยเถิดถึงขนาดบรรดาแกนนำนักเคลื่อนไหวพยายามบอกว่า "วันเฉลิม" ถูกฆ่าตายแล้ว
    และเรียกร้องไปยังรัฐบาลกัมพูชาให้ส่งศพกลับไทย 
    พร้อมเชิดชูว่า "วันเฉลิม" เป็นวีรชนประชาธิปไตย จะไม่ยินยอมให้การตายของ "วันเฉลิม" ต้องสูญเปล่า 
    จะเห็นได้ว่าข้อเรียกร้องไปเร็วกว่าที่คิด  
    การไม่ยอมให้การตายสูญเปล่า ก็แปลความได้ว่า จะต้องมีการชุมนุมเรียกร้อง เพื่อบีบให้รัฐบาลต้องรับผิดชอบ แม้จะยังไม่รู้ว่าคนอุ้มเป็นใครก็ตาม
     นักการเมืองในพรรคพลังประชารัฐมองดูรอบตัวเองบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่หากปล่อยให้ศึกในศึกนอกดำรงอยู่อย่างนี้ เลิกคิดเรื่องอำนาจ เรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีไปได้เลย 
    เพราะรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้.