อ่านจากคอลัมน์ กาแฟดำ ของเฮีย สุทธิชัย หยุ่น ในไทยโพสต์ฉบับวันวาน...ที่ให้ช่วงระยะเวลาแห่งความฉิบหาย วายวอด ทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากผลกระทบของ COVID-19 จะปรากฏตัวตนให้เห็นแบบชัดๆ จะจะ คาตา หรือแบบของจริง-ของแท้ ก็น่าจะประมาณอีก 5 เดือนข้างหน้า หรือถ้าเอา  30 วันเข้าไปคูณ ก็ตกอยู่ในราวๆ 150 วัน ตรงกับที่คุณพี่ อ้วน ภูมิธรรม แห่งพรรคเผาไทย เคยประมาณการเอาไว้แบบพอดิบ พอดี...

                                                                    ---------------------------------------------

      จริง-ไม่จริง...คงต้องไปสอบถามรายละเอียดกับใครก็ไม่รู้ (นักวิชาการ) ที่ เฮียหยุ่น ท่านได้ไปพูดคุย เสวนา จนนำมาเรียงร้อย ถ่ายทอด เอาไว้ในคอลัมน์ กาแฟดำ วันวานนี้ แต่เท่าที่ลองหลับตา  จินตนาการ ไปตามเรื่อง ตามราว แนวโน้มที่แต่ละสิ่งแต่ละอย่าง จะเป็นไปตามที่ เฮียหยุ่น ท่านได้บอกกล่าว หรือได้ เตือน เอาไว้ก่อนล่วงหน้า น่าจะมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ไม่ว่าในแง่ ช่วงระยะเวลา หรือในแง่ ความหนักหน่วง ความหนักหนา สาหัส ที่อาจ เลวร้ายกว่าที่คาด หรืออย่างที่นักวิเคราะห์เศรษฐกิจบางราย เคยพูดๆ เอาไว้ว่าอาจเลวร้ายซะยิ่งกว่ายุค ต้มยำกุ้ง เอาเลยก็ไม่แน่!!!

                                                                      -----------------------------------------------

      ซึ่งแน่ล่ะว่า...ภายใต้ความเป็นไปของวิกฤติเศรษฐกิจในลักษณะเช่นนี้ โอกาสที่รัฐบาลจะ เอาอยู่ เหมือนอย่างที่เคยเอา COVID-19 จนพับเพียบ เรียบร้อย ภายในช่วงเวลาอันรวดเร็ว ยังไงๆ...มันคง  ไม่ง่าย อยู่แล้วแน่ๆ โอกาสจะลากเส้นกราฟทางเศรษฐกิจ ที่กำลังดิ่งเหว ดิ่งนรก ระดับลบ 8 ลบ 9 ให้เงยหน้า อ้าปาก แม้แต่ในระดับ 0 เปอร์เซ็นต์ก็ยังดี มันคงต้องเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า อยู่พอสมควร ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อมองถึง โครงสร้างทางเศรษฐกิจ ของประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาที่ต้องยืมจมูกผู้อื่นหายใจ หรือต้องพึ่งพาการส่งออก การท่องเที่ยวเดินทางซะเป็นหลักใหญ่ โอกาสฟื้นจากอาการสลบไสลในระดับ โคม่า หรือระดับอาจถึงกับต้องนอนเป็นผักติดเตียงไปอีกนาน จึงออกจะเป็นอะไรที่ยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ...

                                                                      ------------------------------------------------

      พูดง่ายๆ ว่า...อาจถึงขั้นต้อง ปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ซะใหม่ หรือไม่ก็ต้อง ปรับทิศทางเศรษฐกิจ ให้ผิดแผก แตกต่าง ไปจากเดิม จะเอาแต่มุดทะเล เจาะภูเขา สร้างอะไรต่อมิอะไรให้ก่ายไป-ก่ายมาเป็นแมงมุมยักษ์ ฯลฯ แบบก่อนๆ มันอาจไม่ถึงกับสอดคล้อง กลมกลืน ไปกับความเป็นไปของโลก ยุคหลัง COVID-19 กันซักเท่าไหร่นัก เผลอๆ...อาจต้องงัดเอา เศรษฐกิจพอเพียง แบบทั้งดุ้น  ทั้งด้าม หรือแบบไม่ต้องเสียเวลา ประยุกต์ใช้ กันอีกต่อไป เอาแบบพอเพียง พอประมาณ กันจริงๆ  อะไรที่เป็นความโลภ ความทะเยอทะยาน ต้องลบออกจากพจนานุกรมให้หมดเกลี้ยง โดยเฉพาะ ความเหลื่อมล้ำ ที่ออกจะเป็นเงื่อนไข เหตุปัจจัย ที่ อันตราย เอามากๆ ต้องหาทางลดระดับลงไปให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้...

                                                                       --------------------------------------------------

      เพราะภายใต้ ฉากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ที่อาจ เลวร้ายสุดๆ หรือเลวกันในระดับ worst-case scenario ตามที่เฮีย สุทธิชัย หยุ่น ท่านได้เตือนให้เตรียมตัวรับมือเอาไว้ก่อนล่วงหน้า ยังไงๆ...มันย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องถูกแปลงสภาพให้กลายเป็น การเมือง ไปจนได้ หรือยิ่งเศรษฐกิจเลวร้ายมากขึ้นเท่าไหร่ การเมืองที่ตามมาก็ย่อมเลวร้ายยิ่งขึ้นเท่านั้น การปรับทิศ ปรับทาง หรือกระทั่ง ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ จึงเป็นสิ่งจำเป็น และเป็นสิ่งสำคัญเอามากๆ ถ้าสามารถปรับได้ทันการณ์ ทันเวลา และปรับได้แบบถูกทิศ ถูกทาง โอกาสที่จะลดทอน อันตราย จากการเมือง ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้สูงมากขึ้นไปเท่านั้น...

                                                                       ----------------------------------------------

      ส่วนการ ปรับ ในลักษณะที่ว่า...มันจะเกี่ยวพัน โยงใย ไปถึงบรรดา ทีมงานเศรษฐกิจ อันประกอบไปด้วยบรรดา กุมาร ทั้งหลาย ที่เป็นมือ เป็นไม้ ของท่านรองนายกฯ ป๋าดัน สมคิด ผู้ซึ่งได้ชื่อว่ามีสายสัมพันธ์อันแน่นเหนียวกับพวก เจ้าสัว ในแต่ละราย จนส่งผลให้ประเทศไทยต้องเจริญเติบโต แบบ เจริญเหล้า หรือ เจริญกับแกล้ม มาโดยตลอดหรือไม่ อย่างไร??? ก็ยังมิอาจสรุปได้ เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว...ช่วงหลังๆ นี้ ป๋าดัน สมคิด ท่านดูจะหันมาเริ่มออกแรงดัน เศรษฐกิจพอเพียง กันบ้างแล้ว ด้วยเหตุนี้...การที่ท่านชักดันไม่ค่อยจะเข้า หรือดันไม่ค่อยจะออก ดันไป-ดันมา ชักจะ เจ็บ ยิ่งเข้าไปทุกที มันอาจไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการปรับทิศ ปรับทาง ปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ แต่ดูจะหนักไปทาง ปรับ ครม. ซะมากกว่า...

                                                                      ------------------------------------------------------

      ซึ่งก็เอาเถอะ...ไม่ว่าจะพลังประชารัฐ พลังประชาเละ กันในรูปไหน อย่างไร หรือเพียงใดก็ตามที คงต้องถือเป็น ธรรมชาติทางการเมือง ที่ต้องไปว่ากันเอาเองก็แล้วกัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่หนักไปทาง  ปรับ ครม. โดยไม่คิดจะปรับทิศทางเศรษฐกิจ หรือปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ให้สอดคล้อง กลมกลืน กับความเป็นไปของโลก หรือของ ธรรมชาติที่แท้จริง เปิดผอบออกมา เจอเข้ากับ สุริยะ ซีทีเอ็กซ์ ไปนั่งว่าการพลังงาน สมศักดิ์ เรียงหิน ไปนั่งคมนาคม ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรอย่างที่พวกมังกือการเมืองเขาคาดเดาเอาไว้ก่อนล่วงหน้า อันนั้น...รับรองว่า กุสลา ธัมมา อกุสลา ธัมมา ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี นิมนต์พระขึ้นไปชักบังสุกุลบนเมรุได้โดยทันที ไม่ต้องรอไปถึง 5 เดือน หรือ 150 วัน เอาเลยก็ไม่แน่!!!

                                                                         ---------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Nikki Giovanni...“Mistakes are a fact of life. It is the response  to the error that counts. - ความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต ปฏิกิริยาต่อความผิดพลาดต่างหาก ถือเป็นสิ่งสำคัญ...”

                                                                       ------------------------------------------------------