8 มิ.ย.63 - นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)  (กล่าวว่า วันนี้ตนได้เชิญ นพ.สุขุม กาญนพิมาย ปลัด สธ. และ นพ.อภิชาติ รอดสม และคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงนพ.นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น  เรียกรับเงินบริจาคบริษัทยาเข้ากองทุนพัฒนารพ. และมีคำสั่งย้าย นพ.ชาญชัย  ไปยังกองบริหารการสาธารณสุข และตั้ง นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี มาเป็นผอ.รพ.รักษาการแทน  ซึ่งทำให้ถูกมองว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมนั้น ตนได้ให้นพ.สุขุม ปลัดสธ.มาชี้แจงว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร  และการที่นพ.ชาญชัย ร้องขอความเป็นธรรมมานั้น ก็จะให้ปลัดทำหนังสือชี้แจงกลับมาเป็นทางการ
 
นายอนุทิน กล่าวว่า นอกจากนี้เวลา 11.00 น.ตนยังได้เชิญนพ.ชาญชัย มาพูดคุยเพราะได้รับหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมแล้ว ตนให้คำยืนยันต่อหน้านพ.ชาญชัยว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างที่สุด วันนี้ไม่ได้ถือว่านพ.ชาญชัยมีความผิด แต่อยู่ในกระบวนการสอบสวน ตั้งแต่สอบสวนข้อเท็จจริง   หลังจากนั้นเรื่องจะถูกส่งเข้าคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือนของกระทรวงสาธารณสุข (อ.ก.พ.สธ.) ซึ่ง รมว.สธ.เป็นประธาน เพราะฉะนั้น ส่วนที่ตนจะเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรง ก๋เมื่อเรื่องมาถึงอ.ก.พ. ซึ่งอ.ก.พ. มีคณะกรรมการที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่ได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของรมว.สธ.แม้แต่คนเดียว  ยืนยันไม่มีเรื่องการรู้จักหรือไม่รู้จักใครมาก่อน การจะพิจารณาออกคำสั่งหรือให้นโยบายสิ่งใด เพราะว่ามีความสนิทสนามส่วนตัว แต่ต้องฟังข้อเท็จจริงทุกฝ่ายเพื่อจะได้นำมาพิจารณาได้อย่างรอบด้าน

" สำหรับการรายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงยังเป็นความลับ ผมจะเอามาอ่านยังไม่ได้ ทางคณะกรรมการบอกว่าหากจะอ่านต้องทำหนังสือขอมา  ซึ่งผมไม่ทำเพราะจะเข้าข่ายก้าวก่าย   แต่จะรอตามขั้นตอน เพราะถ้าผลสอบวินัยเสร็จจะต้องส่งเข้า อ.ก.พ.กระทรวงอยู่แล้ว ส่วนที่มีการที่มีการตั้งคำถามว่า หากผมไม่ทำอะไร จะผิดมาตรา 157 หรือไม่นั้น คิดว่าไม่ผิด เพราะอำนาจบริหารราชการแผ่นดินชัดเจน ผู้ที่มีทุกข์จากการกล่าวหา ก็สามารถร้องทุกข์ได้ ที่ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) เขียนอยู่ในกฎหมายชัดเจน แต่ในเชิงการบริหาร ตนขอย้ำว่าต้องทำให้เกิดความเป็นธรรม ไม่มีเหตุผลที่ตนจะต้องกลั่นแกล้งใครเพราะไม่มีศัตรูในกระทรวงสาธารณสุข"นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามว่าผู้ตรวจราชการ ที่ต้องเป็นประธานสอบวินัยร้ายแรงไม่ใช่ลำดับของ นพ.พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผู้ตรวจฯ เขต 11  ดังนั้นจะดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนสอบถามแล้ว ไม่มีกฎระเบียบ ไม่มีลำดับบัญชีการเป็นคณะกรรมการสอบวินัย ทุกอย่างอยู่ที่ในอำนาจของ ปลัด สธ. เพราะเป็นหัวหน้าส่วนราชการ ท่านจะสั่งการ จะใช้ดุลพินิจอย่างไรท่านย่อมทราบในขอบเขตอำนาจ อย่างไรก็ตามทุกอย่างที่นพ.สุขุม ทำก็ยืนยันกับตนว่าท่านพร้อมรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นก็ให้ท่านเป็นคนพิจารณาสั่งการ
 
เมื่อถามว่ามีแพทย์ลงชื่อ นามสกุลจริง ไม่ใช่บัตรสนเท่ห์ ขอให้รมว.สธ.ลงมาดูแลเรื่องนี้เพราะมองว่าปลัด สธ.และนพ.ชาญชัย เป็นคู่กรณีกัน นายอนุทิน กล่าวว่า ปลัด สธ.ไม่ใช่คู่กรณีแต่เป็นผู้บังคับบัญชาของนพ.ชาญชัยและข้าราชการทุกคนในกระทรวง และเรื่องนี้ตนให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว และคิดว่าทุกคนต้องมีวุฒิภาวะจะเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานไม่ได้ สังคมจับตามองอยู่ ไม่มีการทำอะไรด้วยความสะใจหรืออคติแน่นอน ส่วนที่ปลัดสธ.ตั้งนพ.เกรียงศักดิ์ไปรพ.ขอนแก่น 2 รอบเพราะอะไรก็ต้องไปถามปลัด สธ. เพราะ รมว.สธ.ย้ายข้าราชการซี 9 ไม่ได้ แต่ที่อ่านระเบียบ พร้อมฝ่ายกฎหมาย อำนาจที่ตนทำได้มีแค่การสั่งย้ายปลัดสธ.เท่านั้น แต่สิ่งที่ทำได้ในเชิงบริหารคือให้ความเป็นธรรมซึ่งก็ให้แล้ว ถ้าตนไปบอกให้ปลัดสธ.ทบทวนคำสั่ง แล้วปลัดฯ ออกมาบอกว่าที่ทำเพราะรมว.สธ.สั่ง ตนก็ผิดมาตรา157 ทันที แต่หากเรื่องถึงอ.ก.พ.กระทรวงฯ ผมถึงจะมีอำนาจ ทุกอย่างมีขั้นตอน

ส่วนกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีบริษัทบริจาคเงินเข้ามูลนิธิกรมการแพทย์ โดยรมว.สธ.เป็นผู้รับมอบถือว่าผิดด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การบริจาคเข้ามูลนิธิมีใบเสร็จรับเงิน ถามต่อว่ารพ.ขอนแก่นไม่มีใบเสร็จรับเงินหรืออย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นใบรับเงิน
 
ด้านนพ.ชาญชัย กล่าวว่า จากนี้จะไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ อีก หลังจากที่ได้เข้ารายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดต่อ รมว.สธ.แล้ว เชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งปลัดสธ.ตามสิทธิ์โดยยืนยันว่าตนไม่ได้มีพฤติกรรมในการข่มขู่พยานแต่อย่างใด  ซึ่งตามระเบียบจะต้องมีการพิจารณาต่อคำอุทธรณ์ภายใน 30 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านพ.สุขุม ติดภารกิจประชุมเกี่ยวกับงบประมาณ ที่สภาผู้แทนราษฎรจึงยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์.