6 มิ.ย.63 - ที่ศูนย์รักจริงไม่ทิ้งกันร่วมใจฝ่าวิกฤติโควิด-19 และที่หอประชุมเอนกประสงค์ อบต.หนองกระทุ่ม อ.เมืองนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนา นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา พร้อมด้วย ผศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อปท. พ่อค้า นักธุรกิจ ร่วมกันมอบถุงน้ำใจ จำนวน 300 ชุดให้แก่คนยากคนจนคนยากไร้คนไร้ที่พึ่งคนแก่คนชราผู้ทุพลภาพที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 พร้อมข้าวกล่อง

ส่วนที่วัดวิสุทธิศรีสุมังคลาราม ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมืองฯ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมนายธงชัย  ลืออดุลย์ เลขาธิการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เดินทางไปในการมอบถุงน้ำใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้กับจักรยายนต์รับจ้าง แท็กซี่รับจ้าง และสามล้อรับจ้าง จำนวน 300 ชุด พร้อมแจกข้าวกล่อง เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมนำความห่วงใยจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 

ทั้งนี้นายเทวัญ   ได้เน้นย้ำว่าให้ทุกคนใส่ใจดูแลผู้โดยสารและมีวินัย รับผิดชอบต่อสังคมในการป้องกันตนเองทั้งเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัยการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์การรักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อไม่ให้เกิดการระบาดของโรคซ้ำขึ้นอีก  หากทุกคนวินัยที่ดีการกลับมาของโรคก็จะไม่มีหรือมีก็น้อยมา

 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนากรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า เราได้มอบถุงน้ำใจให้ชาวโคราชในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจจากปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยการรวมตัวของส่วนราชการ ภาคเอกชน องค์กรการกุศล แม่บ้าน สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยแจกหน้ากาก เจล แอลกอฮอล์ วันละ 3,000 ชุด แจกข้าวกล่อง แจกถุงน้ำใจ จำนวน 10,000 ถุง เพราะความเดือดร้อนยังมีอีกมาก เพื่อให้กำลังใจกัน ซึ่งอย่างหน้ากากผ้าเดือนละ 100,000 ชิ้นทำมาแล้วกว่า 2 เดือน แจกไปตอนนี้น่าจะประมาณ 300,000 ชิ้นได้และยังทำต่อไปเรื่อยๆจนกว่าโควิด-19 จะหมดไปจากประเทศไทยและหมดไปจากโคราช 

ส่วนหลังระยะ 3 หลายคนเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจนั้น ตนคิดว่าเมื่อพระราชกำหนดกู้เงินได้รับความเห็นชอบและผ่านไปแล้ว งบประมาณต่างๆก็จะลงไปถึงมือพี่น้องประชาชน การเยียวยาก็ลงไปทุกกลุ่มหมด ส่วนโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านตนเชื่อว่าจะมีส่วนในการกระตุ้น และถ้าเราสามารถดำเยนินการคลายล็อตได้เร็ว และคิดว่าตอนนี้เรากำลังจะชนะโควิดแล้วก็ต้องถือโอกาสนี้ในการคลายล็อคเลยและจะมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจกลับมาทำงานกันใหม่ เพราะเราดับเครื่องไว้ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา และถือว่าสร้างงานใหม่กลับมาใหม่ประกอบกับงบประมาณกู้เงินลงมาสู่ต่างจังหวัด สู่ชุมชนต่างๆ 

"เชื่อว่าสสถานการณ์ต่างๆจะเริ่มกระเตื้องขึ้น ถ้าเราสามารถไปถึงระยะที่ 4 หรือถ้าสามารถกลับไปสู่ภาวะปรกติ เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโควิดแล้ว ตอนนี้ก็สู้กันเรื่องเศรษฐกิจเรื่องเดียว ฉะนั้นลำดับขั้นตอนต่างๆถือว่ามาถูกทางที่สุดแล้ว ส่วนโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านจากการดูบรรยากาศการประชุมในสภาฯถือว่าเป็น New normal  ของการเมืองเหมือนกัน เพราะถ้อยทีถ้อยอาศัย ฝ่ายค้านให้ข้อแนะนำ รัฐบาลก็รับฟัง"
 
นายสุวัจน์ กล่าถึงแนวโน้มปรับ ครม. ว่าพร้อมทำงานกับรัฐบาลนั้น ตนไม่ทราบว่าแนวทางการปรับครม.หรือการตัดสินใจเรื่องปรับ ครม.จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ต้องถือว่าเป็นความรับผิดชอบและเป็นภาระหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพรรคชาติพัฒนาถือว่าใน 1 ปีที่ได้รับเกียรติจากนายกฯ ไปร่วมรัฐบาล เราก็ได้ร่วมกันทำงานด้วยดีตลอดมา 

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคชาติพัฒนาจะทำงานเคียงข้างพรรคร่วมรัฐบาล 4 ปีเลยนั้น นายสุวัจน์ หัวเราะก่อนตอบว่า การเมืองครบหรือไม่ครบไม่ทราบ แต่ว่าเราก็ทำตามหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด เป็นรัฐบาลเราก็ต้องทำงานอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือกัน ให้ความคิดเห็นกัน เป็นทีมเวิร์คกัน ทุกคนมีความร่วมมือกันและช่วยสนับสนุนให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาของประเทศให้ลุล่วงไปได้.