โกงกองทุน44รายตร.-ทหารเอี่ยว


เพิ่มเพื่อน    

    รมว.ศธ.สรุปยอดโกงเงินกองทุนเสมาฯ กว่า 96 ล้าน พบ 471 บัญชีไม่ถูกต้อง มีผู้เกี่ยวข้องรวม 44 ราย อึ้ง! ทหาร-ตำรวจมีเอี่ยวด้วย มอบปลัด ศธ.ใช้มาตรการ คสช.ย้ายออกจากตำแหน่ง "อรรถพล" แย้ม 10 เม.ย.เข้าร้อง ป.ป.ท.เพิ่ม "ป้อม" รับเซ็นอนุมัติงบซื้อเครื่องกรองน้ำ โบ้ยการจัดซื้อจัดจ้างเป็นเรื่อง ศอ.บต. ยันซื้อในราคาถูกกว่าปกติ
    เมื่อวันจันทร์ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบข้อเท็จจริงกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตว่า เมื่อเร็วๆ นี้ตนได้รับรายงานจากนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ว่าขณะนี้การสืบข้อเท็จจริงคืบหน้าไปมากใกล้จะสรุปผลแล้ว โดยพบว่าตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ.2548 ถึงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2560 มีการโอนเงินกองทุนเสมาฯ ทั้งสิ้น 1,049 บัญชี เป็นเงินจำนวน 230,251,144 บาท ในจำนวนนี้มีการโอนเข้าบัญชีที่ไม่ถูกต้องถึง 471  บัญชี จำนวนเงิน 96,380,863 บาท 
    "ที่น่าตกใจคือในจำนวนนี้มีข้าราชการที่เกี่ยวข้องทั้งที่เป็นข้าราชการของ ศธ. ข้าราชการกระทรวงอื่น ทหารและตำรวจ โดยในส่วนของ ศธ.พบว่ามีข้าราชการระดับ 8 จำนวน 2 รายอาจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นจะส่งข้อมูลให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ  (ป.ป.ท.) ไปดำเนินการสอบสวนต่อ และระหว่างนี้มอบหมายให้นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ. พิจารณาใช้มาตรการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ย้ายออกจากตำแหน่งเพื่อไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทุนเสมาฯ หลังสรุปผลการสืบสวนสอบสวนแล้วก็ต้องดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการ  ซึ่งความผิดมีหลายระดับต้องพิจารณากันต่อไป ซึ่งมีทั้งละเลย ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หรือจงใจ  และหากพบว่ามีข้าราชการระดับสูงเกี่ยวข้องก็ต้องส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ"
    รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า ขณะนี้เราสืบรายชื่อบัญชีที่มีการรับโอนเงินกองทุนเสมาฯ ได้หมดแล้ว ดังนั้นจะมีการแจ้งความเพิ่มเติมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งรายเก่าและรายใหม่รวมทั้งสิ้น 44 ราย ซึ่งเป็นข้าราชการ ศธ.ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีว่าเป็นผู้รับเงินจำนวน 2 ราย รวมทั้งข้าราชการกระทรวงอื่นด้วย จึงอยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาติดต่อเพื่อชี้แจงข้อมูลต่อคณะกรรมการฯ เรื่องนี้ใครทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องรับผลกรรมนั้น
    ด้านนายอรรถพลกล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่าเรื่องนี้มีผู้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต 4 กลุ่ม คือ  1.นางรจนา สินที ข้าราชการซี 8 ที่ถูกไล่ออกจากราชการแล้วกับเครือญาติซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ 2.กลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นทั้งปริญญาตรีและโท ซึ่งบางรายมาให้ข้อมูลต่อกรรมการและรับสารภาพแล้ว 3.องค์กรการกุศลซึ่งเป็นมูลนิธิที่นางรจนาเข้าไปร่วมเป็นกรรมการ โดยนางรจนาโอนเงินเข้าบัญชีประธานมูลนิธิถึง 7  ครั้งเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท และ 4.กลุ่มนักเรียนทุนเสมาฯ และอื่นๆ ที่มีความสนิทสนมเรียกนางรจนาว่าครู ซึ่งมีเด็กมาให้ปากคำว่านางรจนาให้เปิดบัญชีและเก็บบัตร ATM ไว้ 
    โดยทั้ง 4 กลุ่มมีผู้รับโอน 52 บัญชี และใน 52 บัญชีนี้รู้ตัวเจ้าของบัญชีแล้ว 34 บัญชี ส่วนอีก 18  บัญชียังไม่ทราบเจ้าของ จึงส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รับไปตรวจสอบ ในวันที่ 10 เมษายนนี้ ตนจะเดินทางไป ป.ป.ท.เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ เนื่องจากเรื่องนี้ได้มีการโอนคดีจาก สน.ดุสิตไปที่ ป.ป.ท.แล้ว จะแจ้งความเพิ่มเติมทั้งที่เป็นรายเก่า 22 ราย เนื่องจากพบการกระทำผิดเพิ่มในปี 2548 และที่เป็นรายใหม่อีก 16 ราย รวมทั้งยังมีอีก 6 รายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินเข้าบัญชี แต่มีการเขียนเช็คจ่ายเงินไปมาซึ่งถือว่าอยู่ในข่ายน่าสงสัย 
    "ในส่วนของผู้เกี่ยวข้องทั้ง 44 ราย เป็นข้าราชการ 7 ราย โดยเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาระดับ 8 ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 2 ราย ทหารชั้นประทวน 1 นาย ตำรวจตระเวนชายแดน 1 นาย เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน 1 ราย เจ้าหน้าที่สังกัด กทม. 1  ราย และครูเทศบาล 1 ราย ซึ่งในส่วนข้าราชการ สพฐ.ระดับ 8 มาให้ปากคำแล้ว โดย 1 รายมีการโอนเงิน 1 ครั้ง ส่วนอีก 1 รายโอนเงิน 10 ครั้ง แต่ทั้งสองรายบอกว่าเป็นการโอนเงินใช้หนี้ที่นางรจนายืมไป  อย่างไรก็ตามอยากให้ทุกคนที่รู้ตัวว่าเกี่ยวข้อง ขอให้มาชี้แจงหรือรับสภาพเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะตอนนี้รู้รายชื่อผู้มีส่วนกระทำความผิดแล้ว" นายอรรถพลกล่าว
    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประสาท สุขเกษตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นประธานการประชุมความคืบหน้ากรณีทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง  โดยมีนางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวิทยา นิติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงาน ปปง., เจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ท. และสำนักงาน ป.ป.ช.เข้าร่วมประชุมด้วย 
    นางนภากล่าวว่า ได้รับรายชื่อข้าราชการที่ทุจริตในสังกัด พม.ชุดแรกจำนวน 96 รายชื่อ มีกว่า 10-20 รายชื่อที่ข้อมูลตรงกัน แต่จะต้องดูให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนที่เหลือจะดำเนินการทางวินัยต่อหรือว่าย้ายออกจากพื้นที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างดูข้อมูลอยู่ จากนั้นจะนำข้อมูลของ ป.ป.ท.มาดูร่วมกันว่าข้อมูลตรงไหนดำเนินการไปแล้ว ข้อมูลส่วนใดยังไม่ได้ดำเนินการจะดำเนินการต่อ ส่วนจะต้องมีการเรียกมาชี้แจงก่อนอีกหรือไม่ ป.ป.ท.ได้ส่งข้อมูลมาแล้ว ถือว่าข้อมูลนั้นสมบูรณ์แล้ว สำหรับผลการสอบสวนข้อเท็จจริงในส่วนของ จ.ขอนแก่นนั้น ภายในเดือน เม.ย.จะทราบว่ามีความผิดทางวินัยหรือจะลงโทษในระดับไหนบ้าง
    ด้านนายวิทยากล่าวว่า วันนี้มารายงานความคืบหน้าและลำดับกระบวนการ ส่วนเรื่องรายละเอียดคดีบางเรื่องยังไม่อยากให้ข้อมูล เช่นเรื่องของ ปปง.ในการตรวจสอบทรัพย์สิน เพราะเป็นเรื่องของความลับ อย่างไรก็ตามขณะนี้แต่ละหน่วยมีความคืบหน้าเกิน 60 เปอร์เซ็นต์แล้ว 
    เมื่อถามเป็นระดับ ผอ.ศูนย์หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่าแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนระดับปลัดและข้าราชการระดับสูงนั้นยังไม่แน่ใจ ส่วนข้าราชการที่เกษียณอายุไปแล้วนั้นตามกฎหมาย ปปง.สามารถตรวจสอบได้หมดอยู่แล้ว หากทรัพย์สินไปที่ใครก็สามารถตรวจสอบได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานข้อมูลร่วมกันทั้ง ปปง., ป.ป.ช.และ ป.ป.ท. ซึ่งกรอบเวลาในการพิจารณาจะเร็วกว่าเดิมที่กำหนดไว้ในเดือน พ.ค.
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีมีเอกสารเปิดเผยลายเซ็น พล.อ.ประวิตรอนุมัติโครงการเครื่องกรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เอกสารดังกล่าวเป็นการลงนามเพื่ออนุมัติงบประมาณ ไม่ใช่การเซ็นจัดซื้อจัดจ้าง เพราะการจัดซื้อจัดจ้างเป็นเรื่องของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ดังนั้นเป็นคนละเรื่องกัน  และเรื่องนี้ตนทราบว่าเป็นเรื่องงบประมาณที่เหลือจ่าย จึงมีการขอใช้งบประมาณเพื่อซื้อเครื่องกรองน้ำดังกล่าว จึงเซ็นอนุมัติ
        "สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้รายงานมา และไม่มีประเด็นอะไร จากที่ผมฟังเขาคร่าวๆ เขาซื้อเครื่องกรองน้ำในราคาที่ถูกกว่าปกติ ทั้งนี้ต้องให้เขารายงานรายละเอียดกลับมาอีกครั้ง" พล.อ.ประวิตรระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"