'ส.ว.ถวิล' ออกโรงตอบ 'วุฒิสภามีไว้ทำไม'


เพิ่มเพื่อน    

5 มิ.ย.63 - นายถวิล เปลี่ยนศรี สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ได้แสดงความคิดผ่านเฟซบุ๊ก ต่อกรณีสังคมบางส่วนตั้งคำถามต่อบทบาท สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ว่า มีไว้ทำไม  หลังมีมติเห็นชอบให้ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งมีข้อถกเถียงในเรื่องคุณสมบัติอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ

โดยนายถวิล โพสต์เฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้

วุฒิสภามีไว้ทำไม

ผมฟังคุณ ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร  พรรคอนาคตใหม่ พูดประเด็นเรื่อง วุฒิสภามีไว้ทำไมแล้วไม่ค่อยสบายใจ       เพราะบ่อยครั้ง ที่อาจารย์ท่านนี้ พูดเรื่องต่างๆไม่ครบ เลือกพูดในบางแง่ บางประเด็นของเรื่อง   จนทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด หรือคลาดเคลื่อนไป  นับว่าไม่เป็นธรรมต่อองค์กรวุฒิสภา ที่ผมสังกัดอยู่อย่างยิ่ง   

เมื่อสองวันก่อน ก็วิจารณ์กรณีวุฒิสภา เห็นชอบอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  ท่านหนึ่ง ดำรงตำแหน่งกรรมการป.ป.ช. เมื่อสัปดาห์ก่อน ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์   เข้าทำนองผลัดกันเกาหลัง  ทั้งๆที่เรื่องนี้ มันมีกฎหมายแยกหน้าที่อำนาจกันอยู่  ระหว่างกลไกสรรหา และพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัคร. กับกลไกของวุฒิสภา ที่มีหน้าที่ตรวจสอบด้านคุณธรรม จริยธรรม ของผู้ผ่านการสรรหาเท่านั้น  ผมไม่ขอลงรายละเอียดเรื่องนี้  เพราะเลขาธิการวุฒิสภา และสมาชิกวุฒิสภาบางท่าน ได้ชี้แจงชัดเจนไปแล้ว แต่ขอพูดอีกเรื่องที่อาจารย์ท่านนี้พูดถึงในคราวเดียวกัน  ซึ่งอาจทำให้สมาชิกวุฒิสภาเสียหาย และขาดความน่าเชื่อถือได้ เช่นกัน ทั้งๆที่ สมาชิกวุฒิสภาก็เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ตามรัฐธรรมนูญ  เหมือนกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  ที่อาจารย์ท่านนี้ เพิ่งพ้นสถานะมาหมาดๆ นั่นเอง    

อาจารย์ท่านนี้ พูดย้อนไปถึงการเลือกนายกรัฐมนตรี  ในวันนี้ เมื่อปีที่แล้ว งรัฐสภาลงมติเลือก พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแน 500 คะแนน โดยในจำนวนนี้  249 คะแนน มาจากสมาชิกวุฒิสภาซึ่งอาจารย์ท่านนี้เห็นว่า เป็นการตอบแทนกัน วุฒิสภาจึงเป็นกลไกที่ตั้งมาเพื่อสืบทอดอำนาจของ คสช.  ผมขอชี้แจงตรงนี้ สักเล็กน้อย เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง  มากกว่าจะปล่อยให้กล่าวหากันลอยๆ 

1.การเลือกนายกรัฐมนตรี ของวุฒิสภาเป็นไปตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ 2560   ที่เป็นผลมาจากคำถามพ่วง ที่ผ่านประชามติของประชาชนร้อยละ  58.07 มาแล้ว  ไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ หรือใครอยากให้เกิดก็เกิด

2. หน้าที่นี้ของวุฒิสภา จะสิ้นสุดลง เมื่อบทเฉพาะกาลสิ้นสุดลงเมื่อครบ 5 ปี ไม่ได้มีตลอดไป 

3. ที่สำคัญ เหตุผลที่ผม และสมาชิกวุฒิสภาอีก 248 คน. ลงมติเลือกพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น   ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการตอบแทนบุญคุณ   สืบทอดหรือไม่สืบทอดอำนาจหรอกครับ แต่เป็นเหตุผลธรรมดาที่เราพิจารณาถึงประวัติ ความรู้ความสามารถ  ประสบการณ์   และความเหมาะสมของผู้ได้รับการเสนอชื่อ ซึ่งเราเห็นว่าพลเอกประยุทธ์ฯท่านมีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับในการนำพาบ้านเมืองในขณะนั้นโดยเฉพาะตลอดเวลาที่ท่านทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีทีผ่านมาร่วม 5 ปี  ท่านไม่มีประวัติด่างพร้อยในเรื่องการทุจริต คอรัปชั่น หรือ ประพฤติมิชอบ   เราก็เลือก 

และมาบัดนี้ เวลาผ่านมา 1 ปี ผมคิดว่าวุฒิสภาเราเลือกไม่ผิด. ไม่นับผลงานที่ผลักดันการแก้ไขปัญหายากๆ ที่แก้ไข หรือทำไม่ได้มาก่อนมากมาย  หรือการวางโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจมากมาย ที่หยุดชะงักมานาน  ทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ถนนหนทาง  รถไฟฟ้าทั้งบนดิน ใต้ดิน  รถไฟทางคู่ ทางเดี่ยว  ฯลฯ   แค่การรับมือกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ก็ถือว่าเราเลือกถูกแล้ว  ผมไม่ได้ดูถูกดูแคลนความรู้ ความสามารถของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจแต่อย่างใด แต่ผมก็จินตนาการไม่ออกเอาเลยจริงๆว่า   ถ้าวันนั้นรัฐสภาเลือกคนซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์บริหารบ้านเมืองมาก่อน  แล้วต้องมารับมือกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ที่ระบาดเช่นนี้ จะสามารถรับมือได้ขนาดไหน ครับ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"