5 มิ.ย. 63 - ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน และเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน พร้อมด้วยส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ หมู่อาร์ม เสมียนงบประมาณแผนกโครงการและงบประมาณกองแผน โครงการศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์ กรมสรรพวุธทหารบก แถลงข่าวความคืบหน้า กระบวนการตรวจสอบทุจริตและการคุ้มครองพยาน ในเวทีเสวนา "เส้นทางการปฏิรูปกองทัพ"

โดย นายวีระ กล่าวว่า กองทัพบกทำให้สังคมสับสนและเข้าใจผิดว่า หมู่อาร์ม ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะการเผิดเผยข้อมูลทุจริต ทำให้กองทัพบกเกิดความเสียหาย ถือเป็นครั้งแรกในผบประวัติศาสตร์ ที่มีกำลังพลในกองทัพออกมาเปิดโปงทุจริตในขณะปฏิบัติราชการ และเป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่กองทัพบก ออกมายอมรับมีการทุจริตจริง ทั้งนี้ยืนยัน หมู่อาร์ม ดำเนินการร้องเรียนตามขั้นตอนทุกอย่างตามสายการบังคับบัญชา ถือเป็นการโกหก บิดเบือนข้อมูล ของกองทัพบกเพราะการร้องเรียนดังกล่าว ทำให้หมู่อาร์ม กลับต้นสังกัดไม่ได้ ในขณะที่กองทัพบก ไม่ได้ดูแล ปกป้องกำลังพล จนเป็นสาเหตุหนีทหาร และยังจะตามมาปิดปาก ด้วยการจะปลดออกจากราชการ และติดคุก7 ปี

ด้าน หมู่อาร์ม กล่าวว่า สิ่งที่ กองทัพบกแถลง มีความคลาดเคลื่อน ขอเรียกร้องให้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เอาคลิปเสียง สายตรง ผบ.ทบ. มาเปิดเผยต่อสาธารณชน จำนวน 4 ครั้ง ตามที่ได้โทรไปร้องเรียน ยืนยันมรเรื่องการทุจริต แน่นอน ไม่ใช่เฉพาะเรื่องขอให้ระงับการถูกลงโทษ นี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า ผบ.ทบ. ไม่จริงใจ และไม่ยอมรับความจริงว่า ตนเคยไปร้องเรียน ซึ่งตนได้ยื่นเอกสารผ่าน พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้อำนวยการสำนักพระธรรมนูญกองทัพบก และ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ หรือแม้แต่ตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่กลับตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่า เอกสารหลุดไปได้ยังไง

"หาก ผบ.ทบ.รีบดำเนินการ ผมไม่จำเป็นต้องหนีทหาร ผมร้องเรียนไป 24 ก.พ. ผ่านไป 15 วันไม่มีการดำเนินการใดๆ ซึ่ง ผบ.ทบ.เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดแล้ว จะต้องให้ผมไปร้องนายกฯหรือไม่ การร้องเรียนผ่านสายตรง ผบ.ทบ เปรียบเสมือน การฆ่าตัวตาย เพราะข้อกล่าวหาทั้งหมดจะกลับไปที่หน่วย และหน่วยจะรู้ใครมีข้อพิพาทกับใคร และสายตรง ผบ.ทบ.อีกเช่นกัน ที่ทำให้ผมถูกจำขัง อย่างไม่มีข้อยกเว้น"หมู่อาร์ม กล่าว