5 มิ.ย.63-พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) กล่าวถึงกรณีตามที่สื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข่าว “แม่ค้า ถูกจับเคอร์ฟิว ตร.รีดเงินยึดอาหารทะเล เดือดสุดต้องนั่งแกะให้กินแกล้มเหล้า” ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองพัทลุง ว่า แม่ค้าขายอาหารทะเลสด ร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อ และมีการโพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดีย วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่สังกัด สภ. เมืองพัทลุง ซึ่งระบุว่าได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมหลังจากกลับมาจากรับหอยปูและปลาทู จากในพื้นที่ จว.ตรัง และเดินทางกลับบ้านที่ จว.พัทลุง ในช่วงเคอร์ฟิว เหตุเกิดพื้นที่ อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อคืนวันที่ 2 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ได้เรียกเงินเป็นจำนวน 80,000 บาท ได้มีการต่อรองเหลือ 40,000 บาท และสุดท้ายที่ 10,000 บาท โดยตนไม่มีเงินสด จึงขอยืมจากญาติของสามีมาได้ 5,700 บาท แต่เงินไม่ครบจำนวน 10,000 บาท ทางชุดจับกุมได้ต่อรองเอาอาหารทะเลที่อยู่ในรถ คิดเป็นเงิน 4,300 จนครบ และเมื่อโอนเงินเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังนั่งกินเหล้ากันอยู่ และให้ตนนั่งแกะหอยนางรมให้พวกเขากินจนหลังเที่ยงคืนกว่าจะได้กลับบ้าน
ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าว ผกก.สภ.เมืองพัทลุง ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ประกอบกับได้มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจยศดาบตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ที่ชื่อปรากฎอยู่บนสลิปโอนเงิน พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่งานสืบสวน โดยให้มาประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทลุง ไม่ให้พบปะกับประชาชน พร้อมรายงานข้อเท็จจริงให้ทราบภายใน 3 วัน โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องและรอสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ผู้ที่เกี่ยวข้อง และความผิดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
รองโฆษกตร.กล่าวอีกว่า ขอให้ผู้ที่ได้รับความเสียหาย นำพยานหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย อีกทั้งคงต้องรอให้ต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำผิด ไม่มีการปล่อยไว้ หรือ ให้การช่วยเหลือกันอยู่แล้ว จะดำเนินการทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้รับรายงานถึงกรณีดังกล่าวแล้วและได้กำชับให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากผลการตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำผิด ใช้อำนาจหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ หากินบนความเดือดร้อนของผู้อื่น และเป็นการซ้ำเติมประชาชน ให้ต้นสังกัดดำเนินคดีทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับตำรวจที่ทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ประชาชนในภาพรวมของประเทศได้รับผลกระทบทุกพื้นที่
พร้อมกันนี้ได้กำชับและมีข้อสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วน ผู้บังคับการ ผู้กำกับ หน.หน้าหน่วยในทุกต้นสังกัดทุกพื้นที่ ให้มีการควบคุม ดูแลความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ตามคำสั่งที่ 1212/2537
ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำในลักษณะนี้ทั้ง ไล่ออก ปลดออก ให้ออก หากความผิดปรากฎชัดเจน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอดไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |