"บิ๊กป้อม" สยบความขัดแย้งใน พปชร. ยันไม่มีอะไรแล้ว เลือกหัวหน้า-เลขาฯ แล้วแต่สมาชิก โบ้ยไม่พร้อมนั่งหัวหน้าพรรค "สุริยะ" การันตีเสียงส่วนใหญ่หนุน "บิ๊กป้อม" นั่งหัวหน้า "สมคิด" ตอกกลับ "สมศักดิ์" ลั่นไม่ได้อยู่กลุ่มสามมิตรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว "ธรรมนัส-สมศักดิ์" โชว์จับมือ-โอบหลังบอกรักกันมานานแล้ว ขณะที่ "ปชป." เผยภาคธุรกิจเอือมระอาศึก พปชร. สะท้อนปัญหาภาวะผู้นำ หวั่นกระทบความเชื่อมั่นรัฐบาล แนะแก้ปัญหาประเทศก่อน ย้อนถามปรับ ครม.ต้องล้างกระดานจำเป็นหรือ เชื่อสูตรดึง พท.แค่ปรามกันเอง
เมื่อวันพฤหัสบดี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐหลังจากกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคลาออกเกินครึ่ง ส่งผลให้ต้องมีการประชุมเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่ รวมถึงการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคว่า "ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดวันประชุมเลย ซึ่งทุกอย่างเป็นเรื่องของพรรค หากพรรคเลือกใครก็เป็นเรื่องของคนนั้น"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีการเสนอให้ พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรค พล.อ.ประวิตรรีบสวนกลับทันทีว่า "ใช้คำว่าถ้าไม่ได้ ไม่ได้ เพราะมันยังไม่เกิด จะมาถามไม่ได้ ทุกอย่างต้องแล้วแต่สมาชิกพรรค"
เมื่อถามย้ำว่าหากมีการเสนอ พล.อ.ประวิตรให้เป็นหัวหน้าพรรค พร้อมเป็นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวตอบด้วยเสียงเข้มว่า "ไม่พร้อมๆ" ก่อนเดินขึ้นรถกลับไปทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ พล.อ.ประวิตรเอ่ยคำว่าไม่พร้อม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้สงวนท่าทีต่อเรื่องการเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมาโดยตลอด
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และรักษาการ กก.บห.พรรคพลังประชารัฐ แกนนำกลุ่มสามมิตร ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมเพื่อคัดเลือก กก.บห.ชุดใหม่ว่า ตามข้อบังคับพรรคเมื่อมี กก.บห.ลาออกเกินครึ่งก็ต้องเลือกกันใหม่ คงเป็นไปตามกำหนดคือภายใน 45 วัน อยู่ที่คนที่จะทำหน้าที่เรียกประชุมได้ คือนายอุตตม สาวนายน รักษาการหัวหน้าพรรค พปชร.เป็นผู้เรียกประชุม กก.บห.ชุดที่รักษาการ เพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญ ซึ่งนับจากวันที่ 1 มิ.ย.ที่มีการยื่นใบลาออกไป 45 วัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า บรรยากาศหลังจากนี้การทำงานจะมีความอึมครึมหรือไม่ เพราะยังต้องทำงานร่วมกันต่อ นายสุริยะกล่าวว่า เท่าที่ตนคุยกับ กก.บห.ที่ทำหน้าที่รักษาการในชุดเดิม หลายคนบอกไม่มีปัญหาอะไร ในการพิจารณาส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า พล.อ.ประวิตรมีความเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าพรรค พปชร.
เสียงส่วนใหญ่หนุนป้อม
"เท่าที่ผมคุยกับเสียงส่วนใหญ่ก็มีความเชื่อว่าเช่นนั้น" นายสุริยะกล่าวเมื่อถามถึงกรณีที่บอกว่า พล.อ.ประวิตรมีความเหมาะสมนั่งหัวหน้าพรรค แสดงว่าชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ที่ทุกกลุ่มในพรรคสนับสนุน
เมื่อถามว่าความเห็นต่างระหว่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร จะกลายเป็นรอยร้าวหรือไม่ นายสุริยะกล่าวว่า "นายสมคิดก็ไม่ได้พูดอะไร และการที่นายสมคิดไม่ได้อยู่ในกลุ่มสามมิตร ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีความขัดแย้งในเรื่องการบริหารพรรค"
ถามว่า นายอุตตมส่งสัญญาณจะเรียกประชุมแล้วหรือไม่ หรือต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุริยะกล่าวว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ บอกแล้วว่าการมี พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ได้เกี่ยวอะไรกัน สามารถที่จะเรียกประชุมได้ภายใน 45 วัน ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) อยู่ที่นายกรัฐมนตรี ส่วนที่มีการปล่อยข่าวว่าจะดึงพรรคเพื่อไทยเข้ามาร่วมรัฐบาลนั้น เชื่อว่าเป็นการขู่กันเองมากกว่า คงไม่เป็นความจริง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวในการปรับ ครม.ที่มีข่าวว่ามีความต้องการจะไปนั่งเก้าอี้ รมว.พลังงาน นายสุริยะกล่าวว่า ยืนยันว่าตนไม่เคยพูดอะไรในเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าใครนำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็น และตนอยู่ที่กระทรวงอุตสาหกรรมก็ทำงานได้อยู่แล้ว ตอนนี้การทำงานที่กระทรวงอุตสาหกรรมในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจต่างๆ ก็ได้พบปะกับกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งสภาอุตสาหกรรม กลุ่มเอสเอ็มอี ตนก็มีความสุขดีอยู่แล้ว
ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปรัฐสภา ได้ปฏิเสธที่จะพูดถึงปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่มี กก.บห.ลาออกเกินกึ่งหนึ่งเพื่อกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าและเลขาธิการพรรค ทำให้ต้องมีการเลือกตั้ง กก.บห.ใหม่ภายใน 45 วัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แกนนำกลุ่มสามมิตร ระบุว่านายสมคิดไม่ได้อยู่กลุ่มสามมิตร นายสมคิดหัวเราะพร้อมกล่าวว่า "ก็ไม่ได้อยู่กลุ่มสามมิตรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว"
'บิ๊กตู่' ยันไม่มีปัญหา
ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ภายหลังเข้าชี้แจงร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย และนั่งฟังการอภิปรายตั้งแต่ช่วงเช้า เมื่อถูกถามถึงปัญหาในพรรคพลังประชารัฐว่า "ไม่มีปัญหา" จากนั้นเดินทางออกจากรัฐสภา
ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แกนนำสามมิตร และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรักษาการ กก.บห.พปชร.ได้มาเจอกันโดยบังเอิญในเวลา 15.00 น.ที่บริเวณชั้น 1 ทางเข้าอาคารรัฐสภา โดย ร.อ.ธรรมนัสกำลังจะเดินทางออกจากรัฐสภา ขณะที่นายสมศักดิ์เพิ่งจะเดินทางเข้ามา โดยทั้งสองคนได้เข้ามาจับมือทักทายอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับโอบหลังด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยทั้งสองคนกล่าวกับผู้สื่อข่าวพร้อมกันว่า "เราทั้งสองคนรักกันมานานแล้ว" ส่วนความขัดแย้งภายในพรรค พปชร.นั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่าเป็นเรื่องของท่านอื่น ไม่เกี่ยวกับเราสองคน ความในใจของท่านอื่นเราไม่ทราบ ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัสยืนยิ้มอยู่ข้างๆ
เมื่อถามว่าทุกอย่างจบแล้วใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่าไม่ทราบ จะไปรู้เรื่องของคนอื่นได้อย่างไร
ถามอีกว่าตอนนี้ข้ามสู่โหมดของการผลักดันให้มีการปรับ ครม.แล้วใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องปรับ ครม.พูดไม่ได้ เป็นเรื่องของนายกฯ แต่ทฤษฎีการเมืองก็คือทฤษฎีเรื่องปรับ ครม. ถ้าคนอื่นพูดมันไม่น่ารัก
เมื่อถามว่า ก่อนหน้าจะมาเป็นพรรค พปชร. แต่ละกลุ่มบอกจะสลายขั้วเป็นหนึ่งเดียวในพรรค นายสมศักดิ์กล่าวว่า อย่างที่ตนบอก เมื่อก่อนเป็นเม็ดกรวดเม็ดทราย แล้วถูกหลอมละลายด้วยความร้อน แล้วมาเป็น พปชร. ตกผลึกเป็นแก้ว ที่ผ่านการเจียระไนจนสวยงาม มีราคา เหมือนกับหัวแหวนบลูแซฟไฟร์ ไดมอนเพชร และพลอย เมื่อเจียระไนแล้วก็เป็นของที่มีค่า แต่เรื่องความขัดแย้งเราตอบแทนคนอื่นไม่ได้จริงๆ แต่ใน พปชร.เรื่องการเมืองถือว่าเล็กน้อยมากที่จะมองเป็นเรื่องของความขัดแย้ง
เมื่อถามถึงกรณีที่จะมีการสนับสนุน พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรค ทั้งสองคนปฏิเสธที่จะตอบคำถามก่อนแยกย้ายกันไป
เอือมระอาศึกแย่งเก้าอี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับ ครม.ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ มายังพรรคร่วมรัฐบาล ต้องรอนายกฯ เพราะเป็นอำนาจของนายกฯ ส่วนของพรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้คิด รอให้เรื่องของงบประมาณผ่านก่อนดีกว่า
เมื่อถามย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยยังยืนยันโควตารัฐมนตรีในสัดส่วนเดิมหรือไม่ นายอนุทินปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว พร้อมกับหัวเราะในลำคอ
จากปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐและการกดดันให้ปรับ ครม. มีรายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุว่า ปชป.มีความเป็นห่วงเรื่องการลำดับความสำคัญการแก้ไขปัญหาของประเทศ ขณะนี้มีภาคธุรกิจโทรศัพท์มาแสดงความเป็นห่วงจำนวนมาก และถามว่า พปชร.กำลังเล่นอะไรกันอยู่ ในเชิงการเมืองที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่า พรรคที่มีเสียงมากที่สุดจะอยู่ไม่ได้ซึ่งสาเหตุมาจากพฤติกรรมตัวเอง สมาชิก พปชร.มาจากหลายพรรคการเมืองและหลายกลุ่มการเมือง ไม่มีรุ่นใหญ่รุ่นเล็ก คนไหนมีฐานเสียงเยอะจะได้ตำแหน่ง เป็นการเมืองแบบย้อนยุค
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังสะท้อนภาวะความเป็นผู้นำที่กำลังมีปัญหา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลและการขับเคลื่อนนโยบายอย่างแน่นอน ปัญหาที่กำลังเกิดในขณะนี้กระทบต่อความเชื่อมั่นของสังคมซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ ช่วงเวลานี้รัฐบาลควรเร่งแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด ใช้งบประมาณให้น้อยที่สุด เพื่อทำให้ประชาชนอยู่ได้ แล้วค่อยมาคุยเรื่องปรับ ครม. ทั้งนี้หากมีการปรับ ครม.จริงก็ต้องล้มกระดานกันใหม่หมด และจัดสรรโควตากันใหม่อยู่แล้ว แต่ถามว่ามันใช่เวลาจำเป็นหรือ"
รายงานข่าวจาก ปชป.เปิดเผยถึงกระแสข่าว พปชร.จะดึงพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมรัฐบาลว่า ในทางการเมืองถือว่าเป็นไปได้ทั้งหมด แต่หากเป็นสูตรนี้จริงจะกระทบต่อความเชื่อถือของรัฐบาลอย่างรุนแรง เพราะเป็นคู่ขัดแย้งกันโดยตรง อีกทั้งเวลานี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดึงพรรคเพื่อไทยมา เพราะวันนี้เสียงของรัฐบาลในสภามีเสถียรภาพแล้ว และการที่มีสูตรนี้ออกมาน่าจะเป็นวิธีการปรามกันเองในพรรค พปชร. เพราะหากดึงพรรคเพื่อไทยมาจริงจะอธิบายต่อสังคมยาก ความน่าเชื่อถือจะหมดไป จะถูกมองว่ามีการซูเอี๋ยกันในเรื่องคดีความ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |