"สังศิต" ชี้นโยบายสลากรวมชุดหวังแก้ปัญหาผู้ค้าโก่งราคา เอาเข้าจริงเหลวตามเคย แนะเข้าทางขายสลากออนไลน์ เหตุคุมง่าย ความเสี่ยงน้อย ด้านการทำประชาพิจารณ์เสียงส่วนใหญ่ยังหนุนรวมชุด 5 ใบ
    นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า การที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะเนินการจัดทำสลากรวมชุด เป็นการแสดงถึงความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาของรัฐบาล ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีในการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค แต่มองว่าการดำเนินการดังกล่าวจะแก้ปัญหาได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะเป็นเพียงการไล่ตามปัญหา ตราบใดที่ยังมีการขายสลากเป็นใบ ก็จะเกิดสลากรวมชุดและการขายสลากเกินราคา เนื่องจากควบคุมได้ยาก
    “ผมคิดว่าปัญหาไม่จบหรอก เนื่องจากว่ามันเป็นแผ่นกระดาษ และพฤติกรรมของคนไม่แน่นอน ฉะนั้นก็จะแก้ปัญหาได้เพียงส่วนเดียว ปัญหาสลากราคาแพงจากการรวมชุดจะยังมีอยู่ต่อไป เพียงแต่คนจะรู้สึกว่าสำนักงานสลากฯ มีความพยายาม แต่ความพยายามนั้นไม่ประสบความสำเร็จแค่นั้นเอง” นายสังศิตกล่าว
    อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า การดำเนินการจัดสลากรวมชุดเชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดการรวมชุดที่ใหญ่ขึ้น เพราะกลุ่มที่ต้องการสลากรวมชุดใหญ่ หรือมีกำลังซื้อสูงนั้นมีไม่มาก โดยประเมินว่าฐานของตลาดอยู่ที่ 1-2 ใบ ดังนั้นสำนักงานสลากฯ จะต้องสำรวจความต้องการที่แท้จริงก่อน ส่วนจะจัดสรรให้ใครเป็นคนขายต่อ มองว่าควรเป็นคนกลุ่มเดิมมากกว่า เพราะหากเพิ่มผู้ค้ารายใหม่เข้ามาจำหน่ายสลากรวมชุด มีความเสี่ยงที่จะขายสลากไม่หมด เพราะความต้องการแต่ละงวดไม่เท่ากัน
    นายสังศิตกล่าวอีกว่า แนวทางที่จะแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาดีที่สุดคือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น ตู้ขายสลาก หรือสลากออนไลน์ เพราะคุมราคาได้ง่าย และมีความเสี่ยงน้อยที่สุด จะขายชุดละกี่ใบก็ได้ นอกจากนี้สนับสนุนให้มีรางวัลเงินสะสมหรือแจ็กพอตด้วย แต่ขอให้สำนักงานสลากฯ รับฟังเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ เพราะไม่มีทางที่คนในประเทศจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยทั้ง 100%
    นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของการเปิดให้พี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและประชาพิจารณ์เรื่องการจัดทำสลากแบบรวมชุด ว่า ขณะนี้มีผู้สนใจแสดงความเห็นผ่านเว็บไซต์แล้ว 1,135 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ลงทะเบียนซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยเกือบ 70% เห็นว่าควรทำสลากรวมชุดแบบชุด 5 ใบ ราคาชุดละ 400 บาท และต้องการซื้อสลากแบบรวมชุดจากผู้จำหน่ายที่มีจุดจำหน่ายประจำและมีบัตรตัวแทนจำหน่าย เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้
    ทั้งนี้ นอกจากการทำประชาพิจารณ์ผ่านเว็บไซต์และตู้ ปณ. 22 และเดินทางลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ได้แก่ จังหวัดเลย เชียงใหม่ ภูเก็ต และนครสวรรค์ แล้วนั้น ภายในเดือนเมษายนนี้ สำนักงานสลากฯ จะจัดเวทีเสวนาผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับธุรกิจสลาก เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการรับฟังความคิดเห็น โดยจะเชิญตัวแทนจำหน่ายที่เป็นผู้พิการ และตัวแทนจำหน่ายรายย่อยทั่วไป นักวิชาการและภาคประชาสังคม ขึ้นเวทีร่วมเสวนาด้วย ส่วนกำหนดการ วัน-เวลาที่ชัดเจน จะแจ้งให้ทราบต่อไป  
    “สำนักงานฯ จะเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนผ่านเว็บไซต์และตู้ ปณ.ดังกล่าว จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2561 จากนั้นจะนำความคิดเห็นที่ได้มารวบรวมและกลั่นกรองนำเสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจที่รอบคอบ รัดกุม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป” นายธนวรรธน์กล่าว.