อนาคตของชาติต้องหยุดอยู่กับบ้าน ตามนโยบายหยุดเชื้อเพื่อชาติมาพร้อมๆ กับพ่อแม่ผู้ปกครอง จนป่านฉะนี้ก็เล็งกันว่า น่าจะเปิดเทอมให้กลับเข้าไปเรียนหนังสือตามปกติสักทีในเดือนหน้า หรือประมาณ 1 กรกฎาคมศกนี้ แม้จะมีกระแสข่าวเจ้ากระทรวงศึกษาธิการโยนเผือกร้อนไปให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กับกระทรวงสาธารณสุขเป็นคนชี้ขาดตีระฆัง กดออดให้โรงเรียนเปิดประตูก็ตาม

        ดูเหมือนมีแนวโน้มสูงว่า ได้เวลา Back to Scholl แล้วนะจ๊ะเด็กๆ

        ก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้านะจ๊ะ เพราะโลกของเด็กแล้ว นอกจากบ้าน โรงเรียนคือความหฤหรรษาที่ส่วนใหญ่น่าจะคิดถึงเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่คิดถึงพอสังเขปแน่นอน

        อย่างน้อยที่สุด แม้ไม่อยากเจอครูสักเท่าไร แต่การได้เจอเพื่อนนั้น..สุดยอด

        ขนาดพ่อแม่ผู้ปกครองยังเบื่อกับการต้องรักษาระยะห่างมาเกือบ 3 เดือน แล้วเด็กๆ ที่มีความสามารถในการอดทนน้อยกว่าผู้ใหญ่ มีหรือจะไม่เบื่อ

        ฉะนั้น ต้องร้องไชโยๆๆ โรงเรียนเปิดแล้วให้ดังไปเลย...จริงไหม???

        แต่กระแสข่าวที่ตีคู่มากับเทศกาลเปิดเทอม เรื่องการทวงถามหาวันหยุดสงกรานต์ที่หายไปเมื่อเดือนเมษายนนี่สิ..มันสร้างความฝุดฝิดสงสัยให้ยังไงก็ไม่รู้?!?

       ใครรู้สึกแบบมนุษย์ป้าบ้างไหมว่า ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมจนถึงวันนี้ หยุดกันไม่เพียงพอหรืออย่างไร จึงได้แสวงหาวันหยุดเพิ่มเติม

        จะอ้างว่า ที่หยุดมาแบบเพื่อรักษาระยะห่าง มันไม่ใช่การหยุดพักผ่อน...ก็แน่ใจว่าจริงหรือ???

        จะบอกว่า ยังไม่ได้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ญาติพี่น้องในต่างจังหวัดเลย...แล้วมันจริง 100% ไหม

        ทำไมไม่ตระหนักและเข้าใจกันว่า ปีนี้เป็นปีพิเศษ หรือจะเรียกว่าปียกเว้นก็ได้นะ ที่เราควรจะคำนึงถึงสุขภาวะมาเป็นอันดับแรก เพื่อหยุดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด

        นอกจากนั้น ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า ทุกฝ่ายกระเป๋าแห้ง ด้วยผลกระทบจากโควิด-19 การมีวันหยุดเทศกาลยาวก็หมายถึงต้องใช้จ่ายเงินทองสารพัด ทำไมไม่เอาเวลาไปทำมาหากิน และเหนืออื่นใด เด็กๆ อนาคตของชาติก็จะได้เล่าเรียนกันอย่างต่อเนื่อง ชดเชยกับปัญหาการเปิดเทอมที่ล่าช้าก่อนหน้านี้

        เรื่องหยุดอีกละ หรือตั้งคำถามว่า หยุดอะไรกันนักกันหนา..จะทำให้ใครไม่สบอารมณ์ สะบัดบ๊อบใส่ ก็ถือเป็นความคิดเห็นที่แตกต่างกันนะจ๊ะ แต่ป้าไม่ไหวที่จะเห็นด้วยจ้า.

       

                                                                               "ป้าเอง"