แม่ "พริตตี้ออย" ร่ำไห้ ไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณลูกสาว ณ จุดเกิดเหตุในซอยสุสานสิงโต อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี วอนตำรวจช่วยตามสืบหาตัวคนร้ายแล้วจับมาดำเนินคดีลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว
    จากกรณี น.ส.ยุพา ศรีเดช หรือน้องออย อายุ 23 ปี พริตตี้สาวชาว อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ หายตัวอย่างลึกลับ หลังไปทำงานอยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มานานกว่า 6 ปี ญาติสงสัยจะเกี่ยวพันกับคดีสยอง “ไอซ์ หีบเหล็ก” นายอภิชัย หรือไอซ์ องค์วิศิษฐ์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาฆ่าสาวพริตตี้ยัดศพลงหีบ ฝังดินและโยนทิ้งน้ำ ที่บ้านย่านบางแค กรุงเทพฯ ตำรวจฝ่ายสืบสวนตรวจสอบหลักฐานต่างๆ แล้ว น้องออยไม่ใช่เหยื่อฆาตกรรมไอซ์ หีบเหล็ก ต่อมาพ่อแม่น้องออยไปร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิกระจกเงา ให้ช่วยติดตามลูกสาวที่หายไป
    จนกระทั่งล่าสุดพบดีเอ็นเอตรงกับศพหญิงนิรนาม สวมชุดแซ็กสีน้ำเงิน อยู่ในสภาพร่างกายเน่า นอนหงายอยู่ในพงหญ้า ทาเล็บมือและเล้บเท้าสีแดง ศีรษะจุ่มลงไปในคูน้ำทำให้เห็นกะโหลกศีรษะ บริเวณซอยสุสานสิงโตคู่ ม.3 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2557
    ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.คงศักดิ์ บุญสืบสุวรรณ ผกก.สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้มีการเรียกตัวพยานปากสำคัญ เป็นคนไทย 2 ราย และชาวต่างชาติ 1 ราย ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ตาย เมื่อปี 2557 มาสอบปากคำหมดแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่พบพิรุธ หรือพฤติกรรมหลบหนีแต่อย่างใด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
    ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร (ผบก.ทว.) ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนาม (คบ.คนตร.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา ได้พานางเกสร เทียนโสภา อายุ 60 ปี มารดา น.ส.ยุพา ศรีเดช อายุ 23 ปี มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ โดยมีเพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิตเดินถือรูปตามมาด้วย ท่ามกลางความเศร้าสลดใจ และเมื่อผู้เป็นแม่เห็นสภาพจุดเกิดเหตุที่ลูกสาวเสียชีวิต ก็ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้โฮออกมา หลังจากนั้นผู้เป็นแม่ได้จุดธูป 1 ดอก ปักลงพื้นดิน พร้อมระบุว่า กลับบ้านเราเถอะลูก
    ด้านนางเกสรกล่าวว่า วันนี้ตนเองได้เดินทางมาเชิญดวงวิญญาณที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และจะไปขุดศพลูกที่ฝังที่สุสานไตรคุณธรรม อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนที่จะนำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่บ้านเกิด จ.เพชบูรณ์ หลังจากนี้ตนเองก็อยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด.