วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพราะถือเป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่มีจำนวนมากที่สุดกว่า 3 ล้านราย และเป็นแหล่งจ้างงานขนาดใหญ่ที่สุดในสัดส่วนสูงถึง 82% ของแรงงานทั้งหมด กระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงทำให้การดำเนินธุรกิจของ SME มีผลกระทบโดยตรงต่อการจ้างงาน และรายได้ของครัวเรือนจำนวนมาก
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างรุนแรง ทั้งทางตรงและทางอ้อม แม้ว่าเวลานี้สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายดีขึ้น ดังนั้น หากสามารถสนับสนุนให้ SME เดินหน้าฝ่าสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ไปได้อย่างแข็งแกร่ง ก็จะส่งผลดีต่อแรงงานอีกหลายล้านชีวิต รวมทั้งระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ล่าสุด สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เร่งช่วยเหลือฟื้นฟูธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพิ่มเติม
จากที่ ธพว.ได้ดำเนินการมาแล้ว โดยเดินหน้าเติมทุนสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษ เพื่อให้เอสเอ็มอีทุกกลุ่มธุรกิจทั่วประเทศมีเงินทุนไปหมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง จ้างงาน และฟื้นฟูธุรกิจให้กลับคืนมา สามารถดำเนินการได้ดีอีกครั้ง คาดจะอนุมัติสินเชื่อได้กว่า 40,000 ล้านบาท ช่วยเอสเอ็มอีได้ประมาณ 24,000 กิจการ ส่งผลดีต่อไปยังระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้สู่ท้องถิ่น ช่วยรักษาการจ้างงานประมาณ 120,000 ราย สร้างมูลค่าหมุนเวียนทางเศรษฐกิจประมาณ 90,000 ล้านบาท
แต่ทั้งนี้ในยุคของการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลมีความสำคัญ โลกจะถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี แรงงานคนจะถูกทดแทนด้วยหุ่นยนต์มากขึ้น และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal รวมไปถึงการซื้อขายออนไลน์จะเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล พ่อค้าคนกลางจะถูกลดบทบาทและความสำคัญลง แพลตฟอร์มตลาดออนไลน์และการส่งสินค้าจะเติบโตขึ้น ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าและบริการด้วยเหตุผล กิจกรรมการบริการจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ดังนั้นการสนับสนุนในด้านการเงินเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ กลุ่มผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีการปรับตัวเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ด้วย
จะเห็นได้ว่าปัจจุบันทั้งภาครัฐและเอกชนต่างก็พยายามหาแนวทางสนับสนุน เช่น SME D Bank ร่วมกับบริษัท มีจีเนียส จำกัด (AIYA) สนับสนุนผู้ประกอบการไทยดูแลลูกค้าอย่างมือโปร ภายใต้โครงการ “SME-D Coach Chatbot for SMEs เปลี่ยนการขายออนไลน์ให้ง่าย ด้วยผู้ช่วยอัจฉริยะ” เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยใช้เทคโนโลยีเข้าไปดูแลลูกค้า ส่งเสริมพฤติกรรมและเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการในการปรับตัวเข้าสู่ยุค New Normal และเป็นการตอบโจทย์ผู้ใช้งานในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้วยระบบ CRM และแช้ตบอต ที่สามารถดูแลลูกค้าได้ง่าย ระบบจัดเก็บฐานข้อมูลลูกค้า ระบบติด Chat tag ที่ค้นหา คัดกรอง ติดตามสถานะของลูกค้าได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว และยังสามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายช่อง ทางทั้ง LINE และ Facebook ด้วยการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีมากกว่า 15 ปี ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการพัฒนาซอฟต์แวร์ ดูแลลูกค้าทั้งองค์กรขนาดใหญ่ กลุ่มธนาคาร ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ยานยนต์ และธุรกิจขนาดย่อยกว่า 200 ราย กับสิทธิพิเศษสุดๆ สำหรับผู้ที่สมัครผ่านทาง SME D Bank ฟรีทดลองใช้ระบบแช้ตบอตนาน 2 เดือน ค่าสมัครบริการรายปี รับส่วนลด 30% และค่าสมัครบริการรายเดือน รับส่วนลด 20% ทันที
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการส่งเสริมจากหลายหน่วนงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อช่วยผลักดันให้ SME ของไทยมีศักยภาพ สามารถก้าวไปสู่ระดับสากล แข่งขันกับนานาประเทศไทยได้ แต่ทั้งหมดจะสามารถทำได้คือผู้ประกอบการต้องให้ความร่วมมือและยอมที่จะปรับตัวเองให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ เพราะเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ยังมีปัญหาในการปรับตัวรับกับเทคโนโลยี.
บุญช่วย ค้ายาดี
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |