ไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 โรคอุบัติใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนทั่วโลก โดยแทบทุกประเทศออกมาตรการเข้มงวดในการหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อให้เร็วที่สุด เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศ และประเทศไทยภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อมุ่งรักษาระยะห่างทางสังคม ซึ่งดำเนินมากว่า 2 เดือน ทำให้พฤติกรรมหลายอย่างของผู้คนในสังคมเปลี่ยนไป ปรับตัวให้เข้ากับภาวะวิกฤติโรคระบาด และเชื่อว่าพฤติกรรมเหล่านั้นจะกลายเป็นนิวนอร์มอลในหลายๆ ด้าน
หนึ่งในนั้นคงเป็นการดูแลสุขภาพที่มากขึ้น ล่าสุดผลสำรวจของดุสิตโพล มหาวิทยาลัยดุสิต ได้เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับนิวนอร์มอล ของคนไทยจากสถานการณ์ดังกล่าว ระบุว่า 45.39% หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้นด้วยการออกกำลังกาย รับประทานผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น และปรึกษาแพทย์อยู่เสมอๆ
นับว่าสอดคล้องกับไอพีจี มีเดียแบรนด์ ประเทศไทย ได้ทำการคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคเมื่อจบเหตุการณ์การระบาดโควิด-19 เพื่อให้องค์กรต่างๆ เตรียมความพร้อมให้สามารถรับมือกับพฤติกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ระบุว่า ผู้คนจะมีความวิตกเรื่องสุขภาพ มีแนวโน้มการดูแลป้องกันสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเจนวายและขยายไปยังช่วงวัยอื่นๆ เช่น กลุ่มเบบี้บูมเมอร์หรือผู้สูงอายุ เนื่องจากมีข้อมูลว่าการรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอจะช่วยป้องกันไวรัสได้ ส่งผลให้อาหารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันจะเป็นที่ต้องการมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความกังวลเรื่องสุขภาพของผู้บริโภค จากการก้าวสู่ยุคของนิวนอร์มอล จะกลายเป็นปัจจัยบวกหนุนให้อุตสาหกรรมกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพยังคงอยู่ในยุคทองและเติบโตอย่างน่าจับตา
นายธนา ลิมปยารยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ได้ให้ความเห็นว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้สร้างนิวนอร์มอลใหม่ด้านสุขภาพให้กับผู้คน และยังคงอยู่แม้สถานการณ์จะคลี่คลายหรือมีวัคซีนป้องกันแล้ว เนื่องจากสถานการณ์ที่ผ่านมาได้ส่งผลให้ผู้คนทั่วโลกตระหนักถึงภัยจากโรคระบาด และหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ให้ห่างไกลจากโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติเก่า เช่น ไข้หวัดใหญ่ โรคจากยุง ฯลฯ ซึ่งมีพัฒนาสายพันธุ์ตัวเองใหม่ๆ อยู่เสมอ
แน่นอนว่าย่อมทำให้ผู้คนจะเริ่มใส่ใจกับอาหารการกิน ที่ต้องมีความสะอาด และมีประโยชน์ มากไปกว่านั้นผู้บริโภคจะเริ่มมองหาแนวทางในการป้องกันสุขภาพของตนเองในด้านต่างๆ มากขึ้น ทั้งการออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร รวมถึงผลิตจำพวกวิตามิน เพื่อรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ และช่วยป้องกันตนเองจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ส่งผลให้แนวทางการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคที่ไม่ใช่เป็นเพียงการทานอาหารครบ 5 หมู่ ตามเกณฑ์ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นอีกต่อไป แต่จะเกิดนิวนอร์มอลของการบริโภคใหม่ ที่เรียกว่าการรับประทานอาหารให้ได้ภาวะสุขภาพสมบูรณ์สูงสุด เพราะการรับประทานอาหารให้ได้รับสารอาหารในระดับ RDI อาจไม่เพียงพออีกต่อไป ผู้คนต่างต้องการสร้างภูมิคุ้มกัน รวมถึงต้องการฟื้นฟูร่างกายให้พร้อมกับโรคต่างๆ ที่พัฒนาตัวเองขึ้นไป การรับประทานอาหารให้ได้ภาวะสุขภาพสมบูรณ์สูงสุด จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของผู้บริโภคใส่ใจดูแลสุขภาพ ซึ่งการบริโภคดังกล่าวจะช่วยซ่อมแซม และฟื้นฟูตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพกลายเป็นตัวเลือกของผู้บริโภคบนวิถีนิวนอร์มอลอีกกลุ่มหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ยูโรมอนิเตอร์ประมาณมูลค่าตลาดธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพหรือกลุ่มอาหารเสริมและวิตามินในประเทศไทย มีมูลค่า 23,916.80 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่ารวม 20,876.30 ล้านบาท ซึ่งจากเทรนด์นิวนอร์มอลด้านสุขภาพที่ส่งผลบวกต่อตลาด คาดว่าตลาดรวมจะเติบโต 5-10% ในปีนี้ แน่นอนว่าในฐานะผู้ประกอบการก็เตรียมความพร้อมรับมือการปรับเปลี่ยนด้วยการขยายไลน์สินค้าในกลุ่มวิตามิน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่หันมาใส่ใจในด้านสุขภาพมากขึ้น ในราคาที่จับต้องได้ และเน้นเรื่องคุณภาพของสินค้าเป็นสำคัญ เนื่องจากมองว่าการสร้างความแตกต่างที่สำคัญในตลาดคือการรักษามาตรฐานและคุณภาพสินค้าให้ดีที่สุด เพราะในทุกวิกฤติล้วนมีโอกาส การวิเคราะห์จับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อมองหาโอกาสให้กับธุรกิจได้อย่างรวดเร็วคือทางรอดของธุรกิจนั่นเอง.
รุ่งนภา สารพิน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |