1 มิ.ย.63 - พลโทเจ้ายอดศึก ผู้นำกองทัพรัฐฉานภาคใต้ (Shan State Army – South : SSA) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าในส่วนฐานที่มั่นบนดอยไตแลงนั้น ตั้งแต่มีข่าวการระบาดที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เราก็ได้ทำการป้องกันโดยห้ามคนเข้า-ออก จนถึงบัดนี้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายดีขึ้น
ทั้งนี้ตามประเพณีโบราณ ชาวไทใหญ่มีสูตรดั้งเดิมที่ใช้กินป้องกันโรคโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจและปอดคือ การต้มน้ำขิง หัวหอม น้ำมะนาวและน้ำผึ้ง ไว้ดื่มกิน โดยน้ำขิงมีสรรพคุณทำให้ระบบภายในขับถ่ายโรคได้ดี น้ำมะนาวช่วยป้องกันเชื้อโรค เช่น มะเร็ง ขณะที่หัวหอมช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับปอด-ตับ ส่วนน้ำผึ้งปกติเป็นยาอยู่แล้วแถมยังช่วยให้กินง่าย
"ตอนนี้ยังไม่มีคนไทใหญ่บนดอยไตแลงติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแม้แต่คนเดียว เพราะเราป้องกันไว้ดี เราพยายามประชาสัมพันธ์ไม่ให้อยู่กันเยอะๆ ใครมีไร่มีสวนในป่าก็แยกย้ายกันไปทำ คนที่กลับจากประเทศไทยหรือต่างประเทศอื่นก็จะถูกกักตัวไว้ 14 วัน”พลโทเจ้ายอดศึก กล่าว
ผู้นำ SSA กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะการทำมาหากิน เพราะเราไม่สามารถค้าขายกับไทยและจีนได้เหมือนเคย เนื่องจากมาตรการปิดชายแดน ทุกวันนี้เพียงแต่ค้าขายกันเล็กๆน้อยๆ อีกส่วนหนึ่งก็คือแรงงานรับจ้างที่ต้องกลับไปอยู่บ้าน แต่ก็ไม่น่าเป็นห่วงนักเพราะตามวิถีของชาวไทใหญ่ต่างทำนาและมีข้าวกินอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีการทำสวนผักในธรรมชาติทำให้แต่ละครอบครัวพึ่งพาตัวเองได้ สิ่งที่ต้องเสียเงินซื้อก็เล็กๆน้อยๆ เช่น เกลือ น้ำมันพืช
พลโทเจ้ายอดศึก กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเรื่องการอยู่การกิน และระเบียบวินัยต่างๆของมนุษย์ เหมือนกับธรรมชาติมาช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ อย่างไรก็ตามในส่วนของประชาชนไทใหญ่ในรัฐฉานนั้น จริงๆเราไม่มีอำนาจ เพราะอำนาจอยู่รัฐบาล แต่ในพื้นที่ชนบท เราได้ประชาสัมพันธ์ 4 ประการ คือ 1.ไทใหญ่ทุกคนและรวมถึงคนพม่าต้องระมัดระวังเรื่องอาหารการกิน เช่น ห้ามกินเนื้อดิบ ปลาดิบ
2.เรื่องคนนอกที่ต้องป้องกันโดยให้ล้างมือ และอย่าให้อยู่ใกล้ชิดกัน ซึ่งตามประเพณีของคนไทใหญ่นั้นเป็นการยกมือไหว้มิใช่เป็นการจับมือกัน
3.โรคโควิด-19 มักแพร่ระบาดอยู่ในเมืองใหญ่ ดังนั้นจำเป็นต้องเว้นระยะ และถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรจัดงานใหญ่ๆ และ 4.ไม่ว่าจะเป็นคนจีนหรือคนไทย ต่างยกเลิกงานที่ทำร่วมกัน ขณะที่ชาวไทใหญ่ต่างมีที่นาและไร่สวนกันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงต้องส่งเสริมให้ชาวบ้านได้พยายามทำนาทำสวน ขณะเดียวกันเมือเดินทางไปประเทศอื่นก็ให้ระมัดระวัง อย่าให้เหมือนที่ผ่านมาคือ ถูกหลอกไปทำงานที่อื่นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามโรคนี้คาดว่าจะอยู่ยาว และปัจจุบันยังไม่มียารักษา ดังนั้นทุกคนจะต้องดูแลตัวเองให้ดี
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ผู้หนีภัยการสู้รบตามชายแดนไทย-รัฐฉานต่างได้รับผลกระทบเนื่องจากไม่สามารถลำเลียงข้าวและอาหารเข้าไปได้ นอกจากนี้ยังขาดทุนสนับสนุนจนขาดแคลนข้าว พลโทเจ้ายอดศึกกล่าวว่า มีชาวไทใหญ่อยู่ในศูนย์อพยพเหล่านี้ไม่มากนัก พื้นที่ใดที่ลำบาก พวกเราได้เข้าไปแจกอาหาร ขณะเดียวกันที่มีความเป็นห่วงเรื่องความแออัดในค่ายนั้น ตอนนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนสภาพต่างๆตามคำแนะนำของแพทย์
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |