แย่แล้ว โพลชี้ไทยการ์ดตกต่อเนื่องป้องกันโควิด-19หลังผ่อนปรนเฟส 2 เหตุชะล่าใจจำนวนผู้ติดเชื้อลดจนไม่ป้องกันตนเอง-ไม่ใส่หน้ากาก ขณะที่กลุ่มเกษตรกรห่วงเงินกู้รัฐบาลถูกฮั้วกลางทางมาไม่ถึงมือ
เมื่อวันอาทิตย์ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชนเรื่อง “เข้าห้างหรือยัง การ์ดตกหรือไม่” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 25-28 พฤษภาคม 2563 จากประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 1,258 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการประกาศมาตรการผ่อนปรนระยะ 2 เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา
จากการสำรวจเมื่อถามถึงการเข้าไปสถานที่หรือเคยได้ทำกิจกรรมตามที่ได้รับการผ่อนปรน ตั้งแต่รัฐบาลประกาศมาตรการผ่อนปรนระยะ 2 พบว่า ส่วนใหญ่ 62.08% ระบุว่ายังไม่เคยเข้าไปในสถานที่หรือทำกิจกรรมตามที่ได้รับการผ่อนปรนเลย รองลงมา 24.80% ระบุว่าเข้าศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ 11.61% ระบุว่าใช้บริการร้านตัดผมชาย ร้านทำ ผมสตรี
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนกับคำว่า การ์ดตก ของคนในสังคม ตั้งแต่รัฐบาลประกาศมาตรการผ่อนปรนระยะ 2 พบว่า 6.12% ระบุว่าคนในสังคมการ์ดตกมาก เพราะคนในสังคมเริ่มไม่มีการป้องกันตัวเอง ไม่สวมหน้ากากอนามัย ตลาดสด ตลาดนัดไม่จำกัดการเข้า-ออกของผู้ซื้อ รถประจำทางเอกชนบางสายไม่มีการเว้นระยะห่างทางสังคม ร้อยละ 32.99 ระบุว่าคนในสังคมการ์ดค่อนข้างตก เพราะคนในสังคมขาดความระมัดระวัง ประมาทในการใช้ชีวิต ไม่ค่อยสวมหน้ากากอนามัย เนื่องจากชะล่าใจกับจำนวนของผู้ที่ติดเชื้อที่ลดลงมาก
ขณะที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กรณี “ความวิตกกังวลของคนไทย ณ วันนี้” จำนวนทั้งสิ้น 1,239 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 25-29 พฤษภาคม 2563 สรุปผลได้ ดังนี้ “10 ความวิตกกังวล” ของคนไทย ณ วันนี้ นอกจากโรคระบาดโควิด-19 ซึ่ง 3 อันดับแรกคือ รายจ่าย/ค่าใช้จ่ายในครอบครัว 71.50%, อันดับ 2 สุขภาพอนามัยของตนเองและคนในครอบครัว 70.00%, อันดับ 3 ชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองและคนในครอบครัว 67.60%
ขณะที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง อารมณ์ของเกษตรกร กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,393 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง 27-30 พ.ค.2563 ที่ผ่านมา เมื่อถามถึงความคิดเห็นของเกษตรกรต่อการอภิปรายกฎหมายกู้เงินในสภาว่าให้ความสำคัญกับเกษตรกรมากน้อยเพียงไร พบว่า จำนวนมากที่สุด 39.6% ระบุให้ความสำคัญค่อนข้างน้อย
ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อสอบถามความต้องการของเกษตรกรต่อการใช้เงินกู้ของรัฐบาล พบว่า ส่วนใหญ่ 53.7% ต้องการให้รัฐบาลใช้เงินกู้รับซื้อผลผลิตทางการเกษตร รองลงมาคือ 49.7% ต้องการให้ช่วยลดต้นทุนการผลิต เช่น อาหารเลี้ยงสัตว์ ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ เป็นต้น, 20.1% ต้องการให้ทำการตลาดนำการผลิต, 16.9% ต้องการให้แก้ปัญหาภัยแล้ง ทั้งนี้ ส่วนใหญ่หรือ 57.7% กังวลมากถึงมากที่สุดต่อการฮั้วกันระดับจังหวัดในเงินกู้ของรัฐบาลไม่ถึงมือเกษตรกรแท้จริง
นอกจากนี้ ที่น่าเป็นห่วงอีกคือ อารมณ์ของเกษตรกรที่พบว่า ส่วนใหญ่ 44.6% รู้สึกโคตรเบื่อ น่ารังเกียจ ความขัดแย้งระหว่าง ส.ส.ในรัฐบาล ถ้าเลือกตั้งใหม่จะเลือกพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |