รอยร้าวพลังประชารัฐบานปลายหนัก กลุ่มก๊วน แบ่งข้างโชว์พลัง "ธรรมนัส” เปิดศึกชน “วิรัช” ระดม ส.ส. แบ่งห้องสภาวัดกำลังใครใหญ่กว่ากัน ด้าน “บิ๊กป้อม” รู้งาน ไม่เข้ากลุ่มไหน เกรงข้อครหาเลือกข้าง "สิระ" แขวะคนในพรรคใช้แป้งจากออสเตรเลียชุบแป้งทอดคนพรรคเดียวกัน หยันกองหนุนสายตรงข้ามมีแค่หยิบมือ 
    หลังมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว ทำให้ทุกฝ่ายเริ่มจับตามองความเคลื่อนไหวในพรรคพลังประชารัฐ พรรคแกนนำรัฐบาล ทั้งเรื่องการปรับ ครม. และการเปลี่ยนตำแหน่งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โดยล่าสุด นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้พูดตะเพิดนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกจากพรรค     
    เรื่องนี้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐว่า ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง โต้ตอบกันไปมา ไม่อยากเห็นการสร้างบรรยากาศแตกแยก ขอให้มุ่งหน้าการทำงาน ส่วนสถานการณ์ภายในพรรคยังมีการแบ่งก๊กแบ่งเหล่ากันนั้น ถ้าทุกคนไม่ใช้สื่อตอบโต้กัน ในทางการเมือง แม้จะมีความเห็นต่างกันได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐยังมีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการแบ่งเป็น 2 ฝ่ายอย่างชัดเจน ระหว่างกลุ่มที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าและเลขาธิการพรรค กับกลุ่มที่ไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงของโควิด-19 
     โดยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 พ.ค. ที่รัฐสภา ระหว่างที่มีการประชุมสภาเพื่อพิจารณา พ.ร.ก.โควิดเป็นวันสุดท้าย ทาง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ระดม ส.ส.จำนวน 50 คน อาทิ ส.ส.กาญจนบุรี, ขอนแก่น, พะเยา, ตาก, อุบลราชธานี, กทม.บางเขต, กำแพงเพชรบางเขต, นครสวรรค์บางเขต,   สมุทรปราการบางเขต และกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ มาประชุมที่ห้อง 419 แต่นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ซึ่งผนึกกำลังกับกลุ่มนี้ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่นั่งทำงานอยู่ห้องข้างๆ กัน     
    ขณะที่ในเวลาเดียวกัน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ได้เรียกประชุม ส.ส.ของพรรคเช่นเดียวกัน ที่ชั้น 6 อาคารรัฐสภา โดยมี ส.ส.ในกลุ่มนายวิรัช และนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี  20 คน, กลุ่มสามมิตร 20 คน, กลุ่ม กทม. 7 คน และกลุ่มนายสันติ พร้อมพัฒน์ ร่วมประชุม
    สำหรับวงประชุมของกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสนั่งหัวโต๊ะนั้น หนึ่งใน ส.ส.ที่ร่วมประชุมเปิดเผยว่า ไม่ได้เพื่อแสดงพลังสนับสนุนนายอุตตมหรือนายสนธิรัตน์ แต่ไม่เห็นด้วยที่จะมีการปรับ ครม.และเปลี่ยนแปลงผู้บริหารพรรคในช่วงโควิด-19 ขณะเดียวกัน ส.ส.ในกลุ่มนี้ยังมองว่า ที่ผ่านมานายวิรัชทำงานเกินหน้าที่ประธานวิปรัฐบาล เพราะการเรียกประชุม ส.ส.ของพรรคเป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรค นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ถึงอนาคตของนายวิรัช ที่ขณะนี้คดีทุจริตจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอล จ.นครราชสีมางวดเข้ามาทุกที โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวนของอัยการกับ ป.ป.ช. ซึ่งหากมีการสั่งฟ้อง และศาลฎีการับฟ้อง นายวิรัช รวมถึงนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา ซึ่งเป็นภรรยานายวิรัช และนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา ซึ่งเป็นน้องสาวนางทัศนียา ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ และมีผลต่อตำแหน่งประธานวิปรัฐบาลด้วย
    ขณะที่วงประชุมของนายวิรัช กลุ่มสามมิตร และกลุ่มนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ที่ชั้น 6 ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าและเลขาธิการพรรคนั้น มองว่าการที่ ร.อ.ธรรมนัสพยายามระดม ส.ส. เพราะเกรงว่าตัวเองเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่อาจจะถูกปรับออกจากตำแหน่งในการปรับ ครม.ครั้งหน้า จึงไปจับมือกับนายสนธิรัตน์ เลขาธิการพรรคเอาไว้ 
    อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร. ที่เดินทางมาประชุมสภา เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน ไม่ได้เข้าไปร่วมประชุมกับกลุ่มใดเลย เพราะเกรงว่าจะถูกมองว่าเลือกข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
     ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า วันเดียวกัน ยังมีการปล่อยภาพการพบกันของกลุ่มสามมิตรกับ พล.อ.ประวิตร โดยในภาพมี พล.อ.ประวิตรนั่งอยู่หัวโต๊ะ มีนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ นั่งอยู่ข้างๆ แต่จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรูปพบกันตั้งแต่วันศุกร์ที่ 29 พ.ค. ซึ่งผ่านมาแล้ว
    หลังมีข่าวความเคลื่อนไหวดังกล่าว นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ออกมากล่าวว่า วันที่ 31 พ.ค. ทางพรรคพลังประชารัฐได้มีการนัดประชุมพรรคที่รัฐสภา เวลา 10.30 น.แทน แต่นายอุตตม หัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กลับนัด ส.ส.ในกลุ่มของตัวเองในเวลาเดียวกัน 
    "จึงอยากถามไปถึงทั้ง 3 คนว่า รู้จักหน้าที่ของตัวเอง และให้เกียรติพรรคหรือไม่ เพราะทางพรรคได้นัดเวลา สถานที่ เพื่อประชุมอย่างชัดเจน ซึ่งมีการแจ้งต่อสมาชิกทุกคนให้ทราบล่วงหน้าแล้ว แต่กลับไม่ให้ความสนใจกิจกรรมของพรรค หรือว่าทั้ง 3 ท่านมีความคิดที่จะไปตั้งพรรคใหม่ตามที่มีข่าวออกมา จึงไม่ใส่ใจกิจกรรมของพรรคพลังประชารัฐแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมขอถามไปถึงนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ ว่ายังสมควรที่จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าและเลขาธิการพรรคต่อไปหรือไม่ เพราะผมไม่รู้ว่าการกระทำเช่นนี้ทำไปเพื่อสร้างความขัดแย้งภายในพรรค หวังผลให้มีความแตกแยกหรือไม่ ซึ่งผมคิดว่าทั้ง 3 คนควรที่จะหยุดบิดเบือนสร้างความแตกแยกได้แล้ว” นายสิระกล่าว 
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงจำนวน ส.ส.ที่ไปร่วมให้กำลังใจอุตตม นายสิระกล่าวว่า มีรายชื่อ ส.ส.ที่ไปร่วมมีจำนวนเพียงแค่ 26 คน แต่ที่กล่าวอ้างว่ามีถึง 60 คนนั้น คิดว่าเป็นการพูดให้ดูมีจำนวนมาก เปรียบเสมือนการนำ ส.ส.ไปชุบแป้งทอด ให้ดูใหญ่และเยอะขึ้น โดยคาดว่าน่าจะเป็นแป้งจากประเทศออสเตรเลีย 
    ส่วนนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรค พปชร. กลุ่มธรรมนัส กล่าวตอบโต้นายสิระทันที โดยบอกว่านายสิระควรมาคุยกันในพรรค ไม่ควรออกมาพูดในแง่ลบข้างนอก น่าจะทำอะไรให้ดี ทำให้คนจดจำในทางที่ดี เพราะเวลาการเป็น ส.ส.เหลือน้อยแล้ว.