จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกเกิน 6 ล้านคนแล้ว บราซิลพบผู้ติดเชื้อรายใหม่วันเดียวกว่า 33,000 ราย ยอดรวมใกล้แตะ 500,000 ราย ขณะผู้เสียชีวิตมากแซงหน้าฝรั่งเศสขึ้นอันดับ 4 ของโลก

แฟ้มภาพ แผนกผู้ป่วยหนักที่รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ของโรงพยาบาลกิลแบร์โต โนวาเอส ในเมืองมาเนาส์ของบราซิล

    กระทรวงสาธารณสุขของบราซิลยอมรับว่า ไม่มีทางทำนายได้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศลาตินอเมริกันแห่งนี้ จะถึงจุดสูงสุดเมื่อใด แต่เมื่อวันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายใน 24 ชั่วโมงเพิ่มมากขึ้นเป็นสถิติสูงสุดอีกครั้ง ที่ 33,274 ราย และทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศเพิ่มเป็น 498,444 รายแล้ว มากเป็นอันดับ 2 ของโลก แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้ถึง 15 เท่า เพราะบราซิลยังขาดการตรวจเชื้ออย่างแพร่หลาย

    ส่วนผู้เสียชีวิตของบราซิลเมื่อวันเสาร์เพิ่มเป็น 28,834 ราย มากเป็นอันดับ 4 ของโลก แทนที่ฝรั่งเศสซึ่งมีผู้เสียชีวิต 28,774 ราย โดยน้อยกว่าสหรัฐซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้ว 103,781 ราย, สหราชอาณาจักร 38,458 ราย และอิตาลี 33,340 ราย

    ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกถึงช่วงเย็นวันอาทิตย์อยู่ที่ 6,089,705 ราย สหรัฐมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 1,770,384 ราย อันดับสามคือรัสเซีย 405,843 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตทั่วโลก 369,672 ราย เมื่อวันเสาร์ สหรัฐมีผู้เสียชีวิตเพิ่มใน 24 ชั่วโมงอีก 960 ราย

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งประกาศตัดความสัมพันธ์กับองค์การอนามัยโลกเป็นการถาวรเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเรียกเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง สหภาพยุโรปออกแถลงการณ์ว่า ขณะนี้เป็นเวลาที่ต้องเสริมสร้างความร่วมมือและการหาทางออกร่วมกัน การดำเนินการที่ทำให้ผลลัพธ์ระหว่างประเทศอ่อนแอลงนั้นต้องหลีกเลี่ยง

    สถานการณ์ในส่วนอื่นของโลกมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในลำดับแตกต่างกันไป และมีแรงกดดันให้รัฐบาลหลายประเทศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ที่กระทบเศรษฐกิจอย่างหนัก แม้ผู้เชี่ยวชาญจะพากันเตือนเรื่องการระบาดระลอกสองก็ตาม

    อังกฤษเตรียมยกเลิกล็อกดาวน์วันจันทร์ แต่ที่ปรึกษาระดับสูงของรัฐบาลเตือนว่าเร็วเกินไป อินเดียก็จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการเป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้ อิหร่านอนุญาตให้ทำละหมาดรวมกันที่มัสยิดได้แล้ว อิสราเอลก็เปิดมัสยิดอัลอักซอในวันอาทิตย์ หลังจากปิดนาน 2 เดือน

    ชาติยุโรปที่ไวรัสเคยระบาดหนักเริ่มเปิดเศรษฐกิจมากขึ้น อิตาลีเปิดหอเอนปิซาให้ท่องเที่ยวแล้วเมื่อวันเสาร์ กรุงปารีสของฝรั่งเศสเปิดสวนสาธารณะและห้างสรรพสินค้า ส่วนสหรัฐ กรุงวอชิงตันและเมืองฝั่งตะวันตกอนุญาตให้ร้านอาหารและร้านทำผมเปิดบริการ ส่วนนครนิวยอร์กที่มีคนเสียชีวิตถึง 21,500 คน จะเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งวันที่ 8 มิถุนายน.