31 พ.ค. 2563 เมื่อเวลา​ 10.30​ น.ที่รัฐสภา​ น.ส.ปารีณา​ ไกรคุปต์​ ส.ส.ราชบุรี​ พรรคพลังประชารัฐ​ (พปชร.)​ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสิระ​ เจนจาคะ​ ส.ส.กทม.ไล่ให้นายสนธิรัตน์​ สนธิจิรวงศ์​ รมว.พลังงาน​ และนายวัชระ​ กรรณิการ์​ โฆษกกระทรวงพลังงาน​ ออกจากพรรคพปชร.หลังออกมาตำหนิกลุ่มสามมิตร​ ว่า​ ปัญหาภายในครอบครัวคงมีบ้างที่ลูกๆจะต้องทะเลาะกัน ก็ต้องเข้าใจ แรงบ้างเบาบ้าง สุดท้ายก็รักกัน ส่วนที่ถึงขั้นไล่กันออกจากพรรคจนมีการมองว่ารุนแรงเกินไปนั้น ไม่รุนแรงเท่าไหร่ เพราะโดยปกติแล้วนายสิระเป็นคนที่พูดตรงไปตรงมา คนอื่นอาจจะมองว่าแรง แต่จริงๆแล้ว เป็นเพียงแค่เรื่องลิ้นกับฟัน

เมื่อถามว่า​ รากเหง้าของปัญหาที่แท้จริงที่เกิดขึ้นในพรรคคืออะไร​ น.ส.ปารีณา​ กล่าวว่า ความจริงแล้วปัญหาเกิดขึ้นทุกที่ ทุกพรรคการเมือง มีความคิดเห็นที่ต่างกัน ทะเลาะกันบ้าง พรรคอื่นมีการต่อยกันด้วยซ้ำไป ส่วนของพรรค​ พปชร.นั้นเป็นแค่การพูดจากันไปกันมา ซึ่งเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้วเรื่องของความขัดแย้ง​ แต่ยืนยันว่าพรรค​ พปชร.ยังเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่

เมื่อถามว่า​ ที่ผ่านมาผู้ใหญ่ในพรรค​ พปชร.ต่างพูดว่าปัญหาจบแล้วแต่ยังมีปัญหาเกิดขึ้นเรื่อยๆ​ น.ส.ปารีณา​ กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งจบไปแล้วจริงๆ ความขัดแย้งที่ยังมีอยู่เป็นเรื่องปกติ

เมื่อถามว่า​ ในพรรคได้คุยกันหรือไม่ว่าหากเปลี่ยนหัวหน้าพรรค​ พปชร.มาเป็น​ พล.อ.ประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว จะเป็นอย่างไร​ น.ส.ปารีณากล่าวว่า ใครเป็นก็ได้​ อย่่างไรก็ตามแต่พรรคพลังประชารัฐทุกคนรักลุงป้อมที่สุดในสามโลก​ ซึ่งใครเป็นก็ได้

เมื่อถามว่า​ ประเมินการทำงานของนายอุตตม​ สาวนายน​ รมว.คลัง​ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันเป็นอย่างไร​ น.ส.ปารีณา​ กล่าวว่า ท่านก็มีความตั้งใจในการทำงานในหน้าที่ของท่าน

น.ส.ปารีณา​ เปิดเผยว่า​ หลังการประชุมสภาเสร็จสิ้นในวันเดียวกัน​ (31พ.ค.) ตนจะเดินทางไป​ สน.ทองหล่อเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายปิยบุตร​ แสงกนกกุลแกนนำคณะก้าวหน้า ที่มีการพาดพิงถึงมติป.ป.ช.ในเรื่องผลการไต่สวนเรื่องนาฬิกาของ​ พล.อ.ประวิตรไม่ผิด​ เนื่องจากเป็นการยืมคงรูป​ ซึ่งหากนายปิยบุตรยังไม่หยุดใส่ร้าย​ พล.อ.ประวิตร​ จะดำเนินคดีไปเรื่อยๆ