30 พ.ค. 63 - ที่ห้องแถลงข่าว รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงข่าวถึงข้อเรียกร้องตั้ง กมธ.วิสามัญตรวจสอบการใช้งบประมาณและมาตรการแก้ไขปัญหาภายใต้วิกฤติการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า เราเสนอให้ กมธ.วิสามัญ ตรวจสอบการใช้งบประมาณ ครอบคลุมนอกเหนือจากงบ 1 ล้านล้านบาท รวมถึงงบกลางที่จะมีการพิจารณา พ.ร.บ.โอนงบประมาณ พ.ศ.2563 เข้ามาด้วย ซึ่งสูงกว่า 8 หมื่นล้านบาท และติดตามตรวจสอบมาตรการในการแก้ปัญหาของรัฐด้วย เช่น การประกาศเคอร์ฟิว พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เปิด-ปิดโรงเรียน และมาตรการอื่นๆ ที่ประชาชนเห็นว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณ แต่กระทบกับประชาชนในวงกว้าง จำเป็นที่ กมธ.วิสามัญ จำเป็นต้องเข้าไปตรวจสอบในฐานะผู้แทนราษฎร เพื่อให้เกิดความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และสามารถแก้ไขปัญหาตอบสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่ได้
เมื่อวานนี้ (29 พ.ค.) เป็นสัญญาณที่ดีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค และพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค เช่น พรรคประชาธิปัตย์ มีท่าทีสนับสนุนการตั้ง กมธ.วิสามัญ ชุดนี้ แต่เรายังเป็นกังวลว่ารัฐบาลมีท่าทีสนับสนุนเรื่องนี้หรือไม่ มีข่าวล่าสุดว่าพรรคพลังประชารัฐน่าจะไม่เห็นชอบกับการจัดตั้ง กมธ.วิสามัญชุดนี้ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ในลักษณะลอยตัว อ้างว่าการตรวจสอบการใช้งบมีกลไกตามกฎหมายและหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว เช่น สตง. ป.ป.ช. และอ้างไม่ใช่เรื่องของท่าน เป็นเรื่องของฝ่ายค้านและรัฐบาล นายกฯ ไม่มีสิทธิเข้าไปยุ่ง
นายชัยธวัช กล่าวว่า แน่นอนในฐานะนายกฯ เป็นฝ่ายบริหาร การตั้ง กมธ.วิสามัญ เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ความเป็นจริงท่าทีนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อท่าทีของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล เช่น พรรคอนาคตใหม่เสนอตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางการป้องกันการรัฐประหาร และการใช้ประกาศคำสั่ง คสช. แกนนำรัฐบาลส่งสัญญาณไม่เห็นด้วย ส่งผลให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลใช้ทุกกลยุทธ์คว่ำ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องการหนีการตรวจสอบ ต้องการให้เกิดความโปร่งใสอย่างแท้จริง ควรมีท่าทีชัดเจนในเรื่องนี้
ส่วนที่นายกฯ ระบุกลไกตรวจสอบที่มีอยู่แล้วนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีความไว้วางใจในกลไกการตรวจสอบภายใต้รัฐบาลชุดนี้ เช่น กรณีมีการร้องหักหัวคิวโรงแรมกักตัว ตอนแรกทั้งนายกฯ กระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข ออกมาทำท่าทีขึงขังต้องตรวจสอบเต็มที่ ไม่ละเว้นเจ้าหน้าที่คนใด แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงเบื้องต้นไม่พบเจ้าหน้าที่ท่านใดเข้าไปเกี่ยวข้อง แสดงให้ประชาชนกังวลว่าการตรวจสอบจะเป็นมวยล้มต้มคนดู และกรณี ป.ป.ช. ชี้ว่าการยืมนาฬิกาเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ไม่จำเป็นต้องรายงานบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ยิ่งตอกย้ำกลไกในการตรวจสอบภายใต้รัฐบาลนี้จะเป็นกลไกในการปกป้องและเปิดช่องให้เกิดการทุจริตของผู้มีอำนาจหรือไม่
ด้านนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า หากรัฐบาลยังคงใช้วิธีการอย่างที่เป็นอยู่ การตั้งเป้าหมายไม่เป็นรูปธรรม ตัวชี้วัดไม่ชัดเจน เราเชื่อว่างบประมาณจะเป็นเบี้ยหัวแตก ในฐานะ กมธ.เศรษฐกิจฯ ตนติดตามโครงการอีอีซี ล้วนไม่มีเป้าหมายประเทศเดียวกัน โครงการรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือมาบตาพุด มีตัวชี้วัดคนละแบบ ภายใต้งบประมาณที่จะใช้แก้ปัญหาโควิด มันตอบโจทย์เราจะสร้างงานได้หรือไม่ จะกระตุ้นจีดีพีได้เท่าไหร่ ทุกโครงการจะต้องตอบโจทย์นี้ กมธ.วิสามัญที่เราเสนอ จะสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลให้ทุกหน่วยงานที่เข้ามาของบประมาณจะต้องรายงานเป้าหมาย ตัวชี้วัด ผลสัมฤทธิ์ ความคืบหน้า เพื่อให้ กมธ.วิสามัญติดตาม รวมถึงงบประมาณปี พ.ศ.2564 ด้วยว่าจะจัดสรรอย่างไร เราเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลได้มาร่วมกันยื่นญัตติร่วมกัน ส่งสัญญาณให้ พล.อ.ประยุทธ์ ทบทวนท่าที
ส่วน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เรามาถึงยุคที่ไม่อาจไว้วางใจองค์กรตรวจสอบคอร์รัปชั่น ในอดีตเราไม่ไว้วางใจสภา แต่วันนี้ทุกสิ่งกลับตาลปัตร เราจำเป็นต้องทำหน้าที่ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธการให้ความเชื่อมั่นต่อสังคมว่าจะมีการตั้ง กมธ.นี้หรือไม่ เป็นการส่งสัญญาณไปยังพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ การตั้ง กมธ.ไปตรวจสอบไม่ได้ทำให้เกิดความยุ่งยากล่าช้า เราดูว่าการใช้งบประมาณชอบหรือไม่ มีคอร์รัปชั่น มีเรื่องน่าสงสัยหรือไม่ อย่างนาฬิกา พล.อ.ประวิตร ที่ ป.ป.ช. ชี้แจงไม่จำเป็นต้องรายงานในบัญชีทรัพย์สินเพราะยืมมา ทำให้เกิดความกังขา นำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชั่นในรูปแบบอื่นตามมา เราไม่อาจยอมรับกระบวนการเช่นนี้ให้เกิดขึ้นเป็นมาตรฐานของสังคม
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |