ทวิตเตอร์เปิดศึกกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อีกยก ซ่อนข้อความทวีตของผู้นำสหรัฐเกี่ยวกับเหตุการณ์จลาจลในมินนีแอโพลิส โดยระบุว่าละเมิดข้อบังคับเกี่ยวกับการยกย่องความรุนแรง ทั้งที่ก่อนหน้านี้การแปะป้ายเตือนข้อความเท็จทำให้ทรัมป์ตอบโต้โดยลงนามคำสั่งแก้ไขกฎหมายปกป้องโซเชียลมีเดีย

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐทวีตเมื่อคืนวันพฤหัสบดีเกี่ยวกับการประท้วงรุนแรงในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ที่มีชนวนเหตุจากการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำไร้อาวุธขณะถูกตำรวจควบคุมตัว

    "อันธพาลพวกนี้กำลังสร้างความเสื่อมเสียแก่ความทรงจำต่อจอร์จ ฟลอยด์ และผมไม่ยอมให้เกิดขึ้น เพิ่งคุยกับผู้ว่าการทิม วอลซ์ และบอกเขาไปว่า ทหารอยู่กับเขาตลอดเส้นทาง ความยากลำบากใดๆ เราจะเข้าควบคุม แต่เมื่อการปล้นสะดมเริ่มขึ้น การยิงก็เริ่มขึ้น ขอบคุณ" ข้อความในทวีตของทรัมป์

    ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ทวิตเตอร์ได้ซ่อนข้อความนี้ โดยขึ้นคำเตือนว่า "ทวีตนี้ละเมิดข้อบังคับของทวิตเตอร์เกี่ยวกับการยกย่องความรุนแรง อย่างไรก็ตาม ทวีตนี้จะยังคงแสดงไว้เนื่องจากทวิตเตอร์ได้พิจารณาแล้วว่าอาจเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ" อย่างไรก็ดี ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ยังสามารถกดเข้าไปอ่านข้อความต้นฉบับได้ แต่ไม่สามารถกดถูกใจ, ตอบ หรือทวีตต่อได้ ยกเว้นการทวีตต่อพร้อมการแสดงทัศนะ

    เมื่อวันพฤหัสบดี ทรัมป์ ซึ่งมีผู้ติดตามทวิตเตอร์มากกว่า 80 ล้านคน เพิ่งโดนทวิตเตอร์แปะป้ายคำเตือนข้อมูลเท็จที่ทวีต 2 ข้อความของเขาเมื่อวันอังคาร เกี่ยวกับการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทางไปรษณีย์ว่าทำให้โกงการเลือกตั้ง ทรัมป์ตอบโต้ด้วยการลงนามคำสั่งประธานาธิบดี เรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐบาลแก้ไขกฎหมายมาตรา 230 ของพระราชบัญญัติการสื่อสารที่เหมาะสม ที่ปกป้องบรรดาบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ อาทิ เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์ และยูทูบ จากการถูกฟ้องร้องเกี่ยวกับเนื้อหาที่เผยแพร่ในแพลตฟอร์มเหล่านี้ โดยทรัมป์ชี้ว่า เอกสิทธิ์คุ้มครองดังกล่าวไม่ควรนำมาใช้ หากเครือข่ายสังคมออนไลน์แก้ไขเนื้อหาที่โพสต์โดยผู้ใช้งาน.