สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ดีวันดีคืน สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานรัฐบาลและคณะแพทย์มาถูกทาง ได้รับคำชมจากนานาชาติ ไวรัสร้ายไม่เป็นที่น่าหนักใจเหมือนเมื่อก่อน หันมามองการเมืองที่นิ่งเงียบมานาน เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ การเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญพิจารณา พ.ร.ก.เงินกู้ทั้ง 3 ฉบับเข้มข้น ขุนพลในพรรคเพื่อไทยบางกลุ่มเตรียมแยกตัวไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ ก็น่าติดตามเรื่องวุ่นๆ ช่วงชิงอำนาจพรรคพลังประชารัฐ แต่ละฝ่ายยังไม่รามือ รอจังหวะขับเคลื่อนหากสบช่องโอกาส

      การเมืองสนามเล็ก ความพร้อมของการแข่งขันนายก อบจ. และความพร้อมเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่แม้จะยังไม่รู้กำหนดเวลาที่จะมีการเลือกตั้ง แต่ทว่าผู้ประกาศตัวเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ขยับออกตัวเคลื่อนไหวเป็นระยะๆ ยิ่งไวรัสโควิดเบาบางคลี่คลายลง ยิ่งต้องเร่งเครื่องเดินหน้าเต็มที่

      เสี่ยทริป-ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ แม้จะยืนยันชัด ขอเป็นอิสระ ไม่ผูกพันกับพรรคการเมืองใด โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่เจ้าตัวเคยเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ประกาศชัด ขอแยกตัวออกมาลงในนามอิสระ ขอลองทฤษฎีใหม หลังผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย พ่ายแพ้มาโดยตลอด เลยลองหันมาเปลี่ยนวิธีคิด รูปแบบกลยุทธ์ รูปแบบใหม่

      ในทางการเมือง ชัชชาติ ขอเป็นอิสระ แต่ในแง่ความสัมพันธ์ยังถือว่าตัดไม่ขาดจากเพื่อไทยเสียทีเดียว เพราะยังมีบุคลากรในพรรคที่ ชัชชาติ ยังต้องมาพบปะ ไปมาหาสู่ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ชัชชาติเดินทางมายังพรรคเพื่อไทย เพื่อหารือกับแกนนำพรรคเพื่อไทยร่วมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล พูดคุยสถานการณ์การเมืองหลายเรื่อง รวมไปถึงความพร้อมในสนาม กทม.

      ว่ากันว่า ในการหารือครั้งนี้ ชัชชาติ เน้นย้ำถึงแนวทางการพัฒนา กทม.ว่า การทำพื้นที่ไม่เหมือนกับตัดผ้าโหลที่ทำให้ทุกคนใส่ได้ แต่จริงๆ แล้วพื้นที่ กทม.ด้านในหรือ กทม.ชานเมืองก็มีความต้องการสิ่งที่ขาดแคลนไม่เหมือนกัน เราจะเอาผ้าโหลไปให้ทุกคนใส่ก็คงไม่ได้

      ชัชชาติ และทีมงานที่มีทั้งนักวิชาการ คณาจารย์ และกลุ่มจุฬาฯ คอนเน็กชั่น ร่วมเสนอนโยบายต่อชัชชาติจำนวนมาก ทยอยส่งข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์มาเป็นระยะๆ เพื่อให้ ชัชชาติ เลือกเฟ้น ซึ่งหลายข้อจะนำมาต่อยอดเป็นนโยบายสำหรับชาว กทม.อย่างแน่นอน

      ไม่ว่าจะเป็น การทำงานของข้าราชการ กทม. เพื่อให้สอดรับกับภาวะปัจจุบัน ระบบออนไลน์ ป้องกันการทุจริต แก้ปัญหาความยุ่งยาก ลดขั้นตอนการรอคอย การเสียเวลา ที่มีคนเสนอเอาไว้ว่า

      ในการติดต่อระบบราชการ กทม.ควรจะทำผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น มีเวลาบอกชัดเจน สิ่งที่คนขอที่จะทำใช้เวลาทำนานหรือไม่ มีคนอยู่ในคิวเยอะหรือไม่ และยังเป็นการประหยัดเวลา ช่วยไม่ให้รถติด คนไม่ต้องเดินทางมา ก็ช่วยแก้ปัญหาโควิดไปได้ด้วย โดยต้องไปดูในรายละเอียดว่าส่วนไหนทำผ่านระบบออนไลน์ได้ก็จะเริ่มไปก่อน แม้จะทำไม่ได้ทั้งหมด

      สิ่งที่คาดหวังเพื่อที่จะทำให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้นนั้น เมื่อคนไม่ได้มาเจอกันก็ไม่มีปฏิสัมพันธ์พูดคุยกัน ซึ่งทำให้เกิดช่องทางการเอื้อสิ่งใดสิ่งหนึ่งแก่กัน เหมือนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ปัจจุบันก็ทำผ่านระบบออนไลน์ได้หลายส่วน ก็อยากจะให้ กทม.เป็นอย่างนั้น รวมไปถึงระบบสมาร์ทการ์ด ที่ในวันนี้ก็ยังไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่

      เรื่องสตรีทฟู้ด ที่เป็นจุดขายของประเทศไทย ใครมาก็ต้องแวะรับประทานอาหาร แต่ต้องมาดูการบริหารจัดการ เพราะผู้ใช้ทางเท้าบางส่วนได้รับผลกระทบ เลยต้องมาดูว่าจะบริหารจัดการอย่างไร โดยหนึ่งในแนวคิดที่มีการเสนอมาคือ ให้ย้ายไปขายในที่เฉพาะ เพิ่มแรงจูงใจให้คนที่ไปขายได้รับการลดหย่อนภาษี และยังช่วยเจ้าของบางสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดมีรายได้จากการเก็บค่าเช่า โดยเอกลักษณ์สตรีทฟู้ดยังคงอยู่ เพียงแต่ทำให้เป็นระบบ ระเบียบ สะอาด และไม่กระทบต่อผู้สัญจรไปมาด้วย โดยทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานวิน-วินด้วยกันทุกฝ่าย 

      เรื่องระบบผังเมือง ที่จะต้องมาดู วางระบบแก้ปัญหากันใหม่ เพื่อมุ่งเน้นแก้ปัญหา 2 ส่วนสำคัญคือ เรื่องจราจร และปัญหาน้ำท่วม ที่ว่ากันว่าชัชชาติให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะทั้งเรื่องรถติด น้ำท่วม เป็นปัญหาอยู่คู่กับ กทม.มานานหลายสิบปี และหากมีแนวคิดนโยบายตอบโจทย์คงจะได้ใจชาว กทม. ในฐานะผู้มีสิทธิ์ออกเสียง และคนที่อาศัยใน กทม. แม้จะไม่มีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนน แต่ก็คงจะได้ใจไปเต็มๆ อย่างแน่นอน

      เป็นเพียงหนึ่งบางส่วนของแนวคิดที่มีผู้ส่งสารมาถึงชัชชาติและทีมงานให้เลือกหยิบจับนำมาผลิตต่อยอดเป็นนโยบาย ที่ตอบโจทย์ จับต้องได้ และยิ่งท่าทีล่าสุด ทั้งก้าวไกล เพื่อไทย จากซีกฝ่ายค้านมีท่าทีอ่อนลง จะไม่ส่งผู้สมัครไปตัดคะแนนกันเองบนข้อแลกเปลี่ยนบางอย่าง

        เปิดทางชัชชาติช่วงชิงเก้าอี้พ่อเมืองหลวงอย่างเต็มที่.