ประเทศกำลังจะถึงทางตัน! 'จตุพร' วอนทุกฝ่ายใจกว้างระดมความคิด อบรมนักการเมืองต้องคิดว่าตัวเองเป็นปัญหาด้วย


เพิ่มเพื่อน    

28 พ.ค.63 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์รายการ PEACE TALK ว่าการเปิดพื้นที่ระดมความเห็นหาทางออกก่อนถึงทางตันนั้น เป็นมาตรการทางสังคมอย่างสงบ โดยทุกฝ่ายต้องมีความมุ่งมั่นจะฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน อีกทั้งยังหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการรัฐประหารขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

การรัฐประหารที่จะเกิดขึ้นนั้น ส่วนสำคัญมาจากเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ไม่เอื้อให้พลังสังคมได้มีทางออกของประเทศ เพราะกติการัฐธรรมนูญกำหนดให้ ส.ว.เป็นฐานอำนาจค้ำรัฐบาล อีกทั้งยังคอยพิทักษ์รักษาอำนาจไว้ โดยทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้ยากหรือทำไม่ได้เลย ดังนั้น มาตรการแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงต้องเกิดขึ้นด้วยการเปิดใจกว้างของทุกฝ่าย เพื่อร่วมมือหาทางแก้ไขปัญหาของประเทศให้จบและคลี่คลายไปสู่อนาคตที่ดี

เมื่อเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ 2560 ทำให้การเมืองในปัจจุบันเกิดวังวน รวมทั้งสถานการณ์ของประเทศยังวนเวียนเดิมๆ ซ้ำซาก ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงเป็นพื้นที่ของพลังทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันจึงสำเร็จ ซึ่งเท่ากับเปิดหนทางอนาคตไม่ต้องอับตัน หรือไร้ทางออก แล้วต้องเผชิญกับการรัฐประหารแบบเดิมๆและซ้ำซาก

นายจตุพร กล่าวว่า ระบบการเมืองปัจจุบัน คงอยู่ในระบบสภาครึ่งใบหรือเสี้ยวใบแล้วแต่จะเรียกกัน ซึ่งดูๆไปเหมือนไม่มีอะไร แต่จริงแล้ว รัฐธรรมนูญ 2560 ถูกออกแบบกติกาเพื่อให้ถูกฉีกโดยเฉพาะ ซึ่งหมายถึงสร้างเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหารขึ้นมาใหม่

“ปัญหาทางการเมืองบวกปัจจัยปัญหาของประชาชน จึงทำให้ประเทศไร้ทางออก ผมเห็นว่า ประเทศไทยควรมีพื้นที่ให้คิดอ่านหาทางออกที่ดีที่สุด อย่างน้อยเพื่อไม่ต้องเกิดทหารยกกำลังมาฉีกรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเมื่อประเทศเกิดทางตัน มักมีคณะรัฐประหารมาแอ่นแอ๊นกัน”

รวมทั้ง ประเมินสถานการณ์ของประเทศว่า หลังจากสภาผู้แทนฯอภิปราย พรก. 3 ฉบับเสร็จสิ้นนั้น คงต้องจับตาการใช้จ่ายงบประมาณจะเป็นไปเพื่อประชาชน หรือเพื่อตัวเอง ดังนั้น ในทางการเมืองจึงมีหลายจุดให้เกิดการรัฐประหาร โดยกลุ่มคิดทำรัฐประหารคงต้องปล่อยให้ปัญหาเดินไปถึงจุดที่ไร้ทางออกหรือใกล้ถึงทางตัน จึงตัดสินใจทำการยึดอำนาจ แล้วอ้างว่า ทำเพราะประเทศไม่มีทางออกซ้ำซาก

ส่วนหลายคนคิดถึงการยุบสภาจะเป็นทางออกของประเทศนั้น ตนมองว่ายังแก้ปัญหาไม่ได้ เนื่องจากหลังการเลือกตั้งใหม่ จำนวนเสียงมากหรือน้อยไม่ใช่สิ่งสำคัญของรัฐบาลอีกแล้ว แต่ความโกลาหลจะเกิดขึ้นทับถมเกิดปัญหาหนักหนาสาหัสไปอีก

อีกอย่าง เมื่อการเมืองเดินไปสู่ทางตัน ความเดือดร้อนของประชาชนที่เรื้อรังจะยิ่งเป็นปัญหาหนัก แม้หลายคนมองการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเร็ว ตนเห็นต่าง เพราะที่ผ่านมาประเทศไม่มีมาตรฐานอะไรนำมาเป็นหลักยึดได้ ซึ่งเสียงรัฐบาลมากมายยังบริหารไม่ได้เลย ดังนั้น หลักคิดทางการเมืองจึงไม่ได้อยู่ที่สูตรคณิตศาสตร์จากการยุบสภา แล้วเลือกตั้งกันใหม่

“ประเทศนี้มีคนเก่งมาก คนกล้าน้อย แต่คนเก่งไม่มีโอกาส จึงต้องระดมความคิด ถ้ามองฝ่ายการเมืองมีความสำเร็จแล้ว แต่ความสำเร็จย่อมมาพร้อมกับความเสื่อมเช่นกัน ดังนั้น ทุกเงื่อนไขที่จะเกิดขึ้นจึง เป็นทางตันของประเทศไทยทั้งสิ้น ซึ่งน่าเป็นห่วง เพราะประชาชนอยู่ในยุคลำบาก เกิดช่วงเหลื่อมล้ำมากมาย”

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าเลิก พรก.ฉุนเฉินปัญหาก็ยังมีอยู่ เพราะประชาชนสะสมความยากลำบากจนเรื้อรังมากขึ้น สภาพประเทศอาศัยการกู้เงินอย่างเดียวบวกกับประชาชนยังไม่ฟื้นนั้น จะเกิดสถานการณ์แย่งอาหาร เมื่อประชาชนอยู่กับหนทางตีบตันอยู่แล้ว จึงไร้อนาคต ขณะเดียวกันในทางการเมืองก็กำลังเจอทางตัน เพราะไม่สามารถอธิบายได้ว่า เดือนในปัจจุบันดีกว่าเดือนที่ผ่านมาอย่างไร

ดังนั้น วันนี้ใครก็ตาม โดยแต่ละฝ่ายต้องใจกว้าง อย่าอยู่บนความสะใจ การแลกเปลี่ยนความเห็นหาทางออกต้องมีพื้นที่ให้ระดมความคิดเห็นฝ่าทางตันเพื่อประชาชนจะมีอนาคต เราต้องคิดถึงประเทศ ประชาชนเป็นใหญ่ และนักการเมืองต้องคิดว่าตัวเองเป็นปัญหาด้วย เนื่องจากประเทศไทย การมีอำนาจมักสลับกันระหว่างทหารกับนักการเมืองเท่านั้น ส่วนประชาชนไม่เคยมีอำนาจสักครั้ง

“ขณะนี้ทางตันกำลังเกิด ต้องเปิดพื้นที่ให้ประชาชนแลกเปลี่ยนความเห็น ลดทอนปัญหาและสกัดคณะแอ่นแอ๊น”

นอกจากนี้ นายจตุพร ยังกังขากับมาตรการเวลาเคอร์ฟิวเกี่ยวข้องกับการแพร่เชื้อโควิดอย่างไร และถามว่า เวลาเคอร์ฟิวมีการแพร่ระบาดเชื้อโควิดแตกต่างจากช่วงเวลาไม่เคอร์ฟิวอย่างไร อีกทั้งยังมีความจำเป็นเคอร์ฟิวอีกหรือ

อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่า ถ้าจะผ่อนปรนโดยขยับเวลาเคอร์ฟิวไปเป็นเที่ยงคืนถึงตีสี่แล้วจะอธิบายการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไม่ได้เลย แต่ขณะเดียวกันกลับทำให้ประชาชนเดินทางลำบาก เกิดความเดือดร้อนขึ้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"