ชาวบ้านพากันไปหาของป่าในเขตรอยต่อไทย-มาเลย์ ระหว่างพักกินข้าว ช้างป่าพุ่งเข้าชาร์จต้องเผ่นหนีตัวใครตัวมัน คนหนึ่งถูกช้างใช้งวงคว้าตัวได้จับโยนก่อนกระทืบซ้ำจนร่างแหลก
    เมื่อวันที่ 7 มกราคมนี้ ร.ต.ท.ไพโรจน์ จันทร์สิงห์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.อัยเยอร์เวง จ.ยะลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย บริเวณกลางป่าลึกในพื้นที่หมู่ 8 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา จึงไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อัยเยอร์เวง ตชด.445 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยาน และแพทย์ตำบล โดยต้องเดินเท้าขึ้นเขาระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร พบบริเวณดังกล่าวยังมีช้างป่าเดินวนเวียนอยู่ ก่อนที่จะเลี่ยงเข้าป่าลึกเมื่อเห็นคน ส่วนผู้เสียชีวิตชื่อนายฮาบาลี ลีเปง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/1 หมู่ 3 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง เจ้าหน้าที่ได้นำศพออกมาก่อนหน้านี้ มีบาดแผลถูกช้างเยียบที่ศีรษะและตามลำตัว 
    นายรอนิง ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อช่วงสายวันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตรวมกับพวกจำนวน 5 คน ได้เดินป่าเพื่อหาของป่าในพื้นที่บ้านอัยเยอร์ควีน และหยุดพักเที่ยงนั่งกินข้าวกัน ระหว่างนั้นเพื่อนคนหนึ่งก็ตะโกนว่า "มีช้าง" ก่อนที่จะเห็นช้างป่าตัวหนึ่งวิ่งตรงมา ทุกคนจึงแตกฮือวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ซึ่งตนเองได้วิ่งชนช้างจนล้มลง ทำให้ช้างไม่สนใจ วิ่งไล่คนอื่นซึ่งวิ่งหนี โดย 3 คนวิ่งซิกแซ็ก ส่วนนายฮาบาลีผู้ตายวิ่งเป็นเส้นตรง ทำให้ช้างไล่ทัน ใช้งวงคว้าร่างนายฮาบาลีแล้วสะบัดไปมาก่อนจับโยนและเหยียบซ้ำจนเสียชีวิต พวกตนที่เหลือ 4 คนพยายามที่จะเข้าไปเอาศพเพื่อนกลับหมู่บ้าน แต่ช้างวนเวียนเฝ้าศพ จึงตัดสินใจกลับไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และช่วยกันนำศพออกมาเมื่อเวลาใกล้เที่ยงคืน
    ก่อนหน้านี้ นายเสกสรร ไตรสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านใน ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา ได้แจ้งว่า มีช้างป่าประมาณ 3-5 ตัว ได้ข้ามเขตแดนรอยต่อระหว่างเขตแดนไทยกับประเทศมาเลเซีย เข้ามาในพื้นที่ ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา และได้ลงมาหากินในพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านในหมู่บ้าน หมู่ 3 ต.คีรีเขต เป็นเวลา 2-3 วันแล้ว สร้างความเสียหายและความหวาดระแวงให้กับชาวบ้านในพื้นที่ว่าจะเกิดอันตรายจากช้างป่า
    ล่าสุด นายเสกสรรได้แจ้งเรื่องดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งป่าไม้ อุทยาน รวมถึงอำเภอธารโต เพื่อให้รับทราบและเร่งดำเนินการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาดังกล่าว จากการสำรวจพื้นที่ เจ้าหน้าที่พบเพียงรอยเท้าและมูลของช้างป่า ซึ่งเชื่อว่าช้างได้หลบซ่อนตัวอยู่ในป่าบริเวณดังกล่าว และคอยออกมาหากินในช่วงเย็นหรือค่ำ กระทั่งมาก่อเหตุในพื้นที่ ต.อัยเยอร์เวง จนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว.