28 พ.ค.63 - เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สุขณรงค์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ "แก่นนคร 191" สภ.เมืองขอนแก่นว่า มีคนถูกฆ่าเสียชีวิตภายในห้องเช่า ไม่มีชื่อ ภายในซอยโพธิสาร1 ถนนโพธิสาร บ.โนนทัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น,นแพทย์นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ ,เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น และมูนิธิสว่างกู้ภัยขอนแก่นสามัคคีอุทิศ

ที่เกิดเหตุ เป็นห้องเช่าหมายเลข ภายในซอยโพธิสาร 1  ภายในห้องเช่าเจ้าหน้าที่พบศพ นายมานพ อำท้าว อายุ27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 ม.1 ต.จระเข้ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น สภาพศพนอนหงาย อยู่ที่พื้นข้างเตียง มีสำลีอุดที่จมูก ปาก และหูทั้งสองข้าง สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล  เมื่อถลกเสื้อขึ้นพบบาดแผลถูกแทงที่ใต้ราวนมซ้ายจำนวน 2 แผล ซึ่งที่บาดแผลมีสำลีอุดไว้และมีผ้าปิดแผลปิดทับอีกชั้น เสียชีวิตมาแล้วมากกว่า 24 ชม. ตรวจสอบภายในห้องครัวหลังห้องพักพบมีดปลายแหลมทำครัวยาวประมาณ 1 ฟุต เปื้อนเลือดวางอยู่บนอ่างล้างจาน

จากการสอบสวนเจ้าของหอพัก ในเบื้องต้นทราบว่า ฝ่ายชายพักอยู่ในห้องเช่ากับแฟนสาว โดยปกติในทุกๆเช้า จะเห็นฝ่ายชายกับแฟนสาว ขับขี่รถจักรยานยนต์  ฮอนด้า สีดำ ทะเบียน1 กจ-8917 หนองบัวลำภู ออกจากหอพัก แล้วแฟนสาวจะขับรถกลับมาอยู่ที่ห้อง ช่วงเย็นแฟนสาวจะขับรถไปรับฝ่ายชายกลับมาที่ห้อง แต่ช่วงเช้าวันที่ 27 พค.ที่ผ่านมา รถจักรยานยนต์ยังจอดอยู่ที่เดิม กุญแจห้องก็ล็อคจากด้านนอก คิดว่า ทั้งคู่น่าจะมีเพื่อนหรือญาติมารับจึงไม่อยู่ที่ห้อง กระทั่งมีญาติมาขอเปิดห้อง จึงได้ตัดกุญแจห้องเข้าไป ก็พบฝ่ายชายเสียชีวิต ส่วนแฟนสาวหายตัวไป

ขณะที่ นายบุญมา ชารีวัน อายุ 56 ปี ลุงของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้ตายทำงานที่โรงงานผลิตกระดาษ และเป็นพนักงานดีเด่น ไม่เคยมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน แต่ญาติพี่น้องทางบ้านทราบว่าหลานชายมีแฟนชื่อน้องมายด์ คบหากันมานานเกือบ 7 ปีและพักอาศัยอยู่ด้วยกันในเมืองขอนแก่น แต่ไม่มีใครทราบว่าแฟนสาวของหลานชายเป็นสาวประเภทสอง เพราะหลานชายเคยพาแฟนสาวกลับไปเยี่ยมญาติที่บ้าน ก็ไม่มีพิรุธที่แสดงออกถึงความเป็นสาวประเภทสองแต่อย่างใด อีกทั้งเมื่อช่วงต้นปีหลานชายได้สร้างบ้าน และอยู่ในช่วงซื้อสิ่งของเข้าบ้าน เพื่อที่จะใช้ชีวิตคู่กับแฟนที่บ้าน แต่ก็มาถูกฆ่าตาย

"ก่อนที่จะรู้ว่าหลานชายถูกฆ่านั้น เมื่อวานที่ผ่านมา ( 27 พ.ค.) เพื่อนสนิทในกลุ่มเลี้ยงไก่ชนของหลานชาย มาหาหลานชายที่ห้องพัก แต่เห็นล็อคกุญแจจากด้านนอก จึงโทรศัพท์หา แต่ไม่มีคนรับสาย เพื่อนพยายามติดต่อหลายครั้งก็ยังเงียบหาย ตกกลางคืนที่ห้องก็ปิดไฟเงียบสนิท แต่เสียงโทรศัพท์ดังในห้อง เพื่อนจึงถามมาที่ญาติ ญาติก็ติดต่อกับหลานชายไม่ได้ จึงเดินทางมาที่หอพัก ให้เจ้าของห้องเช่า เปิดประตูห้องให้ แต่กุญแจที่ล็อคประตูเจ้าของห้องเช่าไม่มี จึงตัดสินใจตัดกุญแจห้อง เข้าไปพบร่างหลานชายนอนอยู่ที่พื้นข้างเตียง แต่หากมองผิวเผินไม่รู้ว่าถูกแทงตาย เพราะสภาพศพสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยนอนนิ่งๆ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุจึงเห็นบาดแผลและสำลีอุดที่ปาก จมูกและหูทั้งสองข้าง รวมถึงปิดบาดแผลที่ใต้ราวนมด้วย เหมือนกับฆ่าแล้วอำพรางศพ   ส่วนคนที่ลงมือฆ่า ญาติพี่น้องทุกคนเชื่อว่าเป็นฝีมือของกระเทย ที่เป็นแฟนของหลานชาย ลงมือฆ่าแล้วอำพรางศพทิ้งในห้องแล้วหลบหนีไป"

ด้าน นางอุบล รอดหนองเข็ง อายุ 59 ปี มารดาของน้องมายด์ แฟนสาวของผู้ตาย ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน กล่าวว่า น้องมายด์หรือนายธรรมพิชา รอดหนองเข็ง อายุ 28 ปี ลูกชาย เป็นสาวประเภทสอง ที่คบหากับผู้ตายมานานและทราบว่าทั้งคู่รักกันมาก สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด เพราะได้คุยกับลูกครั้งล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทราบว่าทั้งคู่ทะเลาะกันในห้อง แต่ไม่รู้ว่าทะเลาะเรื่องอะไร และเช้าวันที่ 27 พ.ค.จึงเดินทางมาหาลูกที่ห้องเช่า แต่ไม่เห็นลูก เห็นเพียงกุญแจที่ล็อคห้องจากด้านนอก จึงนั่งรอจนมืดค่ำ ลูกก็ไม่กลับมา จึงเดินทางกลับบ้าน กระทั่งช่วงเช้า เจ้าของห้องเช่าโทรศัพท์แจ้งว่า มีคนตายในห้อวงเช่าที่ลูกพักอยู่กับแฟน จึงเดินมาดู จึงรู้ว่านายมานพถูกฆ่าตายส่วนน้องมายหายตัวไป จึงอยากฝากถึงน้องมายว่า ให้เดินทางเข้ามอบตัวเจ้าหน้าาที่ตำรวจ

พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า จากการตรวจที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่ก็เชื่อว่าผู้ต้องสงสัยที่ลงมือฆ่าผู้ตายก็คือสาวประเภทสอง ที่เป็นแฟนของผู้ตาย เมื่อลงมือฆ่าแล้ว ด้วยความรักที่มีต่อกัน จึงจัดการเช็ดเลือด เก็บห้อง ทำความสะอาดศพผู้ตาย จากนั้นจึงหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาตัวแฟนผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าแฟนหนุ่มตายในห้องเช่า ส่วนประเด็นที่ถูกฆ่านั้น น่าจะมาจากเรื่องทะเลาะวิวาท ที่เกิดจากความหึงหวง