วันที่ 27 พ.ค. นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า จากการที่กรมศิลปากรดำเนินโครงการพัฒนาพระราชวังบวรสถานมงคล โดยมีการปรับแต่งภูมิทัศน์ และบูรณะอาคารหมู่พระวิมานที่อยู่ภายในพื้นที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ตลอดจนการพัฒนารูปแบบการจัดแสดงนิทรรศการถาวรใหม่ นำโบราณวัตถุชิ้นสำคัญจัดแสดงด้วยสื่อมัลติมีเดีย แสง สีเสียง และเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยดึงดูดความน่าสนใจของห้องจัดแสดงทุกพระที่นั่งในหมู่พระวิมานรวม 13 ห้อง ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2555 ปัจจุบันได้มีการบูรณะอาคารหมู่พระวิมานต่างๆ และพัฒนาการจัดแสดงนิทรรศการจนเกือบแล้วเสร็จ เหลืองานจัดแสดงช่วงระยะสุดท้าย คือ โครงการพัฒนาการจัดแสดงท้องพระโรงวังหน้า ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย ซึ่งเดิมเป็นพระที่นั่งท้องพระโรงของพระราชวังบวรสถานมงคล หรือ วังหน้า สำหรับพระมหาอุปราช เสด็จออกฝ่ายหน้า เสด็จออกว่าราชการ หรือ เสด็จออกรับแขกเมือง เป็นการเสด็จออกอย่างเต็มยศในการพระราชพิธีอันเป็นมหาสมาคม และเพื่อการพระราชพิธีการบำเพ็ญพระราชกุศล เช่น พระราชพิธีบวรราชาภิเษก อุปราชาภิเษก การเทศน์มหาชาติ ในการพระราชพิธีเข้าพรรษา และการพระราชพิธีสงกรานต์
นายประทีป กล่าวว่า ที่สำคัญยังใช้ประดิษฐานพระศพของสมเด็จพระบวรราชเจ้า และพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อการบำเพ็ญพระราชกุศล เช่นเดียวกับพระมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง การพัฒนาครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "การกลับคืนลักษณะของท้องพระโรงวังหน้า" ซึ่งมีพระที่นั่งบุษบกเกริน ที่ประทับในการออกรับแขกเมืองของกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ประดิษฐานเป็นประธานท้องพระโรง ถัดมาเป็นพระแท่นราชบัลลังก์เศวตฉัตรที่ใช้ในพระราชพิธีเฉลิมพระอิสริยยศพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระแท่นออกขุนนาง ที่ประทับในการออกว่าราชการของในวาระปกติของกรมพระราชวังบวรสถานมงคล จัดแสดงอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าพระที่นั่งท้องพระโรง 2 องค์ เป็นไปตามลำดับสถานะความสำคัญของพระที่นั่ง รวมทั้งจัดแสดงเรื่องราวของสถาปัตยกรรมพระราชวังบวรสถานมงคล ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตามระเบียบพระราชสำนัก และพระราชนิยมในกรมพระราชวังบวรสถานมงคลทั้ง 5 พระองค์ ส่วนท้ายจัดเป็นนิทรรศการการศึกษาทางโบราณคดีวังหน้าซึ่งเป็นงานเริ่มต้นของโครงการพัฒนาพระราชวังแห่งนี้
" นับตั้งแต่ปี 2469 ที่รัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ พระราชทานหมู่พระวิมาน พระราชวังบวรสถานมงคล เป็นห้องจัดแสดงพิพิธภัณฑสถาน สำหรับพระนคร ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จนปัจจุบันได้มีการปรับปรุงพระที่นั่งต่างๆ ภายในหมู่พระวิมานให้เป็นห้องจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่สำคัญ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัยนี้เดิมเป็นท้องพระโรงของพระราชวังบวรสถานมงคล สร้างในสมัยกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ รัชกาลที่ 3 ได้ปรับปรุงเป็นห้องจัดแสดงประติมากรรม เครื่องใช้สำริด กระทั่งปี 2510 จึงปรับเปลี่ยนเป็นห้องจัดแสดงนิทรรศการพิเศษ โดยในปี 2563 นี้ มีกำหนดจะแล้วเสร็จเป็นห้องจัดแสดงที่ 13 พร้อมเปิดให้เข้าชมครบทั้ง 13 ห้องจัดแสดงของอาคารหมู่พระวิมานทั้งหมดในปี 2564 " นายประทีป กล่าว