'อนุดิษฐ์' อัด 'บิ๊กตู่' สร้างหนี้ให้คนไทยจนชั่วลูกชั่วหลาน เด็กเกิดใหม่มีหนี้เป็นแสน คนไทยทำงานใช้หนี้ไปจนตาย


เพิ่มเพื่อน    

27 พ.ค.63 - น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. และ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ เรียกพรก. ดังกล่าวว่า เราไม่ทิ้งกัน แต่ชาวบ้านเรียกว่าพรก. “เราเป็นหนี้ด้วยกัน 2020” โดยพรรคเพื่อไทย มองว่าการกู้เงินของรัฐบาลข้ามขั้นตอนขั้นตอนสำคัญหลายประกัน รัฐตั้งใจกู้มากเกินไป อยากถามว่ามีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝงหรือไม่ แถมไม่มีรายละเอียดการใช้เงินที่ชัดเจน และ รัฐบาลก็ไม่ดูเงินกระเป๋าที่ตัวเองมีอยู่ให้ได้เสียก่อน อาทิ งบปี 63 ที่ไม่จำเป็นควรชะลอเช่นซื้ออาวุธ ยุทโธปกรณ์ เพื่อนำมาเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 ความไม่ชอบมาพากลเหล่านี้ทำให้ชาวบ้านเปลี่ยนชื่อพรก.ดังกล่าว หากไม่มีแก้ไขวิธีบริหารจัดการ ชาวบ้านอาจเปลี่ยนชื่อเรียกอีกเป็น พรก.เราล้มละลายด้วยกัน

นอ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไม่ได้พึ่งแย่สถานการณ์โควิด - 19 แต่แย่ ตั้งแต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาบริหารประเทศตั้งแต่ปี 2557 โดยมีหลักฐานเชิงประจักษ์คือการก่อหนี้รัฐบาลมียอด 2.6ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการก่อหนี้ทุกปีแต่เศรษฐกิจกลับแย่ลง และปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันส่วนหนึ่งก็มาจากการยังคงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ จนมีการติดเฮทเท็กจากประชาชนว่า “เจ็บ จน เจ๊ง” หรือ 3 จ. ขณะที่ประเทศไทยมี 3 ป. เป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจและความยิ่งใหญ่ วันนี้เครื่องยนต์เศรษฐกิจของประเทศถือว่าดับทั้ง 4 ตัวคือการส่งออก ท่องเที่ยว การลงทุน การบริโภคภายใน ถือว่า ดับสนิทอีกทั้งโดยธนาคารแห่งประเทศไทย บอกว่าปี 63 จีดีพี หดตัวร้อยละ 5.3 ขณะที่ไอเอ็มเอฟคาดการว่าจะหดตัวร้อยละ 6.7 รวมถึงรายได้หลักจากการส่งออกจะหดตัว นักท่องเที่ยวจะลดลงในปี 63 เหลือ 15 ล้านคนเป็น ปี 64 จะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยเป็น 20 ล้านคน แต่ยังไม่ถึงครึ่งของปี 62 ที่มีถึง 40 ล้านคน ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 63 จีดีพีไทยอยู่ที่ 17 ล้านล้านบาท ยอดหนี้สาธารณะอยู่ที่ 7 ล้านล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 41 ถือว่ายังดูดี แต่เมื่อมีการคาดการว่าจีดีพีปีนี้จะลดอีกร้อยละ 6 จะทำให้มีหนี้สาธารณะร้อยละ 44 ของจีดีพี ส่งผลให้ไทยไม่สามารถก่อหนี้ได้อีกไม่เกินร้อยละ 16 ของจีดีพี หรือไม่เกินร้อยละ 60 ของจีดีพี หรือคิดเป็นจำนวน 2.5 ล้านล้าน ที่เป็นยอดเต็มเพดานที่สามารถกูได้ แต่ขณะนี้มีการกู้เงินจำนวน 1 ล้านล้านบาท จึงทำให้เหลือเพดานในการกู้เงินไม่เกิน 1.5 ล้านล้านบาท 

“เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทนี้ถือเป็นหน้าตักสุดท้ายของประเทศเพราะหลังจากนี้รัฐบาลยังต้องไปกู้เงินเพื่อชดเชยงบประมาณของดุลในปี 64 อีก 5 แสนล้าน ทำให้หนี้สาธารณะจะสูงไปถึงร้อยละ 55 ของจีดีพี ท่านรู้หรือไม่ต้องแต่พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำอาจเข้ามาได้ก่อหนี้ไว้ถึง 2.6 ล้านๆ หากรวม เมื่อนำมารวมกับพ.ร.ก.ฉบับนี้และเงินกู้ที่จะชดเชยงบขาดดุลในปีหน้าอีก 5 แสนล้านล้าน รวมเป็นเงิน 4.18 ล้านล้านบาท เมื่อมาดูแผนชำระหนี้ที่จะใช้ปีละ 4.8 หมื่นล้านบาทเท่ากับเราต้องใช้หนี้ 90 ปี ถึงจะใช้หมดยุทธศาสตร์ชาติ20ปี ต้องวนไป 4 รอบ ท่านนายกฯกำลังจะเป็นคนที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทย เป็นนายกฯที่สร้างหนี้ให้คนไทยจนชั่วลูกชั่วหลานเด็กเกิดใหม่มีหนี้เป็นแสน คนไทยก็ทำงานใช้หนี้ไปจนตาย.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"