พิษโควิดฉุดดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเม.ย.ตกฮวบ17.21%


เพิ่มเพื่อน    

 


27 พ.ค. 2563 นายอิทธิชัย ยศศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนเมษายน 2563 หดตัวลงเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.21% โดยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวและโรงงานอุตสาหกรรมบางแห่งต้องหยุดการผลิตชั่วคราว เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือนเมษายนมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 12.64%  เป็นต้น ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมเดือนเมษายนอยู่ที่ 51.87% 

อย่างไรก็ตาม จากการแก้ไขปัญหาด้านการขนส่งสินค้าทั้งในและระหว่างประเทศให้สามารถส่งสินค้าได้ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการขยายตัวเพิ่มขึ้นในบางอุตสาหกรรมที่สามารถตอบสนองต่อผู้บริโภคได้ เช่น อุตสาหกรรมอาหารที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.5% กลับขึ้นมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 9 เดือน โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปและอาหารสัตว์ที่ได้รับคำสั่งซื้อจากประเทศจีนและสหรัฐฯ โดยถ้าหักอุตสาหกรรมน้ำตาลซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและหดตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 36.0%  จะส่งผลให้อุตสาหกรรมอาหารโดยรวมขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 7.2% เช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมยาที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38.52%  นับเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับ 2 หลักติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

นายอิทธิชัย กล่าวต่อว่า อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนี MPI เดือนเมษายน 2563 ได้แก่ รถยนต์และเครื่องยนต์ น้ำมันปิโตรเลียม และเบียร์ ที่ได้รับผลกระทบการมาตรการเพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้โรงงานต้องหยุดสายการผลิต ประชาชนต้องหยุดการระบาดด้วยการอยู่บ้าน ลดการเดินทาง และการถูกสั่งห้ามการจำหน่ายสุรา ในขณะที่อุตสาหกรรมหลักที่ยังคงขยายตัวดีในเดือนเมษายน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์คอนกรีตและปูนซีเมนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 23.47% จากผลิตภัณฑ์พื้นสำเร็จรูปและคอนกรัดผสมเสร็จ ที่มีตามความต้องการใช้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของรัฐบาล รวมถึงจำนวนวันทำงานที่มากกว่าปีก่อนจากการประกาศเลื่อนวันหยุดสงกรานต์เภสัชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ที่ใช้รักษาโรค ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38.52% จากผลิตภัณฑ์เกือบทุกรายการ เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นและผู้ประกอบการบางรายได้สร้างอาคารเก็บยาเพิ่มเพื่อขยายความสามารถในการสต๊อคล่วงหน้า ยกเว้นยาผงที่พบปัญหาขาดวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.46%  ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากตลาดโลก โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ประเภทวงจรอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ   ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์และอุปกรณ์ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ รวมถึงจำนวนวันทำงานที่เพิ่มขึ้น

อาหารทะเลกระป๋อง ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 34.72%  โดยสถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลให้เกิดความต้องการอาหารที่เก็บไว้ได้นานเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

อาหารสัตว์สำเร็จรูป ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.18%  จากผลิตภัณฑ์เกือบทุกรายการยกเว้นอาหารกุ้ง เนื่องจากจำนวนวันทำงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความต้องการอาหารสัตว์เพื่อเลี้ยงสัตว์ที่มีการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง

สถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ต้องจับตาดูใน 3 ปัจจัยหลัก คือ การปลดล็อคทางเศรษฐกิจว่าจะสามารถกลับมาดำเนินการเต็มที่ได้เมื่อไหร่ การควบคุมโรคของประเทศคู่ค้า และรายได้และการออมที่จะกลับมาฟื้นตัวเร็วแค่ไหน โดยในเดือนพฤษภาคมประเทศไทยมีการควบคุมการระบาดได้ดี ส่งผลให้รัฐบาลเริ่มมาตรการปลดล็อคกิจกรรมและกิจการบางประเภทให้สามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนเริ่มกลับมาดำเนินการ ส่งผลต่อเศรษฐกิจภาพรวมและในภาคอุตสาหกรรมอย่างไรก็ตามผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องปรับแผนการผลิตให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคในสภาวะชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) นายอิทธิชัย กล่าวปิดท้าย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"