แค่โหมโรง 'ลุงตู่' ก็ขึ้นแล้ว


เพิ่มเพื่อน    

   

 ก็มึนกันไป...
    นั่นเพราะ คงอยู่ในช่วงสับขาหลอกกระมัง
    ยิ่งมีพรรคการเมืองใหม่ๆ ออกมาพูดเรื่องสนับสนุนลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย
    แถมยังคุยฟุ้ง ผลักดันให้เป็นในก๊อกแรก ไม่ต้องรอก๊อกสอง 
    ถึงจะเป็นร้อยแรงโม้ แต่ไปกระตุ้นพรรคการเมืองใหญ่อย่างประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ให้ออกมาแสดงท่าทีรายวันได้เช่นกัน
    การเมืองช่วงนี้ยังเอาสาระอะไรมากไม่ได้ เพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่แต่ละพรรคการเมือง "ต้องเลือก"  ว่าจะยืนข้างไหน
    ประวัติศาสตร์การเมืองไทย เราเห็นมาหมดแล้ว ตอนเลือกตั้งด่าพ่อล่อแม่ พอถึงเวลาจัดตั้งรัฐบาล ผสมพันธุ์กันอย่างกลมกลืน
    แม้แต่ ประชาธิปัตย์กับเพื่อไทย 
    หรือเพื่อไทยกับพรรคนอมินีทหารก็เถอะ
    นั่นเพราะยังไม่มีใครเห็นตัวเลขว่า พรรคไหนจะได้เก้าอี้ในสภากันกี่ที่นั่ง
    หรือแม้กระทั่งพรรคใหญ่อย่าง ๒๕๐ ส.ว. ก็อาจเป็นตัวเร่งให้พรรคการเมืองทั้งหมดรวมตัวกันบอยคอตนายกฯ คนนอกก็ได้
    ฉะนั้นวันนี้แต่ละพรรคจึงต้องแสดงบทบาทของตัวเอง 
    เพื่อไทย และประชาธิปัตย์ จับมือถล่มนายกฯ คนนอก ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการเมือง ๔.๐ คนที่มาเป็นนายกรัฐมนตรีควรยึดโยงกับประชาชน 
    ไม่ใช่ลอยมาอย่างในอดีต
    วันก่อน "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ประกาศกับลูกพรรค
    "ใครจะออกนอกแถวไปสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ไปทางเลือกอื่นไม่ต้องมาที่นี่ ถ้าจะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องสนับสนุนหัวหน้าพรรค ไม่ว่าหัวหน้าพรรคจะเป็นใครก็ตาม"
    ถือเป็นการแสดงท่าทีของพรรคการเมืองที่ธรรมดามาก  
    ไม่มีอะไรซับซ้อน 
    ในอดีตมันเคยมั่วกันมาแล้ว
    ดูอย่างเพื่อไทย หัวหน้าพรรคแค่ลูกกะจ๊อก ไม่มีโอกาสเป็นนายกฯ ต้องคอยเดินตามน้องสาวเจ้าของพรรค 
    ที่ "อภิสิทธิ์" ประกาศออกมา มันเป็นธรรมดาของพรรคการเมืองทั่วโลกที่เขาทำกัน 
    ระบบพรรคการเมืองควรเป็นเช่นนั้น
    แต่ "ลุงตู่" ไม่เข้าใจ อาจเพราะมีความอดทนทางการเมืองต่ำ หรือยังใหม่ทางการเมือง ท่านก็ต้องปรับตัว 
    มันไม่ใช่การโจมตี หรือสร้างความขัดแย้ง แต่ละพรรคการเมืองเขามีสิทธิ์ที่จะเลือกเส้นทางของเขา ก็ถือเป็นการขู่ แต่ "ลุงตู่" พูดแรงไปหน่อย 
    "ถ้าบางเวลาผมมีอารมณ์ขึ้นมาแล้ว ผมพูดไปมันก็เสียหายด้วยกันทั้งหมด ผมไม่อยากจะมีอารมณ์ตรงนี้ ประชาชนก็ไปใคร่ครวญเอาเอง และดูด้วยวันหน้าเขาจะทำตัวกันอย่างไรที่ออกมาพูดกันวันนี้  ลองคอยดูวันหน้าก็แล้วกัน เลือกตั้งแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น แล้วเขาจะเปลี่ยนท่าทีอะไรกันอย่างไร ก็ไปคอยดูตรงนู้นแล้วกัน แล้วค่อยไปถามเขาอีกที"
    ท่านพูดแบบนี้....ถ้าการเลือกตั้งมีสิ่งผิดปกติขึ้น มันจะไม่จบ
    ที่บอกว่าโอกาสประชาธิปัตย์ จับมือกับเพื่อไทย ก็เพราะปัจจัยทำนองนี้นั่นเอง 
    ส่วนรายละเอียดว่ารวมกันได้อย่างไร เพราะคนละสายพันธุ์ อย่าไปคิดเยอะครับ ถึงเวลาพรรคการเมืองปรับตัวได้เสมอ หากหนทางข้างหน้า อำนาจการบริหารประเทศรออยู่ เขาพร้อมจะลื่นไหลโดยอ้างว่าเป็นความต้องการของประชาชนได้เสมอ
    สำหรับ "ลุงตู่" หากประสงค์จะเป็นนายกฯ คนนอกจริงๆ ก็ก้มหน้าก้มตาทำงาน ประคับประคอง ไม่ให้มีเรื่องฉาวของคณะรัฐมนตรีขึ้นมาอีก 
    โดยเฉพาะ "บิ๊กป้อม" ที่กินต้นทุน คสช.ไปเยอะ
    ก็ขอให้รู้ไว้หลังเลือกตั้ง ทุกคนเท่ากัน วันนั้น คสช.หมดโอกาสใช้อำนาจแล้ว 
    และนั่นคือการเมืองของจริงที่ "ลุงตู่" ต้องเจอ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"