ใจไม้ไส้ระกำ


เพิ่มเพื่อน    

      ชีวิตจริงรันทด น่าหดหู่ยิ่งกว่าละครหลังข่าวเสียอีก สำหรับเรื่องราวของผู้หญิงที่ใช้ชื่อว่า "แม่ปุ๊ก" ที่ลงมือกระทำต่อคนที่เรียกว่า "ลูก" แบบเลือดเย็น

      ถือเป็นเรื่องราวที่อธิบายด้วยสำนวนไทยโบราณ "ใจไม้ไส้ระกำ" ได้อย่างชัดเจนที่สุด

      เด็กยุคดิจิทัล คงไม่รู้จักสำนวนไทยคำนี้ หรืออาจจะลืมเลือนกันไปแล้วกระมัง เพราะสังคมไทยที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งพุทธศาสนานั้น น้อยนักจนถึงน้อยนิดกระจิ๊ดริด ที่จะมีดรามาโหด เลว ร้ายขนาดนี้ให้ได้ยินได้เห็น

      คนใจไม้ไส้ระกำที่กระทำการวางยาคนที่รับมาเป็นลูก แล้วเรียกร้องขอความเห็นใจกับคนในโลกโซเชียล จนมีเงินในบัญชีเกือบ 20 ล้านบาท ต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนไทยเป็นอย่างมาก

      คำก่นด่า สาปแช่ง ผู้หญิงใจร้าย มีต่างๆ นานาเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อความจริงปรากฏ

      แต่ที่น่าสะท้อนใจคือ ความไม่ไว้วางใจ ความไม่สบายใจ ของคนไทยที่กำลังถูกตั้งคำถามว่า ความใจดีด่วนให้ของคนไทย กลายเป็นการส่งเสริมให้คนหัวหมอใช้เป็นเครื่องมือในการทำมาหากินแบบไร้ซึ่งจริยธรรมสำนึก   

      หรือว่าคนในสังคมไทยที่ใจดี มีเมตตา ทนไม่ได้ที่จะเห็นเด็กๆ เจ็บปวด ต้องทบทวนตัวเอง!!

       มันก็แปลกจริงๆ นะ ที่คนดีมีน้ำใจ ต้องมาตั้งคำถามตัวเองแบบนี้

      เมื่อช่องทางระดมเงินในโซเชียลเป็นอะไรที่ง่ายดาย แค่นั่งอยู่กับบ้านแล้วมีมือถือสักเครื่อง โพสต์เรื่องรันทดเรียกร้องความสนใจ ก็หาสตางค์ได้ มนุษย์ป้าก็อยากรู้เหมือนกันว่า จะมีหนทางหรือองค์กรสถาบันใดจะมาช่วยตรวจสอบ หรือหาเครื่องมือที่จะส่องดูว่า ของจริงหรือหลอกลวง

      สุดท้าย อาจจะต้องทำใจว่า ทำดีได้ดี อยากบริจาคเงินแล้ว ก็อย่าไปคิดมาก ใครทำอะไรไว้ก็ได้อย่างนั้น อย่าง "นางปุ๊ก" ก็เป็นตัวอย่างแล้วว่า นรกถามหา.

                                                             "ป้าเอง"       


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"