'กลุ่มแคร์'แบไต๋ ซุ่มสร้างพรรค เล็งชื่อหน.-เลขา


เพิ่มเพื่อน    

    “ภูมิธรรม” ไม่ปฏิเสธแนวคิดตั้งพรรค อะไรก็เกิดขึ้นได้ อ้างสถานการณ์วิกฤติรัฐบาลแก้ไขปัญหาไม่ได้ จึงพูดคุยกันช่วยหาทางออก กก.บห.เพื่อไทยโทษเงื่อนไข รธน.ทำให้พรรคพวกคิดตั้งพรรค ปัดแตกแยกภายใน เผยเล็งชื่อหัวหน้า-เลขาฯ แล้ว วางสเปกคุยได้ทุกฝ่าย "ไก่จ๋า" เชียร์ให้รีบไป เพราะอยู่ พท.ก็ไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
    เมื่อวันจันทร์ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีมีรายชื่อร่วมจัดตั้งกลุ่มแคร์ กับอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย อาทิ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ว่าเวลานี้บ้านเมืองมีปัญหาคนรู้สึกว่ารัฐบาลไม่ฟังเสียงประชาชน ไม่ใช้องค์ความรู้ต่างๆ ในการบริหารประเทศ จึงรู้สึกไม่มีความหวังกับการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ว่าจะพาประเทศผ่านวิกฤติ เมื่อตนเจอหน้ากับบุคคลตามที่เป็นข่าวในงานต่างๆ ซึ่งมีความสนิทสนมกัน ก็มีการพูดคุยถึงปัญหาบ้านเมือง เพื่อช่วยกันหาทางออกของคนที่ห่วงใยประเทศ แต่เป็นการพูดคุยกันเฉพาะบุคคล 
    "ยังไม่ได้หารือกันในลักษณะเป็นกลุ่มเป็นก้อน ส่วนจะตั้งพรรคหรือไม่ยังไม่มีการพูดถึง เพราะเป็นเพียงการคุยกันระหว่างบุคคลว่าสถานการณ์ประเทศไม่มีทางออก รัฐบาลไม่มีทางแก้วิกฤติที่จะเกิดขึ้นได้หลังจากนี้ เพราะประเมินกันว่าหลังวิกฤติโควิดครั้งนี้ประเทศจะเจอกับวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และสถานการณ์การเมือง กติกาในรัฐธรรมนูญ และการบริหารประเทศแบบนี้ของรัฐบาลไม่มีทางออก ดังนั้นหลังจากนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้" นายภูมิธรรมกล่าว 
     เมื่อถามว่าจะตั้งพรรคการเมืองหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ยังไม่ได้คุย เพียงแต่พูดคุยหาทางออกของประเทศ แต่สุดท้ายจะเป็นกลุ่มหรือพรรคการเมืองหรือไม่ ยังไม่ได้คุยกันตอนนี้
    ถามย้ำว่า โอกาสสูงหรือไม่ที่จะพัฒนาเป็นพรรคการเมือง นายภูมิธรรมกล่าวว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ในสถานการณ์ที่บ้านเมืองไร้ความหวัง คนที่ห่วงใยประเทศคุยกันอะไรก็เป็นไปได้
    ถามอีกว่า ในฐานะอดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย จะทิ้งพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่ใช่เวลาจะคุยเรื่องนี้ต่างคนต่างทำหน้าที่กันไป
    เมื่อถามถึงความชัดเจนหลังจากนี้ของกลุ่มดังกล่าวจะเป็นอย่างไร นายภูมิธรรมบอกว่า คนที่ห่วงใยประเทศคงหาทางออกหากมีโอกาสมาพบกันหารือกันก็คงร่วมกันเสนอทางออกให้กับสังคม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการประชุมพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะแจ้งต่อสังคมต่อไป 
    เมื่อถามอีกว่า มีการดึงนักวิชาการร่วมพูดคุยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เวลานี้เป็นการคุยกันของคนหลากหลายอาชีพ ส่วนตัวคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้วิกฤติ คนที่ห่วงใยบ้านเมืองก็อยากคุยกัน
       นายประพนธ์ เนตรรังษี กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยจะรวมตัวตั้งพรรคการเมืองว่า ไม่อยากให้คนที่เห็นข่าวมองไปถึงความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย เพราะข้อเท็จจริงมันไม่มีเรื่องเช่นนั้น แต่อยากให้ไปมองว่าประเด็นปัญหาอยู่ที่รัฐธรรมนูญ หากกระแสข่าวนี้เป็นจริงก็เป็นเพราะเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญที่ทำให้พรรคขนาดใหญ่ไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำให้คนที่มีศักยภาพมีความรู้ความสามารถในการพัฒนาประเทศหมดโอกาสเข้าสภา และการเลือกตั้งที่ผ่านมาที่มีพรรคเล็กพรรคน้อยจำนวนมาก ก็เป็นเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น 
    มีรายงานอีกว่า กลุ่มดังกล่าวมีจุดริเริ่มจากอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ที่เห็นปัญหาการขับเคลื่อนประเทศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จึงชักชวนกลุ่มนักวิชาการ นักการเมือง และกลุ่มคนรุ่นใหม่ ระดมสมองแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ก่อนจะสรุปความคิดเห็นเสนอต่อสังคมผ่านการแถลงข่าวเป็นระยะ โดยหวังให้รัฐบาลนำความคิดดังกล่าวไปปรับใช้ ที่สุดแล้วกลุ่มดังกล่าวอาจมีการพัฒนาเป็นพรรคการเมืองได้ แต่ยังไม่ตกผลึกว่าหากตั้งพรรคการเมืองจะแบ่งเป็นกี่พรรค แต่แนวคิดที่ตรงกันต้องเป็นพรรคที่มีส่วนผสมของคนรุ่นใหม่และคนที่มีประสบการณ์เข้ามาทำงาน ที่ผ่านมามีการพูดคุยถึงรายชื่อหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคไว้เบื้องต้นว่าจะต้องประสานได้กับทุกฝ่าย และถ้าเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจได้จะยิ่งดี และถ้ามีการตั้งพรรคจริง คงเป็นลักษณะที่นำพรรคที่มีอยู่แล้วมาปรับปรุง เพราะจะง่ายกว่าจัดตั้งพรรคใหม่  
     ขณะที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 ถูกออกแบบมาเพื่อสกัดไม่ให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ถ้าได้ ส.ส.เขตก็จะไม่ได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ทำให้การเลือกตั้งล่าสุดที่พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งได้ ส.ส.เขต 136 คน แต่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อสอบตกหมด ดังนั้นที่มีข่าวนักการเมืองที่เคยมีความเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยจะรวมกลุ่มกันเพื่อตั้งพรรคการเมืองใหม่จึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะหากยังอยู่ที่พรรคเพื่อไทยก็จะพากันสอบตกหมด การแยกตัวออกไปตั้งพรรคใหม่จึงไม่ได้เกิดจากการทะเลาะกันเหมือนที่สื่อบางฉบับพยายามจะเสี้ยม 
    "ผมรู้สึกยินดีเมื่อได้อ่านโพสต์ของนายจาตุรนต์ ฉายแสง ที่ยอมรับว่าจะมีการรวมกลุ่มการเมืองที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยตั้งพรรคการเมืองเป็นทางเลือกให้กับประชาชน เพราะจะเป็นประโยชน์ทำให้บุคลากรที่มีแนวทางประชาธิปไตยมีโอกาสเข้าไปในสภา สำหรับผมขอแสดงความชัดเจนว่าจะไม่ไปไหน แม้การอยู่พรรคเพื่อไทยจะต้องสอบตกก็พร้อม เพราะผูกพันกับที่นี่ ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ที่อยากจะเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ผมเชียร์ให้รีบไป เพราะอยู่ที่เพื่อไทยไม่มีทางได้เป็นผู้แทน รีบไปช่วยกันตอกเสาเข็มสร้างบ้านใหม่จะดีกว่าไปตอนที่เพื่อนสร้างบ้านเสร็จ ไปได้โดยไม่ต้องเขิน เพราะเราแยกกันด้วยความรัก" นายวัฒนาระบุ.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"