"บิ๊กตู่” นำทัพประชุมสภากลาโหมเต็มคณะครั้งแรก หลังคลายล็อกโควิด-19 สั่งเหล่าทัพติดตาม-วิเคราะห์สถานการณ์ขัดแย้งทั่วโลกที่มีหลากหลายมิติและซับซ้อน กำหนดบทบาทกลาโหมที่เหมาะสม สั่ง ทบ.-ทร.เกาะติดปัญหา 3 จชต. เข้มความมั่นคงชายแดนป้องโรคอุบัติใหม่ พร้อมมอบเหล่าทัพศึกษาผลกระทบความมั่นคงรับ “New Normal”
ที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เวลา 08.55 น. วันที่ 25 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 5 /2563 ประจำเดือน พ.ค. โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะที่ปรึกษาสภากลาโหม, พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม, พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม, ผู้บัญชาการเหล่าทัพ, พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะที่ปรึกษาสภากลาโหม และหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
โดยการประชุมสภากลาโหมในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมที่กระทรวงกลาโหมด้วยตนเอง หลังจากห่างหายไปนานกว่า 3 เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญทำหน้าที่แทน และในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นายกรัฐมนตรีจะประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
ภายหลังการประชุม พล.ค.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์มอบเป็นนโยบายให้กับหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและ ผบ.เหล่าทัพ ติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ความขัดแย้งในสังคมโลก ที่มีหลากหลายมิติและมีความซับซ้อนมากขึ้น เพื่อพิจารณากำหนดนโยบายและท่าทีที่เหมาะสม ต่อการส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงของกระทรวงกลาโหมในอนาคต โดยคำนึงถึงบทบาทหลักการของอาเซียน ในการสนับสนุนความเป็นแกนกลางด้านความมั่นคงของภูมิภาค รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือในประเด็นที่สร้างสรรค์ ทั้งนี้ คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติในระยะยาวเป็นสำคัญ
พล.ค.คงชีพกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมย้ำให้กองทัพบกและกองทัพเรือในบทบาทการทำหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ดำรงความต่อเนื่องการปฏิบัติงานร่วมกัน และบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการบริหารจัดการด้านความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติให้ครอบคลุม เกื้อกูลระหว่างกัน ทั้งทางบกและทางทะเล
"โดยเฉพาะการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จชต. การลักลอบผ่านแดนตามเส้นทางธรรมชาติ การเคลื่อนย้ายถิ่นฐานทางทะเล และการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมาย ตลอดจนการดำรงความต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) และการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ ขอให้เฝ้าระวังการแฝงเข้ามาของระบาดของโรคอุบัติใหม่และผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ"
โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ย้ำถึงการสนับสนุนรัฐบาลแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 โดยให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพยังคงความต่อเนื่องสนับสนุนการดำเนินการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) รวมทั้งสนับสนุนการอำนวยการจัดการพื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) และพื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (Alternative State Quarantine)
ตลอดจนพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถการบริหารจัดการมาตรการคัดกรอง และสถานที่กักตัวควบคุมโรคดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ให้เพียงพอสำหรับรองรับคนไทยในต่างประเทศจำนวนมากที่ลงทะเบียนกับกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งชาวต่างประเทศที่มีใบอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย ซึ่งประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยพยายามเข้าใจความรู้สึกและดูแลทุกคนตลอดเวลาเข้าพักกักตัวควบคุมโรค ให้เสมือนคนในครอบครัว ขอให้เพิ่มการเฝ้าระวังมากขึ้นกับกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตลอดจนเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ที่เดินทางเข้าประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดซ้ำ
"พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงแนวทางปฏิบัติรองรับ “New Normal” ของกระทรวงกลาโหมว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั่วโลก จะส่งผลกระทบต่อสังคมไทยไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทุกมิติ ต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคงและวิถีชีวิต และส่งผลให้การปฏิบัติภารกิจหลายอย่างจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวร"
ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมหารือร่วมกับเหล่าทัพ ศึกษาถึงผลกระทบความมั่นคงและบทบาททางทหารของภูมิภาค จัดทำแนวทางปฏิบัติรองรับ “New Normal” ในภาพรวมของกระทรวงกลาโหม ให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านกำลังพล ด้านยุทธการ การฝึกศึกษาและพัฒนาหลักนิยม เพื่อรักษาขีดความสามารถในการรองรับสถานการณ์ภัยคุกคามต่างๆ ตลอดจนพิจารณาปรับรูปแบบการมีปฏิสัมพันธ์กับมิตรประเทศภายใต้สภาวะแวดล้อมใหม่ อาทิ การฝึกร่วมผสมผ่านระบบเครือข่าย ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลข่าวสาร เพื่อดำรงความต่อเนื่องในการรักษาระดับความสัมพันธ์และเสริมสร้างความร่วมมือทางทหารระหว่างกัน และเพื่อดำรงความพร้อมและขีดความสามารถในการปฏิบัติการของกองทัพ ในการพิทักษ์รักษาเอกราชและความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรไทย
พล.ค.คงชีพกล่าวด้วยว่า รมว.กลาโหมย้ำถึงการกวดขันวินัย และความประพฤติของกำลังพลที่ไม่เหมาะสมของกำลังพลบางนาย มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทหารเป็นส่วนรวม จึงให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บังคับบัญชาทุกระดับ เน้นย้ำและกำชับกำลังพลให้ปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมทหารอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการแสดงออกในสถานที่สาธารณะ การประพฤติตน หรือแสดงออกผ่านสื่อสาธารณะให้เหมาะสม รวมทั้งต้องไม่มีกำลังพลเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย อาทิ ยาเสพติด การพนัน หนี้นอกระบบ และการกระทำตนเป็นผู้มีอิทธิพล เรียกรับผลประโยชน์อย่างเด็ดขาด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |