ร้านทองเล็กๆ ใต้ต้นมะขามใหญ่ชื่อ "กวง ง่วน เชียง" ที่สร้างสรรค์งานฝีมือด้วยทอง นาก และเงิน เติบโตเป็นบ้านต้นมะขาม  ธุรกิจหัตถศิลป์ชั้นสูงที่ดำเนินกิจการมากว่า 100 ปี ส่งต่อมายังทายาทรุ่น 4 อย่าง ธามาริน เจริญพิทักษ์ บริหารรับช่วงต่อจากคุณพ่อคุณแม่ ด้วยวิสัยทัศน์สืบสานเอกลักษณ์ความงดงามของทองโบราณผสมผสานเข้ากับงานดีไซน์ร่วมสมัย แถมเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานมากขึ้น เพื่อให้ทันสมัย โดนใจลูกค้า

เปิดวิสัยทัศน์ ธามาริน เจริญพิทักษ์ นักธุรกิจหนุ่มผู้สืบทอดธุรกิจหัตถศิลป์ "บ้านต้นมะขาม" 

     ธามาริน เจริญพิทักษ์ ผู้บริหารของบ้านต้นมะขาม กล่าวว่า จุดเริ่มต้นบ้านต้มมะขามเกิดจากคุณทวดล่องเรือมาจากเมืองจีน ขึ้นท่าที่แม่น้ำน้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เมื่อปี 2453 ได้มาตั้งรกราก ด้วยมีวิชาช่างทองติดตัวมาก็รับทำทอง เก็บเงินไว้เป็นทุน ต่อมารุ่นคุณตาได้เปิดร้านทองเล็กๆ ตั้งชื่อร้านว่า “กวง ง่วน เชียง” มีความหมายว่า รุ่งเรืองและสว่างไสว ด้วยร้านอยู่ใต้ต้นมะขามใหญ่ คนย่านนั้นเรียกกันติดปาก “ร้านต้นมะขาม” เป็นที่มาของชื่อ "บ้านต้นมะขาม" มาสู่ยุคคุณพ่อคุณแม่ร้านต้นมะขามมาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ซอยนายเลิศ ถนนวิทยุ คุณพ่อมาออกแบบจิวเวลรี ใช้เพชร พลอย เข้ามาช่วยให้สวยงามมากขึ้น รวมถึงมีการเปิดสาขาที่ศูนย์การค้า จนมาถึงวิกฤติต้มยำกุ้ง คุณพ่อและคุณแม่จะปล่อยให้กิจการหยุดไป แต่ด้วยความผูกพันและเติบโตในตระกูลช่างทอง ทำให้ตัดสินใจเข้ามาดูแลกิจการบ้านต้นมะขามเต็มตัว เพราะเรามีฐานลูกค้าที่ซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ จนดำเนินกิจการมาได้กว่า 100 ปี นี่คือต้นทุนที่มีอยู่แล้ว

     " ผมทบทวนปัญหาและเดินหน้าทำการตลาด นำความรู้ด้านการสร้างคอนเทนต์ที่เรียนมา จบ Art and Craft บวกกับความรู้ผลิตสื่อจากโปรดักชั่นเฮาส์ ชื่อ Storyboard มาผลิตคอนเทนต์ที่น่าสนใจ บวกกับการศึกษาการตลาดออนไลน์จริงจัง บ้านต้นมะขามก็สื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียเป็นเวลา 10 ปี ที่ทำการตลาดและจับกลุ่มเป้าหมายชัดเจน มีสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ธุรกิจจิวเวลรีเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย และไม่อยู่ในปัจจัยสี่ สิ่งที่เราต้องทำคือ ขยายตลาดและหากลุ่มลูกค้าใหม่ ใส่คุณค่าและเรื่องราวในสินค้า กลายเป็นสิ่งของที่อยากส่งต่อ เป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่น" ธามาริน บอก

เครื่องประดับทำด้วยมือสุดประณีต คงเอกลักษณ์ความเป็นไทย

     หลักการในการสร้างสรรค์งานหัตถศิลป์ของบ้านต้นมะขาม ผู้บริหารหนุ่มบอกว่า เอกลักษณ์ดั้งเดิมที่เป็นจุดแข็งของธุรกิจอย่างลายขัดสาน ปกติลายขัดสานเสื่อ สานย่านลิเภา จะเป็นแนวนอน แต่บ้านต้นมะขามลายแนวเฉียง ถัดมาการฉลุลายที่มีชื่อเสียง ทั้งลายใบมะขาม ลายใบโพธิ์ ลายม้วน ลายขัดแตะ และกลุ่มลายไทยต่างๆ ถัดมางานลงยาร้อน นำแก้วสีบดเป็นผง วางบนเครื่องประดับแล้วใช้ไฟค่อยๆ เผาจนละลาย มองดูมีมิติ สิ่งเหล่านี้เราเก็บเอาไว้ แต่ยุคของตนจะปรับเปลี่ยนจะเพิ่มวัสดุที่หลากหลายมากขึ้น ไม่เหมือนใคร อย่างทองคำขาวและทองคำชมพู ผสานกับการใช้เครื่องมือที่ทันสมัย เช่น เครื่องเชื่อมเลเซอร์ ทำให้การออกแบบพัฒนาต่อไปได้ แต่จุดอ่อนของธุรกิจเราขาดนักออกแบบเครื่องประดับ เข้าใจเทรนด์ แต่แก้ปัญหาด้วยการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ปรับจากงานออกแบบที่มีอยู่ รวมทั้งเปิดกลุ่มลูกค้าใหม่ คือ งานกรอบพระ ซึ่งไม่ต้องการดีไซน์ที่หวือหวา แต่ใช้ทักษะของช่างทองบวกเอกลักษณ์ของร้าน รังสรรค์งานพรีเมียมให้ลูกค้า

เอกลักษณ์ความงดงามของทองโบรานผสานงานดีไซน์ร่วมสมัย

     จากรุ่นสู่รุ่น ต้นมะขามเดิมแตกกิ่งก้านออกมาอีกแบรนด์ชื่อ TMK MEN (ทีเอ็มเคเม็น) ทายาทรุ่นสี่ผู้ปั้นแบรนด์ใหม่ บอกว่า เป็นเครื่องประดับที่ออกแบบให้มีความเป็น Unisex สวมใส่ได้ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย งานดีไซน์จะปรับลดทอนรายละเอียดของการทำทองด้วยมือแบบโบราณเข้ากับแฟชั่นสมัยใหม่ ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นและราคาต่ำลง เปิดตลาดให้กว้างขึ้น เจาะกลุ่มลูกค้าอายุน้อยลงมา รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว จากเดิมเป็นกลุ่มคนอายุ 50 ปีขึ้นไป ปีนี้ตนยังมีแผนเปิดช่องทางการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ขยายตลาดไปต่างประเทศ

ลายขัดสาน เอกลักษณ์ดั้งเดิมของบ้านต้นมะขาม พัฒนาออกแบบเป็นงานร่วมสมัยน่าสวมใส่

     บ้านต้นมะขามในปัจจุบันเป็นเครื่องประดับหัตถศิลป์ร่วมสมัยอันประณีต และต่อยอดจากมรดกภูมิปัญญาบรรพบุรุษ "เราเป็นร้านเครื่องประดับทำด้วยมือชิ้นต่อชิ้น เป็นงานแฮนด์เมด ทำทองตั้งแต่เริ่มต้นหลอม รีด ขึ้นวง แต่งเป็นแหวน กำไล ผลงานจะเฉพาะตัวไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ เรามีบริการสั่งทำพิเศษ หรือ คัสตอมเมด ให้ลูกค้าสามารถเพิ่มหรือใส่ความเป็นตัวเองได้ตามความต้องการ มีคุณค่าทางจิตใจ สร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง งานทำทองบ้านต้นมะขามผมยิ่งเรียนรู้ ยิ่งสนุก ทักษะการทำทองด้วยมือสูญพันธุ์ง่ายมาก ต่อให้วาดแบบเก่งแค่ไหน มีพลอยสวยแค่ไหน ขายเก่งแค่ไหน ถ้าไม่มีช่างผลิตได้ก็จบ " ธามาริน กล่าว

สตูดิโอในซอยนายเลิศ สถานที่ออกแบบและรังสรรค์ผลงาน'บ้านต้นมะขาม' 

     ณ ซอยนายเลิศ ช่างทองรุ่นที่ 4 บ้านต้นมะขาม ได้รังสรรค์เป็น TENN Signature Gallery จัดแสดงผลงานที่ภาคภูมิใจของบ้านต้นมะขาม ที่แห่งนี้เขาใช้ศึกษาการทำทอง นั่งออกแบบผลงานใหม่ รวมถึงจัดเวิร์กช็อปสำหรับผู้สนใจเรียนรู้การทำเครื่องประดับ  ผู้บริหารหนุ่มบอกว่า นี่เป็นการต่อยอดทำให้คนได้เรียนรู้งานทำทองโบราณที่มีความมหัศจรรย์ เครื่องมือน้อยชิ้น แต่ผลิตงานมาสเตอร์พีซได้ อีกทั้งได้ความภาคภูมิใจทำเครื่องประดับด้วยตนเอง คนสนใจมากคิวจองยาวถึงเดือนตุลาคมแล้ว แต่ช่วงนี้งดกิจกรรมจนกว่าสถานการณ์โรคโควิดคลี่คลาย นอกจากนี้ ยังมีแผนไปเปิดเวิร์กช็อปในต่างประเทศด้วย เพราะงานช่างไทยไม่น้อยหน้าใคร ถ้าอยากรู้จักการทำทองด้วยมือโบราณสามารถติดตามได้หลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์ www.tonmakham.com  เพจเฟซบุ๊ก BaanTonmakham และอินสตาแกรม :  @baantonmakham เข้าไปชมงานช่างทองไทยบ้านต้นมะขามกันได้