ขนส่งฯสแกนเข้มรถโดยสารพบ7คันสภาพไม่พร้อมห้ามใช้เด็ดขาด


เพิ่มเพื่อน    


ขนส่งฯ สแกนเข้มต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ในช่วงก่อนเทศกาล ตรวจสอบความพร้อมของคนขับและรถโดยสารทุกคันก่อนออกเดินทาง เฉพาะ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา พ่นห้ามใช้รถทันที 7 คัน พบคนขับสภาพไม่พร้อม สั่งเปลี่ยนตัวทันที 1 ราย 
 
8 เม.ย.61-นายสนิท พรหมวงษ์  อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.)  เปิดเผยว่า  ตามที่กรมฯดำเนินมาตรการสแกนเข้มรถโดยสารสาธารณะทุกคัน และพนักงานขับรถทุกคน ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถ 212 แห่งทั่วประเทศ ตามมาตรฐานความปลอดภัย (Checklist)ที่กรมฯกำหนด  โดยดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ในช่วงก่อนเทศกาล ระหว่างวันที่ 4 –10 เม.ย.61  ซึ่งจากผลการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและคนขับ เฉพาะวันที่ 6 เม.ย.ตรวจสอบความพร้อมของรถและคนขับ จำนวน 18,189 ราย พบรถมีข้อบกพร่อง จำนวน  36 คัน  พบเป็นรถที่ไม่ได้เชื่อมโยงระบบ GPS กับศูนย์ GPS ของกรมฯ จึงสั่งพ่นห้ามใช้ทันที 7คัน และให้ดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยพร้อมนำรถเข้าตรวจสภาพก่อนนำกลับมาให้บริการ และสั่งให้เปลี่ยนรถทันที 1 คัน โดยให้ผู้ประกอบการนำรถคันใหม่มาเปลี่ยนให้บริการประชาชนเดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย  
 
อย่างไรก็ตามขณะที่พนักงานขับรถ พบข้อบกพร่อง จำนวน 2 ราย  เป็นข้อบกพร่องที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการเดินรถ จำนวน 1 ราย เนื่องจากมีชั่วโมงการทำงานเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งได้สั่งการให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนตัวผู้ขับรถทันที  พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานจัดเตรียมรถสำหรับให้บริการอย่างเพียงพอกับความต้องการเดินทางของประชาชน  และนอกจากมาตรการตรวจความพร้อมของรถและคนขับตั้งแต่ต้นทางที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถทั่วประเทศแล้ว  กรมการขนส่งทางบกยังมีมาตรการดูแลความปลอดภัยในระหว่างการเดินทาง จัดตั้งจุดตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและคนขับบนเส้นทางสายหลักใน 16 จังหวัด 19 แห่งทั่วประเทศ หากพบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน โทร 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"