หนังสือเล่มใหม่ของนักวิชาการคนดังของสิงคโปร์ Kishore Mahbubani ชื่อ Has China Won? เป็นการตั้งชื่อเพื่อยั่วยุให้มีการถกแถลงในหัวข้อที่สำคัญที่กำลังเป็นประเด็นร้อนระดับโลก
    คิชอร์ มาบูบานี เป็นนักการทูตสิงคโปร์ระดับอาวุโส เคยเป็นเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำสหประชาชาติและอธิการบดีของสถาบัน Lee Kuan Yew School of Public Policy อันโด่งดัง
    แกเคยเขียนหนังสือหลายเล่มที่เน้นบทบาทของเอเชียที่กำลังจะทดแทนอิทธิพลตะวันตก
    วันนี้แกกำลังทำนายว่าจีนกำลังมาแรง และสหรัฐฯ กำลังอยู่ในขาลง
    ผมเคยสัมภาษณ์คิชอร์ ซึ่งเป็นคนที่เชื่อในอนาคตของอาเซียนมาก ถึงกับเขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่นชม “ความมหัศจรรย์” ขององค์กรภูมิภาคนี้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
    หนังสือเล่มแรกที่ทำให้เขาดังชื่อ Can Asians Think? เพื่อท้าทายให้คิดว่าจริงหรือที่ว่าคนตะวันตกฉลาดกว่าคนเอเชีย
    วันนี้คิชอร์ก็ต้องการจะนำเสนอว่าจีนกำลังแซงสหรัฐฯ ในหลายๆ เรื่อง
    เขาเริ่มด้วยการบอกว่าโลกต้องยอมรับว่าวันนี้จีนสามารถสร้างมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชนได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ 4,000 ปี
    “ผมเขียนหนังสือเล่มนี้ เพราะผมกลัวโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่จะมาในรูปแบบของการแข่งขันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในแง่ภูมิรัฐศาสตร์...เป็นการแข่งขันที่ผมเชื่อว่าไม่มีความจำเป็นเลย” คีชอร์บอกกับหนังสือพิมพ์ที่ประเทศจีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
    แกบอกว่าการระบาดของ Covid-19 ครั้งนี้ตอกย้ำว่าสหรัฐฯ กับจีนจะต้องทำงานร่วมกันจึงจะได้ประโยชน์ร่วมกัน
    แต่ในความเป็นจริงปรากฏการณ์โรคระบาดครั้งนี้กลับทำให้เกิดความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นอีก
    “โดยวิธีคิดแบบยุทธศาสตร์แบบดั้งเดิมนั้น ศัตรูของศัตรูคุณคือมิตรของเรา ดังนั้นอเมริกาก็น่าจะคิดว่าศัตรูของโควิดคือจีน ดังนั้นจีนก็ควรจะเป็นเพื่อนของอเมริกา และก็ควรจะจับมือกันเพื่อพิชิตศัตรูร่วมนี้เสีย” คิชอร์เสนอแนะ
    แต่บรรยากาศการเมืองในสหรัฐฯ ไม่เอื้อต่อการที่จะให้คนคิดไปในทิศทางนี้ เหตุเพราะส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ คิดไปในรูปแบบของการแก่งแย่งอิทธิพลในกรอบของภูมิรัฐศาสตร์เป็นหลัก
    พูดง่ายๆ คือแกหมายความว่าผู้กุมนโยบายสหรัฐฯ คิดจะต้องเป็นผู้ชนะในเกมการแข่งขันทางด้านอิทธิพลในโลกมากกว่าจะหาทางร่วมมือกับจีนเพื่อสร้างความสมบูรณ์พูนสุขให้กับโลกใบนี้
    หนังสือเล่มดังๆ ของคีชอร์เน้นไปในทางยั่วยุให้คนคิดและแย้ง
    เช่น Can Asians Think (2001) คนเอเชียคิดเป็นหรือเปล่า?
    The Great Convergence (2013) การหลอมรวมอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นการสรุปว่าโลกจะต้องมารวมตัวกันเพื่อการแก้ปัญหาระดับสากล
    Has the West Lost It? A Provocation (2018)
    เล่มนี้ท้าทายให้คนมาวิพากษ์แย้งเขาว่าจริงไหมที่โลกตะวันตกพ่ายแพ้ตะวันออกแล้ว

    หนังสือเล่มใหม่ Has China Won? ต้องการจะชี้ว่าสหรัฐฯ กำลังทำอะไรผิดพลาดอย่างยิ่งด้วยการก่อ “สงครามเย็น” รอบใหม่กับจีน ขณะที่จีนซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลกวันนี้ไม่มีอะไรเหมือนอดีตสหภาพโซเวียตที่เคยเป็นคู่กรณีหลักของอเมริกาเลย
    แกบอกว่าขณะที่จีนช่วยให้คนจนพ้นจากภาวะยากจนหลายร้อยล้านคนใน 30 ปีที่ผ่านมา แต่คนอเมริกัน 50% ที่อยู่ระดับล่างของสังคมมีมาตรฐานการครองชีพที่ลดลงในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
    “สหรัฐฯ เป็นสังคมของประเทศพัฒนาแล้วสังคมเดียวที่รายได้เฉลี่ยของประชากรลดลง...ขณะที่คนจีนมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นตามลำดับ...และคนอเมริกันบางส่วนถามว่าทำไมคนจีนไม่ลุกฮือขึ้นมาล้มล้างรัฐบาลของตัวเอง มันเป็นเรื่องประหลาดจริงๆ”
    คีชอร์คงจะทำให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พอใจมากๆ เพราะแกเขียนในหนังสือเล่มนี้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีบทบาทสำคัญ
    ”ในการสร้างเสถียรภาพในโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง”
    แกบอกว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ “ประพฤติตนอย่างรับผิดชอบที่รับความท้าทายทั้งหลายที่โลกกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะเรื่องโลกร้อน
    คีชอร์บอกว่าจีนได้แสดงความสามารถในการตั้งรับโควิดอย่างมีประสิทธิภาพ
“จีนได้แสดงให้เห็นว่าสามารถที่จะปิดจังหวัดที่มีประชากร 60 ล้านคนก่อนวันตรุษจีน ถ้าอเมริกาพยายามจะปิดเมืองใหญ่ของตัวเองไม่กี่วันก่อนวัน Thanksgiving ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้”
    ดังนั้นแม้ชื่อหนังสือจะมีเครื่องหมายคำถาม แต่ข้อสรุปของนักการทูตสิงคโปร์คนนี้คงไม่มีข้อสงสัยใดๆ ว่า
    นี่เป็นยุคขาขึ้นของจีน...และขาลงของสหรัฐฯ...จนกว่าสองยักษ์ใหญ่จะหาทางร่วมมือสร้างสรรค์จรรโลงเศรษฐกิจโลกและหยุดฟาดฟันกันในทุกเวทีอย่างที่เห็นกันอยู่วันนี้.