วิปริตฝนถล่มหน้าแล้ง น้ำป่าทะลักเดือนเมษา


เพิ่มเพื่อน    

 

สภาพอากาศเดือนเมษายนเข้าขั้นวิปริตหนัก พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก ปภ.รายงานเจอวาตภัยหน้าแล้ง 17 จังหวัด ที่ลำปางน้ำป่าทะลักกลางดึก ชาวบ้านครวญขนของไม่ทัน เผยหนักสุดรอบ 10 ปี 

    นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 2-6 เม.ย.ที่ผ่านมา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยรวม 17 จังหวัด 34 อำเภอ 52 ตำบล 94 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 656 หลัง แบ่งเป็นภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง, เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน,พะเยา, แพร่, เชียงราย, เพชรบูรณ์ และน่าน, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ เลย,นครราชสีมา, บุรีรัมย์, มหาสารคาม และหนองบัวลำภู, ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท,ฉะเชิงเทรา และลพบุรี และภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี
        ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น แจกจ่ายเครื่องอุปโภค บริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือน รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจ ประเมิน และจัดทำบัญชีข้อมูลความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป
        นอกจากนี้ จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับ กรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 7 เม.ย. บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคเหนือภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังคงมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด
    สำหรับสภาพอากาศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตรงตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ไว้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ต่างเผชิญกับพายุฤดูร้อนกันถ้วนหน้า มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า กับมีลูกเห็บตก และมีฝนตกหนักจนเกิดน้ำป่าในบางพื้นที่ ทั้งๆ ที่เข้าหน้าร้อนแล้ว
    ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ลำปาง ว่าเมื่อช่วงเช้า ที่บ้านค่ากลาง หมู่ 2 ต.บ้านค่า อ.เมืองฯ จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ลำปาง พร้อมด้วยนายพลวัฒน์ นันตะกูล นายก อบต.บ้านค่า และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ได้ลงสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 01.00 น. ของวันเสาร์
        เบื้องต้นพบว่า บ้านเรือนได้รับผลกระทบน้ำทะลักเข้าท่วม ทั้งเศษดินโคลนเข้าไปในบ้านจำนวนมาก ทรัพย์สินเครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จมน้ำจำนวนหลายคัน เครื่องมือเครื่องใช้ทางการเกษตรเสียหาย ข้าวสารแช่น้ำ เนื่องจากขนย้ายหนีน้ำไม่ทัน นอกจากนี้ยังมีสัตว์เลี้ยง เช่น ไก่ จมน้ำตายไปหลายสิบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สำรวจเพื่อที่จะเร่งให้การช่วยเหลือต่อไป โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ขอกำลังรถน้ำจากศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง อบต.เทศบาลต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อที่จะมาช่วยในการฉีดน้ำล้างเศษดินโคลนที่อยู่ภายในตัวบ้านออก
        สำหรับเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากครั้งนี้ เกิดขึ้นในเวลา 01.00 น. เพราะก่อนนั้นมีฝนตกหนักและพายุพัดลมแรง โดยน้ำป่าไหลหลากจากลำห้วยหลายสาย ไหลลงมารวมลำห้วยแม่สุย ที่ไหลผ่านในพื้นบ้านค่ากลาง หมู่ 2 บ้านทุ้งโจ้ หมู่ 3 บ้านค่าหลวง หมู่ 4 เกิดน้ำป่าไหลหลากอย่างรวดเร็ว ทางผู้ใหญ่บ้านได้ มีประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ติดลำห้วยดังกล่าวให้รีบขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง แต่ในช่วงเกิดเหตุมีฝนตกและหลายๆ คนหลับสนิท ทำให้ขนย้ายทรัพย์สินไม่ทัน ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมทันที
         สำหรับเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากครั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือ เพราะอยู่ในช่วงฤดูร้อนและสภาพพื้นที่แห้งแล้ง ซึ่งทุกคนคิดว่าไม่น่าจะเกิดน้ำป่าได้ จึงไม่ได้เตรียมพร้อมแต่อย่างใด โดยเหตุการณ์ครั้งนี้หนักที่สุดในรอบ 10 ปีของชาวบ้านในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งล่าสุดกำลังจากหลายๆ ภาคส่วนได้เดินทางเข้าพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว
    ในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ สภาพอากาศโดยทั่วไปแปรปรวน มีกระแสลมพัดกระโชกอย่างรุนแรง ท้องฟ้ามีเมฆมาก ไม่มีฝนตก โดยเฉพาะที่ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ มีลมกระโชกและพัดแรงตลอดเวลา ท้องฟ้ามีเมฆมืดครึ้มคล้ายฝนจะตก ด้วยลมพัดแรง ทำให้ต้นไม้โค่นล้มทับนายสังวาล ขันทอง อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 1 บ้านเหล่าแก้วแมง ต.คำเขื่อนแก้ว อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ซึ่งได้ขี่ จยย.กลับจากดูแลไร่มันสำปะหลัง ระหว่างเดินทางกลับบ้านพัก บริเวณถนนสายรอง บ้านเหล่าแก้วแมง-บ้านคำแก้วเมืองเก่า อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ถูกต้นไม้ข้างทางหักล้มทับ ที่ท้ายทอย จยย.ทั้งคนทั้งรถล้มคว่ำ นอนสลบแน่นิ่งอยู่กลางถนน 
    โดยมีพลเมืองดีที่มาพบเหตุได้นำตัวส่งโรงพยาบาลชานุมานอย่างเร่งด่วน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าถูกของแข็งตกกระทบท้ายทอยเป็นเหตุให้เสียชีวิต และญาติๆ นำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด จ.สุรินทร์ต่อไป
    ที่จังหวัดขอนแก่น นายสำริง โสบุญมา ปลัดอำเภออุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่จากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย และให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย หลังเกิดพายุลูกเห็บและฝนฟ้าคะนองพัดถล่มบ้านเรือนของประชาชนในหลายหมู่บ้าน ในเขต อ.อุบลรัตน์ เสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน เพื่อเร่งสรุปความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน
    นายสำเริงกล่าวว่า ได้เกิดพายุลูกเห็บและฝนฟ้าคะนองตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ โดยเฉพาะที่ ต.ศรีสุขสำราญ ที่บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย ทั้งยังคงพบว่ามีประชาชนได้รับบาดเจ็บจากเหตุบ้านพังถล่มลงมาทับอีกด้วย
    เขากล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าความเสียหาย เบื้องต้นประกอบด้วย บ้านห้วยเตย ม.9 จำนวน 40 หลังคาเรือน, บ้านโนนเจริญ ม.8 พายุพัดถล่มได้รับความเสียหาย 26 หลัง, บ้านศรีสุข ม.1 จำนวน 4 หลัง , บ้านสำราญ ม.2 จำนวน 10 หลัง และบ้านศาลาดิน จำนวน 7 หลัง
    ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศช่วงวันที่ 8- 9 เม.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 เม.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อน ส่วนภาคใต้จะมีฝนลดลง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"