‘สุเทพ’ตั้งพรรค! จับตานวัตกรรมใหม่ทางการเมืองสืบสานปณิธานกปปส.


เพิ่มเพื่อน    

 

"สุเทพ" ให้จับตานวัตกรรมใหม่ทางการเมือง ตั้งแน่พรรคของประชาชน สืบสานปณิธาน อุดมการณ์ของ กปปส. ขณะที่ "ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย" ยังจับมือต้านนายกฯ คนนอก "นิพิฏฐ์" ซัด "สมคิด" ความคิดย้อนยุคจอมพล ป. ส่วนเด็กแม้วฟุ้งเลือกตั้งกวาดเก้าอี้ ส.ส.มากกว่า 200 ที่นั่ง พรรคไพบูลย์ไม่น้อยหน้า ขอ 125 คนไปบวกกับ ส.ว. 250 หนุน "บิ๊กตู่" เป็นนายกฯ

    นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ต่อว่า เข้าใจว่าคงคิดไว้นานแล้ว จึงออกแบบรัฐธรรมนูญในลักษณะนี้ โดยให้ ส.ว. 250 โหวตนายกฯ ได้ จะได้เดินตามแนวทางที่คิดไว้ แต่การที่นายสมคิดมีท่าทีเช่นนี้ คิดว่าคงต้องการหนีนายกฯ คนนอก โดยจะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่อให้มีเสียงสนับสนุนนายกฯ คนใน 
    ทั้งนี้ อยากบอกนายสมคิดว่า อย่าใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่เชิญนักการเมืองไปพูดคุยให้สนับสนุนใครคนใดคนหนึ่งใน คสช.ตั้งรัฐบาลต่อ เพราะการทำแบบนี้เท่ากับใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ทำการพรรคการเมือง ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ จะเป็นการเมืองที่ย้อนยุคมากๆ ไม่รู้ว่านายสมคิดทำอย่างนั้นหรือเปล่า แต่คิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในทำเนียบรัฐบาลเป็นพยานได้ ถ้ากำลังทำอยู่ ก็ขอว่าอย่าไปทำเลย เป็นการเมืองย้อนยุคเหมือนสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม อดีตนายกฯ มันไม่ใช่การปฏิรูปการเมืองอย่างที่กล่าวอ้างเลย 
    "มันย้อนยุคมากๆ ซ้ำร้ายยังเป็นการเอาเปรียบกันมากๆ และไม่ควรจะทำด้วย คุณสมคิดทำหรือเปล่า ผมไม่รู้ ถ้าทำก็ขอให้เลิกซะเถอะ”
        นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า การที่ผู้ออกแบบกติกาแล้วจะลงมาเล่นในกติกาที่ตนเองร่างมานั้น จะนำมาซึ่งความได้เปรียบเสียเปรียบกัน เพราะมีเสียง ส.ว. 250 เสียงสนับสนุน โดยไม่ต้องทำอะไร และตนกังวลอย่างเดียวว่า หาก คสช.ลงมาเล่นการเมืองต่อจากนี้ไป ก็จะกลายเป็นขั้วขัดแย้ง เป็นการเมือง 3 ขั้ว เพราะแต่เดิมความขัดแย้งมีเพียง 2 ขั้ว ระหว่างประชาธิปัตย์ กับพรรคเพื่อไทย
    “ถ้า คสช.ลงมาเล่นการเมืองจริง ความแตกแยกจะกระจายลงไป กลายเป็น 3 ก๊กขั้วอำนาจ คือ ก๊กทหาร ก๊กประชาธิปัตย์ ก๊กเพื่อไทย ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้จริง การยึดอำนาจเพื่อจะปฏิรูปก็จะเสียของ แทนที่ความขัดแย้งจะจบลง แต่กลับไปเพิ่มความขัดแย้งขึ้นไปอีก” 
    นายนิพิฏฐ์ยืนยันว่า ท่าทีพรรคประชาธิปัตย์ เราสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคของเราอยู่แล้วให้เป็นนายกฯ ส่วนท่าทีในอนาคตพรรคประชาธิปัตย์จะจับมือเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับทหารหรือไม่ ตนคงตอบไม่ได้ในประเด็นนี้ เพราะต้องตอบในนามพรรค
ปชช.ตัดสินใจง่ายขึ้น
    นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า นี่คือความพยายามให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง เพราะ คสช.เข้าใจกติกาของรัฐธรรมนูญปี 2560 มากขึ้น เนื่องจากเกณฑ์การจะได้มาซึ่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญนั้น ไม่เป็นไปอย่างที่ คสช.ขอไปยังกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพราะ กรธ.กำหนดว่า จะเลือกนายกฯ คนนอกได้ก็ต่อเมื่อเลือกรอบแรกไม่สำเร็จ ซึ่งการเลือกนายกฯ คนนอกรอบสองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีเสียงสนับสนุนถึง 500 เสียง ดังนั้น คสช.จึงต้องคิดวิธีการใหม่ โดยพยายามให้ชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ไปเป็น 1 ใน 3 ของบัญชีที่พรรคการเมืองจะเสนอเป็นนายกฯ จึงเป็นที่มาของการตั้งพรรคการเมือง
    เขากล่าวว่า ในแง่หนึ่งเป็นเรื่องดีที่จะทำให้ประชาชนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และประเด็นในการเลือกตั้งก็จะมี 2 อย่าง คือ พรรคการเมืองที่เชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคที่ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งจะเป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังเป็นการยอมรับความจริงว่า พล.อ.ประยุทธ์และ คสช.ต้องการสืบทอดอำนาจนานๆ อย่างน้อยจะได้เลิกหลอกลวงประชาชนว่าตัวเองไม่อยากอยู่ในอำนาจ
    นายจาตุรนต์กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลคือ พรรคที่นายสมคิดจะตั้งนี้ จะใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์แน่นอน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งเป็นผู้นำทางทหาร ใช้กำลังอาวุธเป็นหลัก ไม่มีความถนัดในเรื่องของเวทีเลือกตั้ง ดังนั้นเมื่อจะเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง จึงต้องใช้ผู้ที่มีประสบการณ์และกลอุบายอย่างไม่จำกัด เพื่อให้ประสบความสำเร็จ เหมือนกับทหารที่ต้องการชนะคู่ต่อสู้
         นายจาตุรนต์กล่าวว่า พรรคการเมืองและผู้ที่ไม่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์และ คสช.อยู่ในอำนาจต่อไปหลังการเลือกตั้ง ต้องทำความเข้าใจต่อประชาชนว่า สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำนั้น ไม่ตรงกับที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่ต้น ผิดไปจากคำที่พูดมาโดยตลอด และการสืบทอดอำนาจนี้ ได้ทำลายสิ่งที่ถูกต้อง นำไปสู่ความเสียหายอย่างมากในอนาคต ซึ่งความเสียหายนี้จะใช้ระยะเวลานาน
    ด้านนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในฐานะนักการเมืองคนหนึ่ง หากมีใครเสนอตัวมาเป็นตัวเลือกให้กับประชาชนเป็นเรื่องน่ายินดี แต่การตั้งพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่ง จะเข้าลักษณะพรรคเฉพาะกิจอุดมการณ์จุดยืนจะไม่เหนียวแน่น ดังนั้นใครจะไปร่วมพรรคดังกล่าวก็ควรระมัดระวัง
พท.มาแน่ 200 ที่นั่งขึ้นไป
    นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์จะลงเล่นการเมืองเราก็ยินดี เพราะการอยู่ในพรรคการเมืองเสนอตัวให้ประชาชนเลือกถือว่าอยู่ในระบบประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน และการเข้ามาในระบบให้ ส.ส.ได้เลือกตั้งแต่แรก ไม่ต้องรอการเป็นนายกฯ คนนอก จะเป็นความสง่างามสำหรับตัวท่านเอง เพราะมาจากประชาชนทุกคนยอมรับ และถ้าท่านได้เป็นนายกฯ ก็จะได้บริหารงานต่อตามกติกาที่วางไว้ ทั้งฝ่ายค้านและประชาชนก็ไม่มีสิทธิขัดขวางการทำงานท่านได้เพราะถือว่ามาตามระบบ
    "แม้ภายหลังเลือกตั้งพรรคการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์สังกัดจะไม่ได้จำนวน ส.ส.มาเป็นลำดับที่ 1 แต่หากสามารถรวบรวม ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นๆ จนเป็นเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ ก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ ถือเป็นสิทธิ และถือว่าท่านมีบารมี ดีกว่ามาด้วยวิธีการนายกฯ คนนอก ผมยังเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.หลังเลือกตั้ง 200 คนขึ้นไป ก็คงต้องมาหาแนวร่วมสู้กันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล” นายอำนวยกล่าว 
    ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่านายสมคิดจะเสนอพล.อ.ประยุทธ์ให้ลงสมัครรับการเลือกตั้ง หรือเสนอชื่อในบริบทไหนกันแน่ ซึ่งการที่นายสมคิดเสนอในฐานะประชาชนคนไทยก็คงเป็นสิทธิที่จะเสนอชื่อได้ แต่ถ้าเสนอในฐานะรองนายกฯ แล้วตั้งพรรคการเมืองก็ต้องดูช่วงเวลาว่าเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน เพราะทุกคนทราบดีว่าท่านอยู่ในสถานะผู้คุมกฎกติกาทางการเมือง ดังนั้นเราต้องดูความชัดเจนก่อนว่าจะเป็นอย่างไร
        เมื่อถามว่า การเสนอแนวทางดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงช่องทางนายกฯ คนนอก แล้วให้ตั้งพรรคการเมืองเป็นผู้เสนอชื่อในบัญชีพรรคการเมืองแทน นายวราวุธตอบว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ตนขอสนับสนุนเลย การที่ท่านจะลงมาทำงานการเมือง แล้วเสนอชื่อตนเองในนามพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง เพื่อเข้าสู่ระบบการเลือกตั้ง คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี และเป็นความสวยงามตามระบอบประชาธิปไตย 
    สำหรับท่าทีของพรรคชาติไทยพัฒนานั้น ยังยืนยันว่า การที่พรรคจะเสนอชื่อใคร จะต้องเปิดให้มีการประชุมพรรคก่อน และที่สำคัญ ต้องมีความชัดเจนจากเจ้าตัวด้วยว่าจะลงเล่นการเมืองจริงหรือไม่
         “ถ้าทหารตั้งพรรคการเมือง ก็เป็นอีกพรรคการเมืองหนึ่ง ใครก็สามารถทำได้ และเป็นสิ่งที่ดี ถ้าลงมาแล้วจะจับมือกับพรรคทหารหรือไม่ เราต้องดูว่าแต่ละคนได้เสียงเท่าไหร่ ถ้าพรรคทหารได้เสียงข้างมากในสภา แล้วจัดตั้งรัฐบาล ถึงเวลานั้นคงต้องดูว่านโยบายพรรคเราจะสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศได้อย่างไร เพราะเสียงในสภา และนโยบายจะเป็นตัวกำหนด“
ชาติไทยพัฒนายังยึดภาคกลาง
         ส่วนความเคลื่อนไหวการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคนั้น นายวราวุธกล่าวว่า เข้าใจว่าการย้ายเข้าพรรคยังไม่มี และเท่าที่รับทราบจากสาขาพรรคต่างๆได้มีผู้มาแสดงความจำนงยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคพอสมควร เพียงแต่ช่วงนี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์อาจจะทำอะไรยาก ดังนั้น ยังมีเวลาถึง 30 เมษายน คงจะได้สมาชิกมาระดับหนึ่ง จึงคิดว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร ขณะที่ใครที่ยืนยันความเป็นสมาชิกไม่ทัน ตนคิดว่าหาก คสช.ปลดล็อกพรรคการเมือง ก็สามารถยืนยันสมาชิกพรรคได้อยู่แล้ว 
    นายวราวุธมั่นใจว่า พรรคจะคุมฐานเสียงเดิมในพื้นที่ภาคกลาง อย่าง จ.สุพรรณบุรี จ.อ่างทอง ได้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างแน่นอน และล่าสุด ตนได้คุยกับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.อุทัยธานีของพรรค โดยได้ยืนยันกับตนว่ายังอยู่กับชาติไทยพัฒนาต่อไป ไม่ได้ย้ายออกไปไหน
     นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการยืนยันสมาชิกพรรคภูมิใจไทยว่าตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพรวมของพรรคภูมิใจไทยในขณะนี้มีอดีต ส.ส. ยังอยู่กับพรรคเช่นเดิม รวมไปถึงผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคที่ไม่ได้เป็น ส.ส. ก็ยังอยู่กันครบ ส่วนสมาชิกทั่วไปที่อยู่ในต่างจังหวัด ที่อาจยังอยู่ไกลด้วยระยะทาง ซึ่งทางพรรคก็ได้อำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่ ซึ่งยังมีเวลาถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้
        เมื่อถามถึงกระแสข่าวของบรรดาบิ๊กเนมมีใครติดต่อเข้ามาหรือยังอยู่ต่อกับพรรค นายศุภชัยตอบว่า นายสุชาติ ตันเจริญ อดีต รมช.มหาดไทย แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ ก็ยังร่วมงานกับพรรคเช่นเดิม นอกจากนี้ยังมีนายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พิจิตร พร้อมด้วยนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ อดีต ส.ส.พิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา
          รวมไปถึง จ.นครราชสีมา อาทิ นพ.สำเริง แหยงกระโทก อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา อาทิ นายประชาธิปไตย คำสิงห์นอก นายประทีป กรีฑาเวช เป็นต้น ส่วนพื้นที่ภาคใต้ มีนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส นายกูเฮง ยาวอหะซัน อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคชาติไทยพัฒนา นายวัชระ ยาวอหะซัน อดีตผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เป็นต้น
        นายศุภชัยกล่าวว่า โดยรวมมีผู้ให้ความสนใจกับพรรคเราค่อนข้างมาก บางเขตก็มีผู้สนใจมากกว่าหนึ่งคน ขณะนี้เรายังมีเวลา ทั้งนี้ พรรคขอปฏิบัติตามกฎหมาย และทำตามที่ คสช.เปิดช่องไว้ให้เราสามารถทำได้ก่อน
"ไพบูลย์"ลั่นชู"บิ๊กตู่"
    สำหรับการประชุมผู้ร่วมจัดตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป ได้มีการพิจารณา กำหนดชื่อ ชื่อย่อ ภาพเครื่องหมายพรรค นโยบายพรรค และข้อบังคับพรรค เลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค โดยที่ประชุมเห็นชอบให้นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นหัวหน้าพรรค นายมโน เลาหวณิช เป็นเลขาธิการพรรค โดยมีกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 27 คน ชื่อย่อ ปชช. ที่หมายถึงประชาชน เพื่อแสดงถึงว่าประชาชนเป็นใหญ่ 
    ส่วนภาพเครื่องหมายพรรคนั้น ใช้ตัวย่อพรรคและชื่อเต็มพรรคเป็นสัญลักษณ์ในกรอบ 6 เหลี่ยม ไม่ได้กำหนดสี ขณะที่อุดมการณ์ของพรรคต้องยึดมั่นในหลักธรรมาธิปไตยเพื่อถ่วงดุลกับฝ่ายประชาธิปไตยสุดโต่ง
    สำหรับนโยบายของพรรคในระยะ 5 ปีแรก คือ 1.ปฏิรูปเพิ่มอำนาจให้ประชาชน ตรวจสอบ และถ่วงดุลอำนาจรัฐ เช่น ให้มีสภาประชาชนปฏิรูปประจำจังหวัด ทุกจังหวัด เพื่อให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการทำงานของหน่วยงานรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยมีเป้าหมายจัดตั้งสภาประชาชนฯ ให้ครบทั้ง 77 จังหวัด ก่อนที่จะมีการจัดการเลือกตั้ง 
    2.ปฏิรูปการปกครองคณะสงฆ์ การจัดการทรัพย์สินวัด และพระภิกษุให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย 3.ปฏิรูปการเมือง โดยส่งเสริมคนดีมีความสามารถให้เข้าดำรงตำแหน่งสำคัญ ให้เป็นไปตามระบบคุณธรรม เช่น ในรัฐสภาชุดแรก ส.ส.ของพรรคจะให้การสนับสนุนบุคคลที่ไม่เป็น ส.ส. หรือมีรายชื่ออยู่ในบัญชีของพรรคใด และเป็นผู้มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีความสามารถในการบริหารประเทศ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนกลาง นอกจากนั้นนโยบายการดำเนินการปฏิรูปในด้านอื่นๆ ให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ
    นายไพบูลย์กล่าวถึงการสนับสุนน พล.อ. ประยุทธ์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ใช่นโยบายหลักแต่เป็นนโยบายรองของพรรคที่จะสนับสนุนบุคคลที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองใดให้เป็นนายกฯ คนกลาง ส่วนตัวมองว่า พล.อ.ประยุทธ์มีคุณสมบัติครบถ้วน มีความสามารถ และซื่อสัตย์สุจริต และขณะนี้ยังไม่พบการทุจริตของ พล.อ.ประยุทธ์และครอบครัว ดังนั้นจึงเหมาะสมที่สุด
    ส่วนกรณีหาก พล.อ.ประยุทธ์ตอบรับและสังกัดพรรคการเมืองอื่น นายไพบูลย์ระบุว่า จะต้องปรึกษาคนในสมาชิกพรรคก่อน แต่ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ยังอีกนาน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ผูกมัดว่านายกฯ คนกลางจะต้องเป็น พล.อ.ประยุทธ์เพียงคนเดียว แต่ขอให้เป็นคนที่มีคุณสมบัติในขั้นต้น
    นายไพบูลย์ให้เหตุผลว่า เนื่องจากการตั้งพรรคการเมืองประชาชนปฏิรูปขึ้นมา ทางพรรคจะไม่ส่งตัวแทนของพรรคเข้าเสนอชื่อเป็นนายกฯ อยู่แล้ว และจะไม่สนับสนุนบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีจากพรรคอื่นด้วยเช่นกัน และหากพรรคการเมืองสามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนนายกฯ ได้มากกว่านายกฯ คนนอก
ฟุ้งกวาด 125 ที่นั่ง 
    เขากล่าวว่า พรรคจะอยู่ข้างเดียวกับสมาชิกวุฒิสภา ส่วนตัวเชื่อว่าสามารถรวบรวมบัญชีรายชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากหลายพรรคได้ไม่น้อยกว่า 125 เสียง เมื่อรวมกับ ส.ว.อีก 250 เสียง เพื่อให้ได้เสียงมากกว่า 375 เสียง เพื่อลงชื่อเอานายกฯ ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอมา พร้อมมองด้วยว่าถ้าได้นายกฯ ที่เป็นนายกฯ คนกลาง จะยังสามารถทำงานได้ ไม่อ่อนแอตามที่หลายฝ่ายกังวล
    ส่วนข้อเสนอเรื่องการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ มองว่าเป็นเพียงวาทกรรม เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องใช้เสียงข้างมากในสภาเป็นตัวตัดสิน และส่วนตัวยังเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปตามโรดแมป คือเกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.พ.2562 เนื่องจากยังไม่พบว่าจะมีสัญญาณเปลี่ยนแปลง แต่หากไม่เป็นไปตามนั้น เชื่อว่าจะต้องมีเหตุผลที่สามารถเข้าใจได้อย่างแน่นอน
    อย่างไรก็ตาม นายไพบูลย์ระบุว่า จำนวน ส.ส. ไม่ใช่เป้าหมายหลักของพรรค แต่ส่วนตัวประเมินทางพรรคว่าจะได้ ส.ส.จำนวนมากจนเป็นที่น่าพอใจ
    ช่วงสายวันเดียวกันนี้ นายธนาธร หรือเอก จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจกลุ่มไทยซัมมิท ผู้ยื่นจดตั้งพรรคอนาคตใหม่ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปจังหวัดตรัง ซึ่งไม่มีวาระอย่างเป็นทางการ โดยมีนายณิชเชฎฐ์ หรือเก่ง นิลสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ตรัง พรรคเพื่อแผ่นดินและพรรคภูมิใจไทย คอยให้การต้อนรับ
    ส่วนนายระลึก หลีกภัย น้องชายของนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ รับเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารมื้อเช้าให้กับคณะ ที่ร้านเลตรัง ถนนราชดำเนิน (เขตเทศบาลนครตรัง)
    นายธนาธรให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่ต้องพูดถึงหนึ่งในนโยบายหลัก คือการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น มีโอกาสได้คุยกับผู้ประกอบการในท้องถิ่น ซึ่งผมเห็นความคิดสร้างสรรค์เห็นพลังเต็มไปหมด เชื่อว่าสิ่งที่ท้องถิ่นต้องการคือการกำหนดอนาคตตนเอง สิทธิและเสรีภาพในการจัดการตนเอง ในเรื่องนี้ก็คือจะต้องโอนถ่ายอำนาจโอน ถ่ายความรับผิดชอบจากรัฐส่วนกลางไปสู่ท้องถิ่นให้เป็นจริงให้ได้ อันนี้เป็นนโยบายกรอบการทำงานหลักของพรรคเรา        
    ผู้สื่อข่าวถามว่า จะถูกมองว่าการเดินทางมา จ.ตรังครั้งนี้ มาตีเมืองหลวงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์หรือเปล่า นายธนาธรปฏิเสธทันควันว่า ไม่ได้เป็นอย่างนั้น แต่ที่นี่พร้อมที่สุด ประจวบเหมาะพอดี ก็เลยลงมาที่นี่เป็นที่แรก 
    "ผมต้องการเรียนรู้และต้องการรับทราบปัญหาจริงๆ ของผู้ประกอบการในภาคใต้ ซึ่งการที่เราอยู่ในกรุงเทพฯ เราไม่สามารถเข้าถึงข้อเท็จจริงได้ เราไม่สามารถรับฟังเสียงได้ ตรงนี้เราคิดว่าเป็นการรับฟังเป็นหลัก และพื้นที่จริงๆ มีปัญหาอะไรบ้าง" นายธนาธรกล่าว
"สุเทพ"ยันตั้งพรรค กปปส.
    ที่หอประชุมขวัญข้าว วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) กล่าวกับประชาชนที่มาร่วมทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษาที่มีกว่า 1,000 คน ว่า ต้องขอขอบคุณ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีต รองอธิบดีกรมตำรวจ และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ให้เกียรติเป็นประธานทอดผ้าป่าฯ วิทยาลัยอาชีวศึกษาแห่งนี้เป็นวิทยาลัยที่พวกเราตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อจะให้เป็นต้นแบบที่จะนำไปสู่การปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทย ในส่วนที่เกี่ยวกับอาชีวศึกษา นักศึกษาที่มาเรียนแห่งนี้ มาจากทั่วประเทศ โดยการมาเรียนทั้ง 5 ปี จนจบการศึกษาในระดับประโยควิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) นักศึกษาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดทั้งสิ้น
        นายสุเทพกล่าวว่า ในโอกาสข้างหน้าพวกท่านจะได้ยินตนออกมาพูดเรื่องการปฏิรูปประเทศมากขึ้นและอย่าสับสนเป็นอันขาด ช่วงนี้มีการตั้งพรรคการเมืองกันมากมาย ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี  ประชาชนจะได้มีทางเลือกมากขึ้น  
    "สำหรับผมขอยืนยันว่าไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรอีกแล้ว ตั้งแต่ออกมาเดินถนน เป็นกบฏร่วมกับพี่น้อง กำลังปลื้มอกปลื้มใจ กับฐานะผู้ต้องหาคดีอาญาและคดีแพ่ง อันเกิดจากการต่อสู้คราวนั้นจึงไม่ต้องการที่จะรับตำแหน่งอื่น เราที่เกิดมาเป็นคนไทยวันนี้ทุกคน ต่างก็มีภาระหน้าที่ที่จะต้องทำให้กับประเทศไทย แม้ผมไม่ประสงค์ที่จะมีตำแหน่งทางการเมือง แต่ก็มีหน้าที่เหมือนคนไทยทั้งหลาย ที่จะต้องเข้ามาดูแลงานการเมืองให้กับประเทศไทย เพราะฉะนั้นขอได้โปรดติดตามเรื่องนี้ต่อไป ก็จะได้พบความเป็นจริง นวัตกรรมใหม่ๆ ทางการเมือง"
        นายสุเทพยืนยันว่า แนวความคิดอุดมการณ์ของมวลมหาประชาชนที่จะปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น จะต้องมีประชาชน  กระบวนการของประชาชน พรรคการเมืองของประชาชนทำหน้าที่นี้ สืบสานปณิธาน อุดมการณ์ ของ กปปส.ต่อไป ไม่ใช่พรรคการเมืองของ กปปส. แต่เป็นพรรคการเมืองของประชาชนที่จะผลักดันให้แนวความคิดของคนที่เคยเป็น กปปส.สำเร็จสมบูรณ์ให้ได้
มรดกทางวัฒนธรรม
         "เมืองไทยวันนี้อยู่ในระหว่างหัวเลี้ยวหัวต่อ เราไม่ต้องการให้วงจรการเมืองที่เลวร้ายเหมือนในอดีตหมุนกลับมาใหม่ เราต้องการเมืองไทยที่มีเสถียรภาพ มีพระมหากษัตริย์เป็นองค์ประมุข ไม่ยอมให้ใครมาแตะต้อง บ่อนทำลาย เพราะนี่คือความมั่นคงของประเทศไทย ที่คือมรดกทางวัฒนธรรม วัฒนธรรมทางการเมืองการปกครองอันดีงามของเราวันนี้ มีคนบ้าฝรั่งคิดแบบฝรั่ง แต่เราคนไทยพ่อแม่ปู่ย่าตายายไม่ได้สอนเราแบบนั้น นี่ก็เป็นประเด็น และฝากคนที่มาในวันนี้ด้วยว่าไปพูดคุยกับญาติมิตรว่า เราคนไทย มีหน้าที่ที่จะต้องร่วมกันทำงานทางการเมือง เพื่อความอยู่รอดของประเทศไทย ไม่ใช่ทำงานการเมืองเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง เพื่อพรรคการเมืองใด เพื่อครอบครัวใคร หรือกลุ่มคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องทำการเมืองเพื่อประเทศไทย เวลาต่อไปนี้จะมีเรื่องราวทางการเมืองเกิดขึ้นมากมาย ฝากให้ทุกคนตัดสินใจ ติดตามใคร่ครวญ ใช้ดุลพินิจ"
        นายสุเทพกล่าวต่อว่า ตนโชคดีในอดีตเคยได้รับพระราชทานพระบรมราโชวาทจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโดยตรงว่า  ประชาธิปไตยของประเทศไทยนั้น เราต้องเชื่อมั่นในประชาชน เราต้องไว้วางใจประชาชน และเวลาเราต้องไว้วางใจประชาชน และเวลา 204 วันที่ได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ ร่วมเป็นร่วมตายกับพี่น้อง ได้พบเลยว่าสิ่งที่พระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสสอนมานั้นเป็นเรื่องจริง ตนสามารถไว้ใจ และเชื่อใจประชาชนได้จริงๆ และเราทำได้สำเร็จ
        สำหรับบรรดาอดีตนักการเมืองที่มาร่วมในการทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษาครั้งนี้ อาทิ นายถาวร เสนเนียม นายวิทยา แก้วภราดัย, นายอิสสระ สมชัย, นายชินวรณ์ บุญเกียรติ, นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู,  นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม, นายสมบัติ ยะสินธุ์,   นางอัญชลี วานิช เทพบุตร, นายชุมพล กาญจนะ, นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร, นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์, นายธานี เทือกสุบรรณ, นายชุมพล จุลใส,  นายอุทัย ยอดมณี, นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข,  นายประสาร มฤคพิทักษ์, นางอัญชะลี  ไพรีรัก เป็นต้น.
    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"