22 พ.ค.63-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังพิธีเปิดทดลองให้บริการ (Soft Opening) ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 ส่วนต่อขยายช่วงพัทยา-มาบตาพุดว่า กระทรวงคมนาคมมีนโยบายให้กรมทางหลวง (ทล.) ดำเนินการพัฒนาโครงข่ายมอเตอร์เวย์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการเดินทางและคมนาคมขนส่ง ทางบก ให้เชื่อมโยงกับรูปแบบการขนส่งทั้งทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580)
ทั้งนี้ จากนโยบายดังกล่าวนั้น เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2558 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงได้มีมติอนุมัติให้กรมทางหลวง ดำเนินโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา ส่วนต่อขยายช่วงพัทยา-มาบตาพุด และเตรียมเปิดทดลองให้ประชาชนได้ใช้บริการ ในวันนี้ (22 พ.ค. 2563) เวลา 16.00 น. ที่ด่านฯ อู่ตะเภา โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง เพื่อทดสอบระบบ และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและโลจิสติกส์ ของภาคอุตสาหกรรม เติมเต็มโครงข่ายคมนาคมขนส่งในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมถึงขยายโอกาสการค้าและการลงทุน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น พร้อมทั้งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต และยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนด้วย
ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 สายกรุงเทพฯ-บ้านฉาง เป็นหนึ่งในโครงข่ายสำคัญตามแผนแม่บทการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ระยะ 20 ปี เพื่อเสริมประสิทธิภาพการขนส่งและโลจิสติกส์ของภาคอุตสาหกรรม เติมเต็มโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เชื่อมโยงการขนส่งทั้งทางน้ำและทางอากาศ ตลอดจนเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างภูมิภาค ขยายโอกาสการค้าและการลงทุน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยปัจจุบันได้เปิดให้บริการช่วงกรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา
สำหรับมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 ส่วนต่อขยายช่วงพัทยา-มาบตาพุดนั้น ใช้วงเงินลงทุนรวม 17,784 ล้านบาท เป็นค่าเวนคืน 6,000 ล้านบาท และค่าก่อสร้าง 11,784 ล้านบาท โดยกรมทางหลวงใช้เงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทาง ซึ่งเป็นรายได้ที่จัดเก็บจากค่าธรรมเนียมผ่านทางของมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 และหมายเลข 9 ที่เปิดให้บริการในปัจจุบันมาใช้ดำเนินการก่อสร้างทั้งหมด แบ่งงานก่อสร้างออกเป็น 14 สัญญา ได้แก่ งานโยธา 13 สัญญา และงานระบบ 1 สัญญา โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 ปัจจุบันงานในส่วนต่างๆ ใกล้แล้วเสร็จสมบูรณ์ และพร้อมเปิดทดลองให้ประชาชนได้ใช้บริการแล้ว
นายสราวุธ กล่าวต่ออีกว่า การเปิดทดลองให้บริการในครั้งนี้ ประชาชนที่เดินทางโดยมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 สามารถเลี้ยวเข้าสู่ส่วนต่อขยาย ช่วงพัทยา-มาบตาพุด บริเวณทางแยกต่างระดับมาบประชัน และจะเปิดให้เข้า-ออกเฉพาะจุดปลายทางบริเวณด่านอู่ตะเภา โดยกรมทางหลวงจะไม่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางเพิ่มสำหรับการใช้เส้นทางส่วนต่อขยายนี้ และเมื่อเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในช่วง ก.ย. 2563 จึงจะจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางในอัตราใหม่ตลอดเส้นทาง จากกรุงเทพฯ ถึง ด่านอู่ตะเภา รถยนต์ 4 ล้อ 25-130 บาท รถยนต์ 6 ล้อ 45-210 บาท และรถยนต์มากกว่า 6 ล้อขึ้นไป 60-305 บาท ตามลำดับ
สำหรับส่วนต่อขยาย ช่วงพัทยา-มาบตาพุดนั้น เป็นทางหลวงมาตรฐานสูงที่มีการควบคุมการเข้า-ออกอย่างสมบูรณ์ (Fully Controlled Access) ขนาด 4-6 ช่องจราจร ระยะทาง 32 กิโลเมตร เชื่อมต่อทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 บริเวณทางแยกต่างระดับมาบประชัน มีด่านเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทาง 3 แห่ง ได้แก่ ด่านฯ ห้วยใหญ่ เชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท บริเวณบ้านอำเภอ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี, ด่านฯ เขาชีโอน เชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 331 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และด่านฯ อู่ตะเภา เชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท บริเวณอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง มีระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง ทั้งระบบเงินสด และระบบอัตโนมัติ พร้อมทั้งระบบควบคุมการจราจรและระบบอำนวยความปลอดภัยต่างๆ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |