“ผมว่าผมอายุมากแล้วนะ เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมสนับสนุนท่านนายกฯ ประยุทธ์นั่นแหละ ถามว่าทำไม ก็เพราะหลายปีที่ผ่านมาเราเคยเห็นความไม่สงบใช่ไหม คุณอยากให้บ้านเมืองกลับไปอย่างนั้นไหม ดังนั้นถ้าบอกว่าสนับสนุนใคร ก็ต้องบอกว่าสนับสนุนท่านนายกฯ ประยุทธ์ แต่การสนับสนุนไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นรัฐมนตรีต่อ คนเรามันมีอายุขัย จึงอยากเชิญชวนให้คนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาร่วมกัน ถ้าชอบนายกฯ ประยุทธ์ก็สนับสนุนท่าน ถ้าไม่ชอบก็พรรคอื่น และท่านก็ไม่เคยพูดอะไรสักอย่าง"

            เสี่ยกวง-สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาล คสช. ภายใต้การนำของ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศชัด เลิกแทงกั๊ก สงวนท่าที สนับสนุน บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้กลับเข้ามามีอำนาจในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ในการเลือกตั้งสมัยหน้า

            ส่งสัญญาณเอาแน่ ไม่ยอมให้ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ กลายเป็นคนไร้สังกัด อยู่ในข่ายรอเทียบเชิญจากพรรคการเมืองเพียงอย่างเดียว ที่ไม่มีความแน่นอน ยิ่งผลเลือกตั้งออกมา หากเซอร์ไพรส์ เอนไปทางขั้วอำนาจเก่า คงได้เห็นปรากฏการณ์ปลาไหลจากหลายพรรคอีกแน่

            อาการขยับขับเคลื่อนหา พันธมิตรการเมือง ทั้งจากบิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์เอง กับนายสมคิด อยู่ในฝ่ายที่เดินเกมรุก หาพันธมิตรการเมืองอย่างเห็นได้ชัด การเดินสายประชุม ครม.สัญจรไปพื้นที่ต่างๆ มักมีผู้มากบารมีมารอต้อนรับอย่างผิดสังเกต ไปประชุม ครม.สัญจร จ.สุโขทัย มีเสี่ยสมศักดิ์-สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มวังน้ำยมนำ            คณะอดีต ส.ส. คณะผู้บริหารท้องถิ่น มารอต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี การไปประชุมภาคตะวันออก มี บิ๊กแป๊ะ-สนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล นำอดีต ส.ส.ชลบุรี คณะผู้บริหารทั้งในจังหวัดชลบุรี จังหวัดใกล้เคียงมารอต้อนรับ

            ก่อนหน้าไปเยือนนครปฐม พี่น้องบ้านสะสมทรัพย์ เข้ามาร่วมชักภาพจนเป็นข่าวดังไปทั่ว ไป ครม.สัญจร สมุทรสาคร-เพชรบุรี มีเสี่ยจ้อน-อลงกรณ์ พลบุตร อดีต ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ นำคณะผู้บริหารท้องถิ่นร่วมประชุม หารือแนวทางพัฒนาจังหวัดต่อ พล.อ.ประยุทธ์ เช่นกัน

            เฮียกวง-สมคิด ขยับเขยื้อนไม่ต่างกัน ไม่เพียงออกปาก ไม่สงวนท่าทีต่อการตั้งพรรค พบปะลูกหลานเจ้าสัวคราใด มักชักชวนให้เข้าสู่ถนนการเมือง แถมยังทาบทามพรรคพวกที่เคยผูกพันกันมาเดิมสมัยตั้งแต่สมคิดยังเป็นรัฐมนตรีในยุคพรรคไทยรักไทย ที่เจ้าตัวก็คุ้นเคยกับคนหลายขั้ว หลายก๊ก เตรียมต่อสาย ใช้คอนเน็กชั่นดึงให้มาร่วมงานเช่นกัน นักการเมืองกลุ่ม 16 นักการเมืองเลืองชื่อในอดีต ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี ล่าสุดเพิ่งมีข่าว กลุ่มพ่อมดดำ เฮียตี๋-สุชาติ ตันเจริญ แห่งเมืองแปดริ้ว ดูมีท่าทีเอนเอียงสนใจมาทางนี้

            พรรคเกิดใหม่ที่ทรงพลัง เดินเกมลุยแหลก ประชารัฐเป็นเต็งหนึ่งที่ว่ากันว่า เป็นพรรครองรับสำหรับ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อสำรวจปัจจัยแนวรบ ความพร้อม ประชารัฐอยู่ในฝ่ายที่ได้เปรียบ

          กระสุนดินดำ ไม่ต้องกังวล มือประสานระดับเฮียกวงผู้มากบารมีทั้งแวดวงการเมือง แวดวงนักธุรกิจ นักลงทุน ระดมลงขันกันมา กระสุนดินดำพร้อมสู้รบไม่ต้องกลัวหมดหน้าตัก

            แนวร่วมพันธมิตรก็อยู่ในขั้นเตรียมความพร้อม มีทั้งแนว รุ่นเก่า-รุ่นเก๋า ทางการเมือง ที่พร้อมต่อกรกับทุกพรรคในสนามเลือกตั้งได้อย่างไม่เป็นรอง ยังไม่นับรวมพรรคแนวร่วมเกิดใหม่ บุคลากรภายใน ที่ต่างมีแนวคิดต่อยอดทางนโยบาย ที่พร้อมนำมาเป็นจุดขาย

            เงื่อนไขกฎกติกา กลไกอำนาจ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อพรรคทางนี้ ออกลักษณะจะได้เปรียบ มีรังวัดดีกว่าพรรคการเมืองอื่น ประชารัฐการันตีคนพักอาศัย เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย ปลอดภัย แถมยังไม่ต้องพะวงกับรายจ่ายหากแบ่งการสู้รบผ่านสนามเลือกตั้งเป็น 3 ขั้ว ฝ่ายสนับสนุน ฝ่ายต่อต้าน ฝ่ายรอดูท่าที

            เพื่อไทย-อนาคตใหม่ ที่ประกาศยืนยันชัด สู้รบ ยึดมั่นตามแนวทางระบอบประชาธิปไตย ไม่เอานายกรัฐมนตรีคนนอกอย่างแน่นอน ประกาศยืนยันชัด แถมล่าสุดคนในพรรคยังออกมายกบทเรียนในอดีต ทหารมาเล่นการเมืองคงไม่ประสบความสำเร็จ เป็นเพียงพรรคเฉพาะกิจ

            แม้ในวันนี้ มาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประสานเสียงผู้อาวุโส ผู้นำทางความคิด นายหัว-ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน ผู้มีบารมี ผู้นำทางความคิดยืนยันชัดเจน ไม่เอานายกรัฐมนตรีคนนอก แต่ด้วยการเมืองไทยที่เปลี่ยนแปลงไปได้ทุกจังหวะโอกาส ตามเงื่อนไขสถานการณ์ วันข้างหน้ายังไม่รู้ได้ อภิสิทธิ์จะยังยืนยันคำนี้ไปถึงวันเลือกตั้งจริงหรือไม่

            พรรคภูมิใจไทย ชาติไทย ชาติพัฒนา แม้จะยังไม่ประกาศตัวไปในทิศทางใด แต่เมื่อดูบทเรียนจากอดีต มักเอนเอียงไปยังฝั่งผู้มีอำนาจเสมอมา

            กลไกอำนาจ ความได้เปรียบ ไหลเข้าทาง คนในเครือข่ายผู้มีอำนาจในปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์มักตอกย้ำบ่อยครั้ง ย้อนไปดูเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในอดีต เกิดจากใคร เพราะอะไร พร้อมกับสำทับเป็นผู้ที่เข้ามาดับวิกฤติ ลดการเผชิญหน้าที่อาจนำไปสู่ความสูญเสีย ชูภาพลักษณ์คนเข้ามาแก้วิกฤติ สลายความขัดแย้ง

             สมคิด ขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ อย่างเต็มที่ เข้าไปดูแล แก้ปัญหาทั้งระดับ ฐานราก ชนชั้นกลาง ชนชั้นเจ้าสัว ที่ต่างได้รับอานิสงส์จากนโยบายรัฐบาลทั้งนั้น ยังไม่นับรวมการชักชวนนักลงทุนจากต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในเมืองไทย ด้วยเงื่อนไขปัจจัยที่เอื้ออำนวย

            แม้แต่โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่เดินเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น วางโรดแมป เชื่อมต่อขยายเส้นทางเดินทางที่รองรับกันอย่างเป็นระบบ รถไฟความเร็วสูง สนามบิน ท่าเรือ 3 ปัจจัยหลัก กระตุ้นนักลงทุนทั่วโลกให้หันมามอง สานฝันปั้นไปสู่ฮับทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

            พรรคเพื่อไทยอาจจะติติงหลายโครงการ หลายนโยบายของรัฐบาล แต่กับอีอีซี ไม่มีใครกล้าด่าอย่างเต็มปาก เพราะรู้ดี หากเดินไปตามแนวทางรัฐบาลไปได้ อีก 5 ปีจะเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าประเทศครั้งใหญ่                

            แม้จะยังไม่แน่ชัด บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จะโดดลงมาสังกัดพรรคอย่างเต็มตัวหรือไม่ แต่จากการเคลื่อนไหวลงพื้นที่ หาพันธมิตรการเมือง ประกาศยืนยันชัดถึงความเป็น นักการเมือง เพียงแต่รูปแบบ วิธีการยังไม่ลงตัว จะเข้าสู่อำนาจในรูปแบบใดเท่านั้น

            ทิศทางลม ไหลเข้าทาง ประชารัฐ ให้เป็นผู้ได้เปรียบค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันในอดีตมีบทเรียนกรณีน่าศึกษา จากพรรคไทยรักไทยตอนปลาย ที่อาศัยอำนาจรัฐ กฎกติกา ทุกองคาพยพเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงธรรมาภิบาล แม้จะทำให้ตัวเองชนะ แต่ก็ไม่สามารถรักษาอำนาจไว้ได้ และสูญเสียอำนาจไปในที่สุด

            ปัญหาปากท้อง ที่หากเข้าไปทำให้ตรงจุด ชาวนา เกษตรกร แรงงาน ผู้มีรายได้น้อยหาเช้ากินค่ำ มนุษย์เงินเดือน หากตีโจทย์แตก แก้ปัญหาด้วยปัญญาที่ต้นเหตุ เข้าใจปัญหาให้แตกฉาน ผ่านนโยบายจับต้องได้ ไม่ขายฝัน

            หนทางชัยชนะที่ใสสะอาดเป็นเพียงบทเริ่มต้น แต่ยังหมายถึง กำราบ ฆ่าบางพรรคให้ตายไปอย่างถาวรทางการเมืองอีกด้วย!!!.

                                                                                              ทีมข่าวการเมือง