เด้งด่วน 3 ตำรวจสืบสวนภาค 8 หลังชาวบ้านกว่า 300 คนฮือกักตัว กล่าวหารีดเงิน 5 ล้านจากพ่อค้าหอยแครงแลกไม่ดำเนินคดีทำประมงผิดกฎหมาย ผบช.ภ.8 ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง "บิ๊กแป๊ะ" เต้น ชี้หากมีมูลฟันทั้งวินัย-อาญา ไล่เบี้ยถึงผู้บังคับบัญชาด้วย
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ชี้แจงกรณีชาวบ้าน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี รุมล้อมรถยนต์ผู้อ้างตัวเป็นตำรวจขณะเข้าไปจับกุมชาวประมงที่จับลูกหอยแครงและเรียกเงิน 5 ล้านบาทเป็นการแลกเปลี่ยนไม่ถูกดําเนินคดี ได้รับรายงานจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค.63 เวลาประมาณ 17.30 น. สภ.กาญจนดิษฐ์ได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สส.ภ.8 จำนวน 3 นาย ได้เข้าไปทำการตรวจสอบการทำประมงผิดกฎหมายในพื้นที่ และขณะทำการตรวจสอบได้เกิดการเข้าใจผิดกับชาวบ้านในชุมชน จึงถูกชาวบ้านซึ่งเป็นชาวมุสลิมกว่า 300 คนปิดล้อมรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กจ 792 สุราษฎร์ธานี ของตำรวจจนไม่สามารถออกมาได้ จึงขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาญจนดิษฐ์ สนับสนุน โดยได้เจรจาเบื้องต้นกับผู้ชุมนุมปิดล้อม แต่ไม่สามารถหาทางออกได้ โดยชาวบ้านเรียกร้องให้นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว อดีตกำนันตำบลทุ่งกง อ.กาญจนดิษฐ์ เป็นคนกลางเข้ามาเจรจา และในที่สุดชาวบ้านยอมให้ตำรวจทั้ง 3 นายกลับออกไป โดยมีข้อแม้ต้องไม่เข้ามาในพื้นที่อีกต่อไป
รองโฆษก ตร.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายดังกล่าวเป็นตำรวจสังกัด บก.สส.ภ.8 จริง ซึ่ง พล.ต.ท.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ ผบช.ภ.8 มีคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่ยังศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ศปก.ภ.8) พร้อมมีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยหากพบว่ามีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือมีการเรียกรับเงินตามที่ปรากฏเป็นข่าวจริง ให้ดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กำชับว่า หากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อเหตุดังกล่าวขึ้นจริง ซึ่งถือว่ามีความพฤติกรรมนอกรีต ไปเรียกรับเงินทอง เรียกรับผลประโยชน์ หรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ ให้เร่งดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่เอาไว้เป็นเยี่ยงอย่าง รวมทั้งให้พิจารณาดำเนินการทางวินัยกับผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ฐานปล่อยปละละเลย ไม่สอดส่องดูแลความประพฤติผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายขึ้น
ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า เมื่อทราบข่าวรู้สึกไม่สบายใจ และได้สอบถามไปยัง พล.ต.ต.ภิญโญ หวลกสินธุ์ ผบก.สส.ภ.8 โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่ว่าจะเหตุอะไรก็แล้วแต่ ผู้บังคับบัญชาก็จะดำเนินการตรวจสอบตามที่มีการร้องเรียน ซึ่งเบื้องต้น พล.ต.ท.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ ผบช.ภ.8 ได้สั่งการให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 นายมาช่วยราชการที่ ศปก.ภ.8 จังหวัดภูเก็ต พร้อมกำชับห้ามกลับเข้าไปในพื้นที่ ส่วนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นอำนาจของ ผบช.ภ.8 ดำเนินการ โดยกำชับให้ทำอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่ากระทำผิดจริงก็จะดำเนินการโดยเด็ดขาด ซึ่งต้องดูที่เจตนา ถ้ามีการเรียกรับผลประโยชน์ก็ถือว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ บก.สส.ภ.8 ทั้ง 3 นายได้เข้าจับกุมนายอรุชา บินมูซา อายุ 46 ปี ชาว ต.ท่าทองใหม่ พ่อค้ารับซื้อลูกหอยแครงจากชาวประมงพื้นบ้าน โดยอ้างว่ามีการเรียกเงิน 5 ล้านบาท แลกไม่ดำเนินคดี ซึ่งนายอรุชาจะแจ้งความดำเนินคดีข้อหาข่มขู่กรรโชกทรัพย์ พร้อมเรียกร้องให้ตำรวจภูธรภาค 8 ย้ายบุคคลทั้ง 3 ออกจากพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีภายใน 24 ชั่วโมง และกลุ่มชาวบ้านให้ข้อมูลกับนายอำเภอกาญจนดิษฐ์ว่า ทั้ง 3 คนมีพฤติกรรมกรรโชกทรัพย์และรีดไถเงินชาวประมงพื้นบ้านมานานแล้ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |