21พ.ค.63-นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ในฐานะกรรมการที่ปรึกษาด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมในศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์การทำงานที่ กสศ.เป็นระยะเวลา 2 ปี เราได้มีการศึกษาข้อมูลเชิงลึกจากระบบ iSEE ของ กสศ. และมีข้อเสนอในการสร้าง “ระบบการคุ้มครองทางสังคมในระบบการศึกษา” (social protection in education system) ใน 5 มิติดังนี้
1.ความมั่นคงทางอาหาร (food security) ให้แก่เด็กเยาวชนทุกคนในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเสมอภาค ปัจจุบันเราสนับสนุนอาหารกลางวันเพียง 200 วันต่อปีให้แก่เด็กอนุบาลถึง ป.6 เท่านั้น ยังมีเด็ก ม.ต้นถึง ม.ปลายอีกหลายล้านคนที่ยังไม่มีอาหารกลางวันทานที่โรงเรียน และยังมีอีก 165 วัน ที่เด็กเยาวชนด้อยโอกาสหลายล้านคนยังไม่มีความมั่นคงทางอาหารในชีวิตของตนและครอบครัว
2.ความมั่นคงของสถาบันครอบครัว (family security) ปัจจุบันครอบครัวที่มีรายได้น้อยมากกว่าร้อยละ 40 เป็นครอบครัวแหว่งกลาง พ่อแม่แยกทางกัน ทำให้เด็กเยาวชนราว 1 ล้านคนกำลังเติบโตขึ้นมาโดยขาดความมั่นคงในสถาบันครอบครัว
3.ความพร้อมและความปลอดภัยในการเดินทางไปโรงเรียนของนักเรียน (travel security) ปัจจุบันเด็กเยาวชนเกือบ 2 ล้านคนไม่มีค่าใช้จ่ายและพาหนะที่ปลอดภัยในการเดินทางไปโรงเรียน ทำให้มีเด็กเยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษา และประสบอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางไปโรงเรียน
4.ความพร้อมและความปลอดภัยของสถานศึกษาและครู (school security) ในการจัดการศึกษาทั้งในเชิงกายภาพ และความพร้อมของผู้บริหารและครูในการจัดการศึกษาตามมาตรฐานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรวมไปถึงการจัดการศึกษาแก่ผู้พิการด้อยโอกาสประเภทต่างๆ การป้องกันความรุนแรงในโรงเรียน รวมทั้งการจัดการศึกษาภายใต้สถานการณ์อย่าง COVID-19
5.ความพร้อมของชุมชนท้องถิ่น (community security) สร้าง ความเข้มแข็งและความร่วมมือร่วมใจของชุมชนท้องถิ่น เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญในการสนับสนุนสถาบันครอบครัวและสถานศึกษา ในการส่งเสริมความมั่นคงทางสังคมในระบบการศึกษาทุกด้าน อีกทังเมื่อเร็วๆนี้ เราพบจุดแข็งอย่างหนึ่งในระบบของบ้านเรา คือ อสม.สาธารณสุข ที่เข็มแข็งมากในสถานการณ์โควิด ทำให้ตนคิดว่า หากมี อสม.การศึกษา เข้ามาช่วย เพราะการสร้างเด็กคนหนึ่ง ไม่ใช่การไปห้องเรียน ออนแอร์ ออนไลน์ เราพบ เด็กอายุ 15 ปีตั้งครรภ์ก่อนกำหนด เด็กทำไมไม่ไปอาชีวะเพื่อได้อาชีพ เรื่องเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือจากชุมชนในหลากรูปแบบ เป็นไปได้ไหมที่จะสร้าง อสม.การศึกษา เหมือนอสม.สาธารณสุข
“อย่างไรก็ตาม หากระบบการคุ้มครองทางสังคมเกิดขึ้นได้จริง ย่อมจะเป็นเสาหลักที่สำคัญของระบบการศึกษาในการส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษา และคุณภาพการเรียนรู้ โดย กสศ. จะทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสนับสนุนให้เกิดระบบการคุ้มครองทางสังคม และ เมื่อประชาชนกลุ่มเป้าหมายหลาย 10 ล้านคนและครัวเรือนเหล่านี้ได้รับความคุ้มครองทางสังคมแล้ว ความจำเป็นในการพึ่งพามาตรการกู้วิกฤติในภาวะฉุกเฉินอย่างที่ผ่านมาก็จะลดลง ระยะเวลาที่ใช้ในการกลับสู่ภาวะปกติก็จะลดลง เพราะสังคมไทยจะมี “ภูมิคุ้มกัน” เพื่อสู้วิกฤตทั้งในรอบนี้และรอบหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนสืบไป ทั้งนี้ผลการดำเนินงานของ กสศ.ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา เราสามารถให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และส่งเสริมพัฒนากลุ่มเป้าหมายเด็กเยาวชนทั้งในและนอกระบบการศึกษา รวมถึงครู ผู้พิการ และประชาชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสจำนวนรวมกันแล้ว มากกว่า 1.1 ล้านคน ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศไทยแล้ว ซึ่งต้องขอขอบพระคุณ การสนับสนุนจากคุณครูจากทุกสังกัดที่เกี่ยวข้องที่ช่วยให้ กสศ. เข้าถึง และได้มีโอกาสช่วยเหลือ”ประธานบอร์ด กสศ.กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |