จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน บริษัทอุตสาหกรรมยาและสินค้าอุปโภคยักษ์ใหญ่ ประกาศหยุดขายแป้งเด็กในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาแล้ว อ้างเหตุผลยอดขายลดลงจากการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค และความกลัวว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ก่อมะเร็ง

    บริษัท จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (เจแอนด์เจ) ปฏิเสธมาอย่างยาวนานต่อคำกล่าวหาที่ว่าแป้งโรยตัวของบริษัทปนเปื้อนแร่ใยหินที่เป็นสารก่อมะเร็ง โดยมีการฟ้องร้องจอห์นสันแอนด์จอห์นสันมากกว่า 19,000 คดี

    จอห์นสันแอนด์จอห์นสันแถลงเมื่อวันอังคารที่ 19 พฤษภาคมว่า บริษัทมีความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ต่อความปลอดภัยของแป้งเด็กจอห์นสันที่มีผลศึกษาทางวิทยาศาสตร์รับรองมาแล้วหลายสิบปี แต่จากการประเมินที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 เมื่อเดือนมีนาคม ทำให้แผนกสุขภาพผู้บริโภคของบริษัทตัดสินใจหยุดส่งสินค้าหลายร้อยรายการในสหรัฐและแคนาดา โดยจัดลำดับความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้ามีความต้องการสูง และเพื่อความเหมาะสมในเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคมของฝ่ายผลิตและฝ่ายจัดจำหน่าย บริษัทจึงตัดสินใจหยุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ราว 100 รายการในสหรัฐและแคนาดา รวมถึงแป้งเด็ก

    เจแอนด์เจระบุว่า ความต้องการซื้อแป้งเด็กจอห์นสันในอเมริกาเหนือลดลง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค และการโหมเชื้อไฟของการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จเกี่ยวกับความปลอดภัยของแป้งเด็ก และจากการฟ้องร้องดำเนินคดีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    บริษัทจะนำแป้งเด็กจอห์นสันที่ค้างสต๊อกอยู่ในสหรัฐและแคนาดาออกมาจำหน่ายจนกว่าสินค้าจะหมด และจะยังจำหน่ายแป้งเด็กจอห์นสันในประเทศที่มีผู้บริโภคมีความต้องการแป้งเด็กสูงอย่างมีนัยสำคัญ

    ส.ส.ราชา กริชนามูร์ตี ผู้นำการสอบสวนของสภาคองเกรสสหรัฐเรื่องแป้งเด็กจอห์นสัน บอกว่า การตัดสินใจหยุดจำหน่ายแป้งเด็กในสหรัฐและแคนาดาของบริษัทเจแอนด์เจ นับเป็นชัยชนะครั้งสำคัญสำหรับสุขภาพของประชาชน อนุกรรมาธิการของเขาสอบสวนเรื่องนี้มา 14 เดือน พบว่าเจแอนด์เจทราบมาแล้วหลายสิบปีว่าผลิตภัณฑ์ของตนปนเปื้อนแร่ใยหิน.