ฝ่ายค้าน งอแง 3 วันไม่พอ ถก พรก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้าน


เพิ่มเพื่อน    

20 พ.ค. 63 - ที่ห้องประชุมชั้น 10 พรรคเพื่อไทย มีการประชุมแกนนำ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อแสดงจุดยืนต่อ พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 (พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท) พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563  พ.ร.ก.การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. 2563 และพ.ร.บ. การโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 รวมถึงการเสนอญัตติด่วนต่อสภาฯ ให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อติดตามการใช้งบประมาณตาม พ.ร.ก. ทั้ง 3 ฉบับ

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุมว่า เห็นด้วยกับการออกพ.ร.ก.เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่ไม่เห็นด้วยกับการที่ไม่มีรายละเอียดอะไรเลย นอกจากนี้ การออก พ.ร.ก.กู้เงิน ยังใช้ระบบคณะกรรมการ จำนวน 10 คน เป็นข้าราชการประจำตำแหน่งวิชาการและอำนวยการ 5 ตำแหน่ง และผู้ทรงคุณวุฒิที่นายกรัฐมนตรีตั้งอีก 5 คน ไม่ได้กำหนดคุณสมบัติสามารถตั้งใครก็ได้ ทั้ง 10 คนมีอำนาจหน้าที่ใช้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่เป็นภาษีอากรของประชาชน  แต่ไม่มีการกำหนดเงื่อนไข หรือข้อห้ามเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ อาจทำให้กรรมการใช้สถานะหรือตำแหน่งกระทำการใดไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อมเพื่อหาประโยชน์ของตนเองของผู้อื่น ขณะที่ พ.ร.ก. การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา แม้มีความสำคัญ เพราะเป็นการกระตุ้นให้เศรษฐกิจรุดหน้า แต่ดุลยพินิจของการปล่อยกู้ อยู่ที่ธนาคารพาณิชย์ ที่มีแนวโน้มปล่อยให้ลูกค้าเดิมที่แข็งแรงอยู่แล้ว แต่ SMEs ที่ประสบปัญหา ได้รับผลกระทบจากโควิด ก็ยังคงเข้าไม่ถึงสินเชื่อเหมือนเดิม อยากฟังว่ารัฐบาลมีการควบคุมการปล่อยกู้ หรือการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างไร เพราะอาจะเป็นการเปิดช่องให้มีการทุจริต คอรัปชั่น หรือเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องได้

นายสมพงษ์กล่าวว่า พ.ร.ก. การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. 2563 รัฐบาลมีแนวทางอย่างไร ไม่ใช่เอาไปช่วยพรรคพวกตนเอง หรือไปช่วยกลุ่มคนที่มีเงิน พวกเล่นหุ้น หรือกลุ่มคนที่มีความมั่นคงทางการเงินอยู่แล้ว และเกิดความเสี่ยงต่อความเชื่อมั่นในระบบการเงินของประเทศ นอกจากนี้ พ.ร.ก.กู้เงินนี้ ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้รับผิดชอบ นายกฯลอยตัว ไม่ต้องรับผิดชอบ ทั้งที่ความรับผิดชอบควรเป็นนายกฯซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นายกฯ จึงควรมีส่วนในการรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล เห็นว่า ควรเสนอญัตติด่วนต่อสภาฯ ให้ตั้ง กรรมาธิการวิสามัญเพื่อติดตามการใช้งบประมาณตามพ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับ และมาตรการที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19  โดยกมธ.วิสามัญเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพที่ฝ่ายค้านจะใช้สภาในการเป็นเครื่องมือในการติดตามการใช้งบและการดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้องกับโควิดของรัฐบาล รวมทั้งกรรมาธิการชุดดังกล่าวจะครอบคลุมถึงการใช้งบประมาณ การเยียวยา มาตรการทางระบาดวิทยา มาตรการทางเศรษฐกิจ ที่เกี่ยวข้องกับโควิด

นายพิธา ลิ้มเจริญรัฐ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า การกู้เงินครั้งนี้มีความจำเป็น แต่การใช้เงินจำนวนมากไปสู่อนาคตต้องมีความเท่าเทียม โควิด-19 เปรียบเหมือนมหาพายุ เป็นจุดตัดของโลก และของประเทศไทย เป็นวิกฤติที่ต้องใช้งบประมาณมากที่สุดในการแก้ไขปัญหา กลไกสภาจึงมีความสำคัญ การให้เวลาแค่ 3 วัน ในการอภิปรายเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ควรให้เวลามากกว่านี้ และควรเปิดโอกาสให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมา ติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณ ขณะเดียวกันประชาชนสอบถามเข้ามาจำนวนมากว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังจำเป็นต้องมีอยู่หรือไม่ ทั้งหมดไม่ใช่การเล่นการเมืองในช่วงวิกฤติ แต่เราต้องการรักษาประโยชน์ในช่วงที่เป็นจุดตัดของประเทศ และของโลกเพื่อไปสู่อนาคตที่ดีกว่า ไม่ใช่กลับไปสู่อดีตที่เปลือยประเทศว่าทั้งโครงสร้างเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศไทยบอบช้ำแค่ไหน

นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า อยากได้รายละเอียดในการใช้งบประมาณ และไม่เห็นด้วยกับการที่กำหนดให้การอภิปรายใช้เวลาเพียง 3 วัน ควรเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายอย่างเต็มที่ เพราะเป็นการใช้จ่ายเงินที่ประชาชนต้องรับผิดชอบหนี้จำนวนมหาศาล ที่สำคัญไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะนำ พ.ร.ก.ทั้ง 3ฉบับมาควบรวมพิจารณาพร้อมกันในคราวเดียว พ.ร.ก.กู้เงินแต่ละฉบับมีรายละเอีดที่ต่างกัน ในส่วนของการตั้งคณะกรรมการผู้ทรงวุฒิ 11 คน เข้ามาดูแลเงินจำนวนมหาศาลของประชาชน ควรให้มีการเลือกผู้ทรงคุณวุฒิในสภา แทนการแต่งตั้งจากนายกฯ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า พ.ร.ก.3 ฉบับ ในเรื่องของหลักการ เหตุผลคนละอย่างกัน เมื่อรัฐบาลแยกมา สภาฯต้องพิจารณาแยกทีละฉบับ ยังไม่เคยเห็นการที่แยกพ.ร.ก.มา แล้วเอามาพิจารณารวมกัน แม้จะต้องเสียเวลาไปบ้าง จำนวนเงินสูงถึง 1.9 ล้านล้านบาท และเป็นประโยชน์ของประชาชน ก็ต้องยอมเสียเวลาพิจารณาอย่างถี่ถ้่วน รอบคอบ นอกจากนี้ มีเสียงสะท้อนจากประชาชนมาว่า เงินเยียวยาทำไมรัฐบาลจึงกลั่นกรองในลักษณะที่ยุ่งยาก 2 เดือนแล้วยังไม่ได้ คนหิวเขารอไม่ได้ เพราะแบบนี้จึงมีการฆ่าตัวตาย เพราะการกระทำของรัฐที่ทำให้ยุ่งยาก ไม่มีสมอง กระดุมเม็ดแรกเมื่อมันติดผิด มันก็ผิดเรื่อยไป จึงคิดว่า ไม่น่าไว้วางใจที่จะมอบอำนาจให้รัฐบาลมาแก้ปัญหา และดำเนินการแก้ไขปัญหาในช่วงวิกฤตินี้เพราะช้าเกินการณ์

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า เมื่อเกิดวิกฤติแล้วเราได้ผู้นำที่มีความรู้ความสารถ ปัญหาจะไม่หนักขนาดนี้ แต่เราได้ผู้นำแบบนี้ จึงเหมือนการซ้ำเติมประชาชน โชคดีที่เราได้บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสารถ การกู้เงิน ที่ลูกหลานวันข้างหน้าต้องเป็นคนใช้หนี้ ดังนั้นต้องโปร่งใส ไม่ใช่หยิบฉวยเอาโอกาสนี้ไปเป็นของคนบางกลุ่ม หรือของผู้มีอำนาจ อย่าสร้างโอกาสบนซากศพ และความเดือดร้อนของประชาชน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"